วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

พัฒนาการ “หน้ากากขาว” เริ่มทำลายระบอบทักษิณ!! โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2556 05:53 น.

พัฒนาการ “หน้ากากขาว” เริ่มทำลายระบอบทักษิณ!!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์18 มิถุนายน 2556 05:53 น.

ผ่าประเด็นร้อน 
       
       แม้จะยอมรับความจริงว่าการก่อตัวของ “กลุ่มหน้ากากขาว” ในเวลานี้หากพิจารณาในด้านปริมาณที่แสดงตัวออกมาเดินบนท้องถนนถือว่ายังไม่ถึงขั้นมืดฟ้ามัวดินแบบมหาศาล แต่เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มในทางพัฒนาการแล้วรับรองว่าอารมณ์กำลัง “จุดติด” จนสร้างความหวาดผวาให้กับ “ระบอบทักษิณ” มากขึ้นทุกวัน และที่สำคัญด้วยลักษณะการชุมนุมในเชิงสัญลักษณ์ “รูปแบบที่ไร้รูปแบบ” เป็นการแสดงออกอย่าง “เป็นธรรมชาติ” มากที่สุด เป็นการแสดงออกให้เห็นว่าต่อต้านและไม่เอารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เอาครอบครัวชินวัตร และรู้ทัน ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว
       
       เป็นการแสดงออกของกลุ่มคนที่มีการรับรู้ข้อมูลอย่างเต็มเปี่ยม ที่สำคัญเป็นการนัดหมายผ่านสื่อสมัยใหม่ผ่านโซเชียลมีเดีย ไม่ต้องหวังพึ่งสื่อกระแสหลักให้มาทำข่าว ทุกอย่างมีการเตรียมการกันมาเอง ทั้งอุปกรณ์ การเขียนข้อความที่ทันสมัย การชุมนุมเคลื่อนไหวดังกล่าวจึงไม่จำเป็นต้องมีแกนนำ หรือการจัดการ เพียงแต่ว่ามีการแสดงความคิดเห็นพร้อมใจกันเลือกจุดนัดหมายสักแห่งในการทำกิจกรรมด้วยวามสงบ ในทุกสัปดาห์ พอแสดงสัญลักษณ์เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับ โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดหรือขีดเส้นว่าต้องขับไล่รัฐบาลให้ต้องไปวันนี้หรือพรุ่งนี้ แต่จะเพิ่มปริมาณ เพิ่มสัญลักษณ์การต่อต้านขึ้นเรื่อยๆในทุกสัปดาห์ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดทั่วประเทศ สร้างกระแสกดดันหนักขึ้นเรื่อยๆ จะใส่หรือไม่ใส่หน้ากากก็ไม่ต่างกัน พอแสดงออกเสร็จก็กลับ สงบสันติ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่เสี่ยง และใครก็ไม่อาจขัดขวางได้ เพราะพวกเสื้อแดงหากอ้างว่าเป็นนักประชาธิปไตย ก็รวมกลุ่มสนับสนุนรัฐบาล จะบูชา ทักษิณ ทุกอาทิตย์ หรือจะแย้งว่ารัฐบลยิ่งลักษณ์บริหารเก่ง ทำให้ข้าวของถูกทั้งแผ่นดิน จำนำข้าวมีกำไรนับแสนล้านบาทหรือเชื่อคำพูดของรัฐมนตรีพาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ ว่าขาดทุนไม่ถึง 2.6 แสนล้านบาทแต่บอกไม่ได้ว่าขาดทุนเท่าไหร่ก็มีสิทธิ์ที่จะสนับสนุน แยกกันสนับสนุนได้ ไม่ต้องไปป่วนปิดปากคนอื่น
       
       อย่างไรก็ดี ยิ่งมีคนเสื้อแดงออกมาป่วนมากเท่าใดก็เหมือนกับการ “เรียกแขก” ให้ออกมาขับไล่ “ระบอบทักษิณ” มากขึ้นและพังเร็วมากขึ้นไปอีก อีกทั้งคนในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยที่มักออกมาพูดแบบดูถูกสติปัญญาชาวบ้านการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่ไปป่วนคนอื่นว่าเป็นสิทธิเป็นสีสันของประชาธิปไตยก็ขอให้พูดแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพราะจะยิ่งทำให้พังเร็วมากขึ้น รวมปถึงเรียกคนให้ออกมาเดินตามท้องถนนให้มากขึ้น
       
       สรุปรวมก็คือการออกมาขับไล่รัฐบาลและระบอบทักษิณ ในนาม “หน้ากากขาว” ในแบบไม่มีแกนนำ-ไม่มีเวที “มีรูปแบบแบบไร้รูปแบบ” ซึ่งนี่แหละคือจุดแข็งที่ทำให้ฝ่ายรัฐบาลและเครือข่ายระบอบทักษิณ ไม่รู้จะกำจัดอย่างไร ไม่รู้จะเอาผิดใคร นอกจากางแก้ทางเดียวที่จะทำลายพวกหน้ากากขาวลงได้นั่นคือรัฐบาลต้องมีผลงานเข้าตา เลิกโกง ทักษิณ เลิกเห็นแก่ตัว หยุดสั่งให้ลิ่วล้อเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ เลิกออกกฎหมายลบล้างความผิดให้ตัวเอง และที่สำคัญ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องแสดงให้สังคมเห็นว่ามีสติปัญญาฉลาดเฉลียวมากกว่าที่เป็นอยู่สักร้อยเท่า ซึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้อีกขณะที่จะสั่งให้ตำรวจเข้าปราบปรามสลายการชุมนุมมันก็ทำไม่ได้ เพราะคนพวกนี้เขาชุมนุมโดยสงบใช้สิทธิตามกฎหมาย ในเมื่อคนเสื้อแดงชุมนุมถ่อยเถื่อนยังทำได้ มิหนำซ้ำตำรวจยงอำนวยความสะดวกให้เต็มที่ แล้วทำไมหน้ากากขาวจะชุมนุมไล่รัฐบาลบ้างจะทำไม่ได้ มันขัดกับประชาธิปไตยตรงไหน 
       
       อย่างไรก็ดี ต้องการชี้ให้เห็นว่าปรากฏการณ์ของกลุ่มหน้ากากขาว และกลุ่มอื่นในหลากหลายชื่อเรียกล้วนมาจากการ “ตื่นรู้” และ “ทนไม่ไหว” มากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากได้เห็นตัวตนจริงเมื่อเวลาผ่านไปชวงเวลาหนึ่ง จนไม่สามารถ“อำพรางสันดานเดิม” ได้อีกต่อไป ซึ่งหากย้อนกลับไปในอดีตเมื่อปี 47-48 ที่ระบอบทักษิณ กำลังอหังการ์สุดขีด ก็เริ่มถูกต่อต้านในลักษณะใกล้เคียงกัน เพียงแต่ว่าเมื่อเกิดการรัฐประหาร จนมีการจัดตั้งรัฐบาลขิงแก่ และต่อเนื่องกันกลับกลายเป็นการสร้างเงื่อนไขลวงให้ระบอบทักษิณเข้มแข็งขึ้นมาอีกด้วย
        “หน้ากากประชาธิปไตย”มาหากินเรื่อยมาจนปัจจุบัน ซึ่งหากจะกำจัดพวกนี้ให้สิ้นหรือทำให้อ่อนแอก็มีทางเดียวเท่านั้นคือต้องปล่อยให้กาลเวลาเปลือยตัวตนออกมาพร้อมๆ กับการให้ความรู้แสดงหลักฐานออกมาให้เห็นควบคู่กันไปเรื่อยๆ เหมือนกับในเวลานี้ที่ในโลกไซเบอร์กำลังทำงานกันอย่างได้ผล จนเปิดโปง ให้เห็นอยู่ทุกวัน และเพิ่มปริมาณเพิ่มแนวร่วมฝ่ายต่อต้านเพิ่มมากขึ้นทุกสัปดาห์ นั่นแหละ
       
       แม้ว่าการออกมาของกลุ่มหน้ากากขาวอาจไม่อาจทำให้รัฐบาล และระบอบทักษิณ ต้องล้มลงในเร็วๆ นี้แต่ที่มีความหมายยิ่งไปกว่านัั้นก็คือนี่คือการเปิดโปง เป็นการให้ข้อมูล เป็นการตื่นตัวของชาวบ้านในรูปแบบใหม่ เป็นการ “สร้างความสมดุลทางการเมือง” ในรูปแบบใหม่ และยั่งยืนกว่าเดิม เพราะเมื่อชาวบ้านเห็นความจริงจากสิ่งที่จับต้องได้จากผลงานห่วยแตกของรัฐบาล ได้เห็นความเห็นแก่ตัวของทักษิณและลิ่วล้อ มันก็ยิ่งเกิดการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถามว่าหากการออกมาของชาวบ้านทุกส้ปดาห์โดยสงบมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมใจกันตะโกนขับไล่พร้อมกันเป็นเรือนแสนเรือนล้านว่า “ออกไปๆ” ไม่จำเป็นต้องปักหลักพักค้าง ตะโกนเสร็จก็แยกย้ายกลับบ้าน ถามว่ารัฐบาลจะอยู่ได้เป็นสุขหรือ หรือถามว่าแล้ว ทักษิณ ชินวัตร จะกล้ากลับบ้านก่อนสิ้นปีตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ขี้โม้เอาไว้หรือไม่
       
       นี่แหละถึงได้อบอกว่าหากพัฒนาการของกลุ่มหน้ากากขาวเป็นไปอย่างนี้เรื่อยๆ ทุกสัปดาห์ มันก็เหมือนกับเป็นการทำลายระบอบทักษิณลงทุกวัน เช่นเดียวกัน ซึ่งตอนนี้กำลังหวั่นไหวนั่งไม่ติดกันแล้ว!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น