วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ดีเอสไอกร้าวยึดรถ6พันคัน บิ๊กกรมศุลฯปิดปากนัดลูกสส.ให้ปากคำ เมื่อ 6 มิ.ย.56



ดีเอสไอกร้าวยึดรถ6พันคัน

บิ๊กกรมศุลฯปิดปากนัดลูกสส.ให้ปากคำ



ลูกชาย “เผดิมชัย สะสมทรัพย์” โต้รถหรูยี่ห้อเดียวกันแต่คนละรุ่น ปัดไม่เกี่ยวข้องรถเถื่อน “ธาริต” เรียกประชุม 3 หน่วยงานหลักระดมข้อมูล-หลักฐานตามล้างบางรถสปอร์ตเลี่ยงภาษีอีกเกือบ 6,000 คัน ชี้ ขบวนการฟอกรถทำรัฐสูญรายได้ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท เผยมีรถหรูอีก 3 พันคัน ที่จะต้องตามเช็คบิลล็อต 2 ขณะที่บิ๊กกรมศุลกากรปิดปากเงียบ หลังแผนปฏิบัติการบุกยึดซากรถ 6 คัน ที่ สภ.กลางดง ไม่สำเร็จ
จากกรณีเกิดเหตุไฟปริศนาลุกไหม้รถหรูราคาแพง ทั้งลัมโบร์กินี่, เฟอร์รารี่, เบนท์ลีย์ และบีเอ็มดับเบิลยู บนรถเทรลเลอร์ ขณะลำเลียงไปส่งยังจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 6 คัน มูลค่าความเสียหายประมาณ 80 ล้านบาท เหตุเกิดขณะวิ่งขึ้นเขากลางดง อ.ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา และยังไม่มีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของรถ ก่อนหน่วยงานดีเอสไอ ได้เข้าอายัดรถทั้งหมดไว้เพื่อสืบสวนสอบสวนหาหลักฐาน เอกสารที่เกี่ยวข้องกับรถทั้งหมดว่าถูกต้องหรือไม่ โดยโอนมาเป็นคดีพิเศษของดีเอสไอแล้วนั้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางกรมศุลกากรได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปทำการอายัดและนำรถเทลเลอร์ไปทำการขนซากรถยนต์หรูทั้ง6 คัน เพื่อนำกลับเข้ากรุงเทพฯ แต่ได้รับการปฏิเสธไม่ให้ดำเนินการเคลื่อนย้ายรถสปอร์ตหรูดังกล่าว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังต้องตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติมก่อน
นอกจากนี้คดีดังกล่าวได้โอนเข้าไปอยู่ในความดูแลของดีเอสไอเรียบร้อยแล้ว จึงควรจะให้ทั้ง 2 หน่วยงาน ประสานงานเจรจาตกลงกันให้เรียบร้อยชัดเจนก่อนว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของหน่วยงานใด และรถของกลางควรจะอยู่ในความดูแลของหน่วยงานใด ก่อนจะแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรได้ยอมถอย แต่ได้ติดคำสั่งอายัดรถหรูทั้ง 6 คัน เอาไว้ตามกฎหมายของศุลกากรแล้ว
เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อสอบถามไปยังนางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร เพื่อขอให้ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยระบุว่า ต้องรอความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวก่อน ขณะนี้ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ และไม่สามารถติดต่อได้
ต่อมาวันเดียวกันนี้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบการตรวจสอบคดีรถหรู 6 คัน เกิดเพลิงไหม้ที่ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ดีเอสไอได้ออกหนังสือเรียก พ.ต.สุขชาต สะสมทรัพย์ หรือบอส ลูกชายของนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ที่ปรากฏหลักฐานเบื้องต้นว่าเคยครอบครองทะเบียนรถยนต์ 1 ในคันที่เกิดเหตุ โดยนัดให้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อชี้แจงข้อมูลรถยนต์ในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ เวลา 14.00 น. ซึ่งการเรียกเข้าพบครั้งนี้ยังไม่ได้เป็นชี้ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่
นอกจากนี้ในช่วงเช้า ดีเอสไอได้นัดประชุมร่วมกับผู้แทนที่รับผิดชอบโดยตรงอีก 3 หน่วยงาน คือ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต เพื่อร่วมกันตรวจสอบรถหรูเป้าหมายที่ต้องสงสัยเลี่ยงภาษี 5,832 คัน ซึ่งคณะทำงานชุดนี้จะร่วมกันตรวจสอบรถหรูแบ่งเป็น 3 ล็อต โดยกลุ่มแรกคือทำผิด 100% และรถยังอยู่กับผู้ประกอบการ ดีเอสไอจะเข้าค้นและยึดรถของกลาง กลุ่มที่ 2 เป็นผู้ครอบครองรถจดประกอบที่ผ่านขั้นตอนถูกต้อง ซึ่งจำนวนนี้เชื่อว่ามีประมาณ 15% แนะนำให้เข้ามาแสดงตัวเข้าพบพนักงานสอบสวน และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มรอลุ้นยังแอบใช้รถจดประกอบที่เลียงภาษีดีเอสไอจะเรียกตรวจสอบเป็นรายคันจนครบ หากอ้างว่าเป็นรถจดประกอบ แล้วไม่มีร่องรอยการถอดหรือขันนอตเครื่องยนต์ ก็จะถูกยึดรถทันที นี่จึงถือเป็นทุกข์อย่างหนึ่งของคนรวย ที่ต้องถูกยึดรถหรูให้ตกเป็นของแผ่นดิน
สำหรับเส้นทางของรถจดประกอบรูปแบบที่ถูกต้องนำเข้าตัวถังเก่า ชิ้นส่วนเก่ามาประกอบเป็นรถยนต์ และจะต้องมีวิศวกรรับรองความมั่นคงและสมรรถนะ จากนั้นนำไปชำระภาษีสรรพสามิต หากเป็นรถที่ใช้เชื้อเพลิงหลัก ต้องผ่านการตรวจสอบของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (สมอ.) ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนทางเทคนิคอย่างละเอียด จึงมักมีการเลี่ยงไปติดก๊าซแทนเพื่อไม่ต้องผ่าน สมอ. โดยจะผ่านการตรวจจากกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น จากการตรวจสอบพบว่า ในประเทศไทยไม่มีโรงงานที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงในการประกอบรถยนต์ซูเปอร์คาร์ ดังนั้นรถซูเปอร์คาร์ที่ขอจดทะเบียนเป็นรถจดประกอบ แต่นำเข้ามาทั้งคันโดยมีเอกสารระบุเป็นการจดประกอบเท่านั้นหรือเรียกว่า มีเพียงเปเปอร์จดประกอบจากกระบวนการกำมะลอ ทำหลักฐานขึ้นหลอกลวง ส่วนที่นิยมนำรถไปจดทะเบียนที่ต่างจังหวัด จำนวน 21 จังหวัดนั้น ก็เพื่อล้างเล่ม เมื่อจดทะเบียนได้แล้วจะโอนเล่มเข้าทะเบียนในกรุงเทพฯ เพื่อไม่ให้มีหลักฐานเก่าว่าเป็นรถที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง
นายธาริต ยังกล่าวถึงความเสียหายที่รัฐว่าประเมินไว้เบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาท เนื่องจากหากเป็นการนำเข้า ปกติจะเสียภาษีตั้งแต่ 200-314% แต่เมื่อหลีกเลี่ยงจะเสียภาษีเพียง 30-50% เท่านั้น ซึ่งรถหรูที่เลี่ยงภาษีกว่า 5,834 คัน และที่อยู่ระหว่างรอจดทะเบียนอีก 3,000 คันรวมเป็นกว่า 8,000 คัน ดีเอสไอมีข้อมูลว่ารถหรู 6 คัน ที่เกิดเหตุที่ อ.ปากช่อง อยู่ในบัญชีของกลุ่มรถหรูที่อยู่ระหว่างรอการจดทะเบียน
ขณะเดียวกัน พ.ต.สุขชาติ สะสมทรัพย์ บุตรชาย นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อชี้แจง ภายหลังพบป้ายทะเบียนรถตกอยู่ในที่เกิดเหตุไฟไหม้รถหรู 6 คัน มูลค่า 100 ล้านบาทบนถนนมิตรภาพ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้น พ.ต.สุขชาติยืนยันว่า รถลัมบอร์กินี่ สีขาว คันที่เกิดเหตุไฟไหม้ ไม่ใช่ของตนและเป็นคนละรุ่นกัน ส่วนป้ายทะเบียนหมายเลข ฌล 6217 กรุงเทพมหานคร ที่ตกในที่เกิดเหตุนั้น ยอมรับว่าเคยเป็นผู้ครอบครอง แต่ได้แจ้งกรมการขนส่งทางบกเพื่อขอเปลี่ยนหมายเลขทะเบียน และนำป้ายทะเบียนดังกล่าวคืนให้กรมการขนส่งฯ ไปแล้ว โดยวันนี้ได้เตรียมเอกสารหลักฐานมาชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ




วันที่ 6/06/2556 เวลา 8:29

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น