วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แม่ติดเน็ต-ติดยาลดความอ้วนจนประสาทหลอน จับลูกขังห้อง เมื่อ 6 มิ.ย.56



แม่ติดเน็ต-ติดยาลดความอ้วนจนประสาทหลอน จับลูกขังห้อง
 
สภ.บางขุนเทียนรับแจ้งเหตุ แม่ติดเน็ต-ติดยาลดความอ้วนจนประสาทหลอน จับลูกขังห้องอ้างกลัวได้รับอันตราย แต่ไม่ได้ทำอันตรายเด็ก จนท.จึงส่งโรงพยาบาลโดยไม่ดำเนินคดี

วันนี้ ( 5 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.นภณัฐ แปงเครื่อง รอง ผกก.ป.สน.บางขุนเทียน

รับแจ้งเหตุ แม่จับลูกขังไว้ภายในห้องพักโดยมีมีดเป็นอาวุธ  ที่ตึกแถวเลขที่ 122/182ซ.จอมทอง 16 แขวง บางค้อ เขต จอมทอง กรุงเทพ หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุนทร  อัมพรายน์  ผกก.สน.บางขุนเทียน กทม. ที่เกิดเหตุเป็น ตึกแถว2ชั้น 1คูหาด้านล่างเปิดเป็นร้านขายของชำ พบ นายชัยเดช ภาณุบำรุงพงษ์ อายุ 42ปี  สามีและเจ้าของบ้าน ยืนให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ด้านบนห้องนอน ชั้น 2 นาง ศิรินทิพย์  ภานุบำรุงพงษ์ อายุ 39 ปี  ภรรยาของตน ได้กักตัว ด.ญ.มินท์  อายุ13 ปี (นามสมมุติ) และ ด.ช.นีโน่  อายุ11ปี อยู่บนห้อง ไม่ยอมออกจากห้องตั้งแต่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนกลัวว่าลูกจะได้รับอันตราย จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่มาเพื่อตรวจสอบ

  นาย ชัยเดช เผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ภรรยาของตนเองซึ่งเป็นผู้ป่วย และเคยเข้าทำการรักษาที่รพ.สมเด็จเจ้าพระยา เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา

และก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา ภรรยาซึ่งชอบเล่นคอมพิวเตอร์เป็นชีวิตจิตใจ และไม่ได้พักผ่อน เกิดอาการเครียดขึ้นมา กลัวว่านายชัยเดชจะทำร้ายลูก ทั้ง2คน จึงได้เอาลูกทั้ง2คนขึ้นไปภายในห้อง และไม่ยอมให้ใครเข้าในห้อง  กระทั่งเช้าก็ไม่ยอมเปิดห้อง กลัวว่าลูกจะเป็นอันตราย นายชัยเดชจึงกลัวว่าลูกจะถูกทำร้าย จึงเรียกให้เจ้าหน้าที่มาที่เกิดเหตุเพื่อเจรจา


นางสิริ ภัทรธรรมธงชัย อายุ 40 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า นางศิริทิพย์ หรือพี่เอตามที่ชาวบ้านได้เรียกกัน 
มักจะมาบ่นให้ฟังบ่อยครั้งถึงเรื่องอาการเครียด จากการกินยาลดความอ้วน ทำให้ไม่ค่อยมีแรง อ่อนล้าอีกทั้งยังทราบว่า นางศิริทิพย์มักจะเล่นคอมพิวเตอร์จนห่ามรุ่นห่ามค่ำไม่หลับ ไม่ยอมทานอาหารเลย จนทำให้ร่างกายผอมแห้ง
 ส่วนเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ขึ้นไปพูดคุยหลังจากที่นางศิริทิพย์ได้พยายามร้องให้คนช่วยว่าถูกคนร้ายบุกเข้าบ้าน โดยมีรถ 10 ล้อมาจอดรอหน้าบ้าน พยายามที่จะยกทรัพย์สินไป แต่เมื่อได้ขึ้นไปพบพูดคุยกับไม่พบรถ 10 ล้อและคนร้ายในบ้านตามที่นางศิรินทิพย์อ้างถึง จึงคิดว่านางศิรินทิพย์อาจมีปัญหาทางประสาท แต่นางศิรินทิพย์ไม่ได้ถือมีดจี้เด็กแต่อย่างใดเพียงแต่พบว่ามีมีดปอกผลไม้ยาวประมาณ 30 ซม.วางอยู่ข้างที่นอน ส่วนเด็กก็นั่งเล่นกันปกติไม่ได้มีอาการหวาดแต่อย่างใด


ม.ล.อุปปญ์ ณ มุกดา เพื่อนบ้านคนสนิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่  4 มิ.ย.ที่ผ่านมา 
ได้ยินเสียงร้องโวยวายให้คนช่วยจากบ้านหลังดังกล่าว ว่ามีขโมยพยายามจะเข้าบ้าน จึงได้รีบขึ้นไปหานางศิรินทิพย์พบว่าในมือได้ถือมีดปอกผลไม้ ประมาณ 30ซม. แต่ไม่ได้จี้ไปที่ลูกแต่อย่างใด เพียงแต่ถือขึ้นมาเพราะหลอนว่า จะมีคนมาปล้นบ้าน จึงค่อยๆเข้าไปปลอบ จนนางศิรินทิพย์วางมีดลง และพยายามจะนำส่งโรงพยาบาลแต่ว่า เห็นว่าอารมณ์ได้ผ่อนคลายลงแล้วจึงปล่อยให้อยู่ภายในห้อง จนกระทั้งเช้าวันนี้เวลา ประมาณ 08.00.น. ได้ขึ้นไปอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่ได้เข้าไปในห้อง ได้เพียงแต่คุยกันผ่านประตูเนื่องจากนางศิรินทิพย์มีอาการหวาดกลัวว่าจะมีคนมาทำร้ายเกรงว่าจะเป็นอัตรายกับเด็ก ก่อนตามนายชัยเดชซึ่งเป็นสามีให้มาเจรจาแต่ไม่เป็นผลจึงต้องตามเจ้าหน้าที่ให้มาดู

 ทางด้าน พ.ต.อ.สุนทร เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งได้รุดมาที่เกิดเหตุ และได้ขึ้นไปพูดคุยกับนางศิริทิพย์อยู่บริเวณหน้าห้อง พบว่านางศิริทิพย์นอนดูทีวีอยู่เพียงแต่ไม่อยากให้ใครเข้ามาภายในห้องเท่านั้น เด็กทั้ง 2คน ก็ปกติดีอยู่ในห้องกับแม่ อีกทั้งยังไม่อยากให้พ่อเข้ามาภายในห้อง

จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับทางรถ รพ.ใกล้เคียงมาจอดรอ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น 
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านและสื่อมวลชนทราบ กลัวว่าเมื่อข่าวเผื่อแพร่ออกไป จะทำให้เด็กมีปมด้อย และเป็นเรื่องภายในครอบครัวเท่านั้น ไม่ใช้การจับเด็กเป็นตัวประกันแต่อย่างใด กระทั่งเวลา 14.00 น. นาง ศิรินทิพย์ได้เปิดประตูให้ทางเจ้าหน้าทีเข้ามาภายในห้อง ซึ่งนางศิรินทิพย์มีอาการหวาดกลัว และฉีกธนบัตรเกลื่อนห้อง ขณะที่เด็กทั้ง  2 คนก็ไม่ได้มีอาการหวาดผวาแต่อย่างใด เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการทางจิต แต่ไม่ได้ดำเนินคดี
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น