วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ตำรวจซิวจิ้งจอกสาวแก๊งตกทอง เหยื่อเข้ารุมประชาทัณฑ์ด้วยความแค้น เมื่อ 3 มิ.ย.56



ตำรวจซิวจิ้งจอกสาวแก๊งตกทอง เหยื่อเข้ารุมประชาทัณฑ์ด้วยความแค้น
 
ตำรวจนครบาล 3 ตามรวบสาวแก๊งตกทอง ที่ก่อเหตุหลอกตุ๋นเหยื่อมาแล้วอย่างโชกโชนในหลายท้องที่ ด้านผู้เสียหายรุมชี้ตัวและพยายามเข้ารุมประชาทัณฑ์ด้วยความแค้น
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (3 มิ.ย.) พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผบก.น.3
พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.หนองจอก ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.ยุพิน ภาคทรัพย์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาแก๊งตกทอง พร้อมของกลางพระเครื่องปลอมจำนวนมาก โดยมีผู้เสียหายนับสิบคนที่เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหา และพยายามจะเข้ารุมทำร้ายด้วยความโกรธแค้น

พ.ต.อ.เอก เปิดเผยว่า น.ส.ยุพิน ผู้ต้องหา เป็นแก๊งตกทองรายใหญ่ โดยมี นายนิวัตร มะตัน เป็นหัวหน้า
มี น.ส.วิลาวรรณ์ กิ่งกล่อม และนายภานุ ภาคทรัพย์ เป็นผู้ร่วมขบวนการกับผู้ต้องหา ซึ่งทั้งหมดยกเว้น น.ส.ยุพินถูกจับกุมได้ที่ สน.ร่มเกล้า เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา สำหรับรูปแบบการก่อเหตุคือ น.ส.ยุพิน จะทำทีเป็นคนถือพระสมเด็จปลอมเลี่ยมกรอบทองไปพูดคุยกับผู้เสียหาย หลอกว่าไม่มีเงิน แต่มีพระสมเด็จจริง จะไปจำนำราคา 50,000 บาท จากนั้น น.ส.วิลาวรรณ์ จะเข้ามาประกบเพื่อยืนยันว่าพระเป็นของจริง และมีราคาสูง พร้อมใช้โทรศัพท์ยื่นให้ผู้เสียหายคุยกับ นายนิวัตรซึ่งอ้างว่าเป็นเซียนพระดังในวงการเพื่อให้ ช่วยย้ำว่า พระเป็นของจริงและมีราคาสูง

พ.ต.อ.เอก กล่าวต่อว่า จากนั้นก็จะพาเหยื่อขึ้นรถแท็กซี่ ซึ่งมี นายภานุ เป็นคนขับไปหาร้านทองเพื่อจำนำ
ระหว่างนั้นกลุ่มคนร้ายจะใช้การพูดจาหลอกล่อจนผู้เสียหายยอมมอบทรัพย์สินส่วนตัว เช่น สร้อยทองรูปพรรณ สร้อยคอแก่กลุ่มคนร้าย เมื่อไปถึงร้าน พอเหยื่อเอาพระไปจำนำ กลุ่มคนร้ายก็จะหลบหนี เมื่อไปจำนำก็จะพบว่าเป็นทองปลอม เมื่อรู้ว่าถูกหลอกก็สายไปเสียแล้ว โดยจะเลือกเหยื่อที่ใส่ทองอร่ามตาเยอะ ๆ ทั้งนี้ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุมาแล้วหลายท้องที่ อาทิ สน.บางชัน สน.พหลโยธิน สน.ราษฎร์บูรณะ สน.จรเข้น้อย สน.พญาไท สน.มีนบุรี สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และหากมีผู้เสียหายรายใดเคยถูกก่อเหตุในลักษณะนี้ ให้เดินทางมาตัวผู้ต้องหาได้ที่ บก.น.3 เพื่อที่จะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ น.ส.ยุพิน ต่อไป.
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น