วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ซาบซึ้งลุง-ป้ารักยาวนาน 50 ปีตายแล้วเก็บไว้ในบ้าน เมื่อ 7 มิ.ย.56



ซาบซึ้งลุง-ป้ารักยาวนาน 50 ปีตายแล้วเก็บไว้ในบ้าน
 
ชาวบ้านซาบซึ้งลุงวัย 72 ปีเก็บศพคู่ชีวิตไว้ในบ้าน ทำเหมือนยังอยู่ด้วยกันทุกวัน ผู้สื่อข่าวบุกพิสูจน์แทบช็อกเมื่อเพลงที่คนตายชอบดังขึ้นมาเองระหว่างการสัมภาษณ์ 
วันนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากคำบอกเล่าของชาวบ้านว่ามีลุงวัย 72 ปีอยู่ที่หมู่ 2 ต.วัดยม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา  เก็บศพของภรรยาที่เสียชีวิตเอาไว้ในบ้าน มีการทำบุญทุกเดือน แถมยังปฎิบัติเหมือนตอนมีชีวิตอยู่ทุกวัน กลายเป็นที่กล่าวขานในเรื่องความรักของชาวบ้าน ทั่วไป จึงได้เดินทางไปพิสูจน์ความจริง พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านทรงไทยใต้ถุนสูง ของนายทวี วงศ์ศล อายุ 72 ปี

และพบว่าบนบ้านมีการตั้งโลงเย็นสำหรับแช่ศพเอาไว้พร้อมเครื่องตั้งบูชา เป็นศพของนางสมควร วงศ์ศล อายุ 65 ปี

ภรรยาที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 56 ที่ผ่านมา และพบว่ามีการตั้งเครื่องเซ่นสำรับกับข้าว พร้อมเปิดเพลงเบาๆของชรินทร์ นันทนาคร เจ้าของเพลงเรือนแพเอาไว้ด้วย 
นายทวีเปิดเผยโดยมีน้ำตาซึมว่า อยู่กินกับภรรยามานาน 50 ปี รักกันมากมีลูกด้วยกัน 2 คน หลาน 3 คน สิ่งที่ประทับใจคือการถามหากันทุกครั้งที่คนหนึ่งคนใดไปทำธุระนอกบ้าน หรือจะไปไหน และถามเรื่องอาหารการกินกันตลอดเวลา โดยระหว่างที่อยู่ด้วยกันภรรยาก็จะดูแลเอาใจใส่ ทำอาหารให้รับประทานทุกวัน โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าอายุมากแล้ว ก็จะคุยกันเรื่องความตาย ซึ่งนางสมควรพูดเสมอว่าหากนายทวีเสียชีวิตก่อนนางสมควรก็จะอยู่ไม่ได้ หากเป็นไปได้ก็อยากที่จะตายก่อน ในที่สุดก็ตายจริงๆ

นายทวีเปิดเผยต่อว่า ภรรยาขี่ จยย.เพื่อจะนำยาฆ่าแมลงไปให้ตนที่นาข้าว ห่างออกไป 2 กิโลเมตร แล้วก็ถูก จยย.ชนประสานงาเสียชีวิต 
ตนตั้งศพเอาไว้ที่บ้านมีการสวดพระอภิธรรมทุกวันที่ 17 และทำบุญทุกวันที่  18 ของเดือน โดยได้ซื้อโลงเย็นมาแช่ศพเอาไว้ และทำบุญครั้งละประมาณ 1.5 หมื่นบาท ทั้งนี้ที่เก็บศพเอาไว้เพราะยังทำใจไม่ได้ ตั้งใจจะเอาไว้ 1 ปีก็จะฌาปนกิจ ทุกวันก็จะหาข้าวหาน้ำที่ชอบไปวางเอาไว้ แล้วเปิดเพลงที่ชอบให้ฟังทั้งวัน และเมื่อผู้สื่อข่าวขอให้ร้องเพลงรักแท้ของชรินทร์ นันทนาคร ให้ฟัง ไม่ทันที่นายทวีจะร้อง ปรากฏว่าเครื่องเสียงที่ปิดอยู่ก็ดังขึ้นมาในเพลงรักแท้ทันที ทำให้ผู้สื่อข่าวที่ไปทำข่าวและชาวบ้านถึงกับขนลุก สร้างความแปลกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น