วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

“บุญทรง”ร้อน-แจงคดีจำนำข้าว เจ๊งแต่ไม่ถึง2.6แสนล้านจ้าพท.หนุนกองทัพประชาชนต้านสารพัดกลุ่มจ้องล้มรัฐ เมื่อ 10 มิ.ย.56



“บุญทรง”ร้อน-แจงคดีจำนำข้าว

เจ๊งแต่ไม่ถึง2.6แสนล้านจ้าพท.หนุนกองทัพประชาชนต้านสารพัดกลุ่มจ้องล้มรัฐ


“บุญทรง” ก้นร้อนผวาหลุด รมต. เดินสายแจงจำนำข้าวจ้อชาวนาพิษณุโลกยันจำนำข้าวขาดทุนไม่ถึง 2.6 แสนล้าน ไม่สนเสียงท้วงติงพร้อมเดินหน้าต่อ “นายกสมาคมชาวนาไทย” ห่วงทำไมถึงไม่ยอมแจงตัวเลขขาดทุน “ปชป.ปูด” ครม.เตรียมโยนภาระให้ “ธ.ก.ส.” กู้เงินมารับจำนำข้าวเพิ่มเติม “พท.” เรียก “โต้ง-บุญทรง” แจงโครงการรับจำนำข้าว 11 มิ.ย. ก่อนกระตุ้น ส.ส. ลงพื้นที่แจงชาวบ้าน “อนุสรณ์” เผย “เพื่อไทย” เตรียมเปิดกองทัพประชาชนลุยฝ่ายตรงข้าม 14 มิ.ย.นี้ “ปชป.” จี้รัฐบาลคุม “เสื้อแดง” อย่าให้เป็นอันธพาลครองเมือง หลังเหิมหนักพกสารพัดอาวุธป่วนเวทีผ่าความจริงลำพูน ญาติเหยื่อแดงบุกทำเนียบจี้ “ปู” คว่ำปรองดอง “เหลิม” ทวงสัญญานายกฯ รับปากล่าตัวผู้สังหาร ปชช. ดักคออย่าลอยตัวโยนสภาพิจารณา “ปชป.” จี้ “ถอด” ปลอด “พ้นโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน”
“บุญทรง” แจงชาวนาจำนำข้าวขาดทุน
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการการะทรวงการคลัง พร้อมด้วยปลัดกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันให้ข้อมูลการรับจำนำข้าวกับเกษตกรชาวนาที่ จ.พิษณุโลก ในงานเสวนาจำนำข้าวสัญจร จ.พิษณุโลก ที่โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม จ.พิษณุโลก โดยมีชาวนา จ.พิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียง เดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก โดยนายบุญทรง กล่าวว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลปีแรกขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท ขอยืนยันว่าไม่จริง เมื่อรัฐบาลทำโครงการ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่าทำความเสียหายให้ประเทศชาติ จึงเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาทำความเข้าใจและชี้แจงข้อเท็จจริงของโครงการรับจำนำข้าวโดยพูดคุยกับเกษตรกรชาวนาที่ จ.พิษณุโลกเป็นแห่งแรก และจะเดินสายในพื้นที่ภาคอื่นต่อไป แม้โครงการรับจำนำข้าวใช้เม็ดเงินมากก็จริง แต่เม็ดเงินเหล่านั้นลงไปสู่มือเกษตรกรอย่างแท้จริง รัฐบาลจะเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อไป ในปีที่สองของโครงการรับจำนำข้าว ทั้งการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังและนาปี รัฐใช้เงินไปประมาณ 6 แสนล้านบาท มีข้าวเปลือกมาอยู่ในมือรัฐบาล และแปรสภาพเป็นข้าวสารเพื่อระบายออก และนำเงินคืนรัฐบาลไปแล้ว 1.2 แสนล้านบาท
นายบุญทรง ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ไม่หนักใจที่จะต้องชี้แจงโครงการรับจำนำข้าวในอีกหลายเวที ตนเห็นว่าโครงการรับจำนำข้าวที่เกิดปัญหา จะไม่กระทบกับการลงทุนอื่นๆ ของรัฐบาล และไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนด้วย
นายก ส.ชาวนาจี้เปิดความจริง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า โครงการทุกชนิดที่รัฐบาลทำเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกร ไม่ว่าจำนำข้าวหรือแทรกแซงราคา ถ้าถามว่าขาดทุนมั้ย ขาดทุนแน่นอน โครงการรับจำนำข้าวมีคณะอนุกรรมการปิดบัญชี ที่ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยมอบหมายให้รองปลัดทำข้อมูลการปิดบัญชี ตัวเลขเหล่านี้ขาดทุนเท่าไหร่ จะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อผ่านที่ประชุมคณะกรรมการข้าว หรือ กขช. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แต่ที่น่าประหลาดใจคือ วันที่ 23 พ.ค.56 ได้ประชุมคณะอนุกรรมการปิดบัญชี และสรุปเป็นเอกสารลับ แต่กลับมาโผล่ข้อมูลในเฟซบุ๊คของรองนายกฯ สมัยที่แล้ว ว่าปีแรกของการจำนำข้าวรัฐขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท จนถึงขณะนี้เอกสารจากคณะอนุกรรมการปิดบัญชีก็ยังไม่ได้นำเข้าที่ประชุม กขช. อย่างเป็นทางการ จะมาคาดคั้นให้กระทรวงพาณิชย์ตอบว่าขาดทุนเท่าไหร่ จึงยังสรุปไม่ได้
ทางด้านนายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย ได้กล่าวเน้นย้ำให้รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งการที่กระทรวงพาณิชย์ไม่ชัดเจน และไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขขาดทุน ถือเป็นเรื่องน่าสงสัย เพราะโครงการรับจำนำข้าว ทำต่อเนื่องมา 2 ปี ตัวเลขหรือข้อมูลต่างๆ จะต้องอยู่ในหัว หรือทุกเดือนก็ต้องมีการจดบันทึกทั้งปริมาณข้าว ราคาที่ขาย เงินที่ได้จากการขายข้าว ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากในการเปิดเผยข้อมูล
ปชป.จับตาของบฯ จำนำข้าวเพิ่ม
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่นายบุญทรง เตยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ไม่ยอมรับเรื่องการขาดทุนโครงการรับจำนำข้าว ทั้งที่มีตัวเลขของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าวอย่างชัดเจน ว่า สิ่งที่นายบุญทรง พูดไม่เป็นความจริง เพราะการปิดบัญชีมีการคาดการณ์แล้วว่า หากขายข้าวในสต๊อกที่มีอยู่ทั้งหมดจะขาดทุนเท่าไหร่ คำพูดของทั้งนายบุญทรง และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ จึงเป็นการกล่าวเท็จต่อประชาชน เพราะความจริงมีแต่จะขาดทุนมากขึ้น เนื่องจากข้าวจะเสื่อมสภาพมากขึ้น จนถูกกดราคาจากผู้ซื้อ และความเสียหายก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่นายบุญทรงยืนยัน ว่า จะไม่มีการกู้เงินเพิ่มเติมนั้น นายชวนนท์ ก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากเมื่อย้อนดูการใช้เงินกู้ของรัฐบาลในโครงการนี้แล้วรวม 4.1 แสนล้านบาท อีก 9 หมื่นล้าน ใช้สภาพคล่อง ธ.ก.ส.มาดำเนินการไปก่อน ที่อ้างว่า จะไม่ขอกู้เพิ่มอีกนั้น ตนยืนยันว่า นายบุญทรง โกหก จึงขอให้จับตาการประชุม ครม. ในวันที่10 มิ.ย. เพราะคณะกรรมการกลั่นกรองชุดที่ 3 ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธาน ได้ทำหนังสือถึงนายกฯ ว่า วงเงินในโครงการจำนำข้าวไม่พอที่จะดำเนินโครงการ ขอให้ ธ.ก.ส.รับภาระเอง หมายความว่า ถ้าต้องใช้เงินเพิ่มให้ ธ.ก.ส.ไปกู้โดยไม่มีหลักเกณฑ์ เพราะรัฐบาลถังแตกระบายข้าวไม่ได้ ผลักภาระให้ ธ.ก.ส. โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน ซึ่งดอกเบี้ยจะแพง โดยระบุว่า รัฐบาลจะชดเชยส่วนต่างของดอกเบี้ยให้ จึงต้องถามว่า รัฐบาลจะเอาเงินจากไหน เพราะไม่มีการจัดงบประมาณในส่วนนี้เอาไว้
เย้ย “ปู” ตั้งทีมพีอาร์ แก้ผิดเป็นถูก
ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะทำงานประชาสัมพันธ์ 5 ด้านนั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็น เพราะเปลี่ยนโฆษกรัฐบาลมาแล้ว 4 คน เปลี่ยนรัฐมนตรีมาแล้วหลายครั้ง แต่ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้อยู่ที่การประชาสัมพันธ์ แต่อยู่ที่รัฐบาลไม่พูดความจริง ปกปิดข้อมูล บิดเบือนข่าวสาร ปิดหู ปิดตาประชาชน จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะแก้ปัญหาแค่พูดความจริงว่า จำนำข้าวเสียหายอย่างไร ปรองดองสอดไส้ล้างผิดคนโกง กล้าพูดหรือไม่ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องจริง ดังนั้นสิ่งที่เป็นปัญหาของรัฐบาลคือทำผิดกับประเทศจะตั้งทีมประชาสัมพันธ์มากแค่ไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนเรื่องผิดให้เป็นเรื่องถูกไปได้ และหากมั่นใจว่ามีผลงาน ก็ขอให้เปิดสภาแถลงผลงาน ถ้าแถลงผลงานไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะตั้งทีมประชาสัมพันธ์ใหม่
ดักคอ รบ.อย่าแก้ตัวเลขจำนำข้าว
ทางด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ชี้แจงตัวเลขขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าว เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ไม่มีความกระจ่างและไม่สามารถตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนได้ ฉะนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ (ก.ข.ช.) ไม่ควรจะลอยตัวอยู่เหนือปัญหา และควรรับผิดชอบทำเรื่องตัวเลขการขาดทุนให้กระจ่างแจ้ง ทั้งนี้โครงการดังกล่าวก่อให้เกิดปัญหา 2 ด้าน คือ 1.เกิดทุจริตครบวงจร ตั้งแต่รับจำนำ การเก็บรักษาข้าว และการระบายข้าว 2.ทำให้เกิดการขาดทุนอย่างไม่มีความจำเป็น การชี้แจงของรัฐบาลไม่ต่างจาก ลิงแก้แห เพราะยิ่งพูดยิ่งแก้ ยิ่งทำให้มัดตัวเอง สุดท้ายเมื่อตอบคำถามไม่ได้ รัฐบาลก็อ้างว่าการซื้อขายข้าวเป็นความลับทางราชการไม่สามรารถเปิดเผยได้ เพราะอาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งตนอยากจะบอกว่าเป็นคำพูดที่ซื้อเวลา ขณะเดียวกันในต่างประเทศไม่เห็นมีประเทศใดจะปกปิด แม้กระทั่งกัมพูชาก็ยังเปิดเผยว่าซื้อขายกับประเทศใดบ้าง และเปิดเผยอีกว่า ขายข้าวให้ประเทศไทยมากเป็นอันดับที่ 4 อย่างไรก็ตาม งบประมาณที่ใช้ในโครงการจำนำข้าวเป็นงบประมาณแผ่นดิน ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งต้องมีการเปิดเผยตัวเลขอยู่แล้ว ดังนั้น รัฐบาลมีหน้าที่ทำโครงการอย่างเปิดเผยและโปร่งใส
นายองอาจ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในสัปดาห์หน้า นายกฯ จะเรียกประชุม ก.ข.ช. และตนเชื่อว่า จะมีความพยายามแก้ไขตัวเลขรับจำนำของทางราชการ ทั้งกระทรวงพานิช องค์การคลังสินค้า และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อให้ตัวเลขเป็นไปตามที่รัฐบาลต้องการ ดังนั้น ปชป.ขอเรียกร้องให้นายกใช้เวทีการประชุมดังกล่าว แสดงภาวะความเป็นผู้นำป้องกันไม่ให้นักการเมืองและข้าราชการประจำบางคนสมรู้ร่วมคิด
พท.เตรียมเปิดทีมงานลุยฝ่ายเห็นต่าง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเครือข่ายแนวร่วมผู้รักประชาธิปไตย เตรียมพร้อมจัดเวทีรับมือกับสถานการณ์เคลื่อนไหวล้มรัฐบาล ว่า ชัดเจนแล้วว่าเวทีภาคประชาชน ต้านอำนาจนอกระบบ ปกป้องรัฐบาลประชาธิปไตย จะจัดขึ้นนับร้อยเวทีทั่วประเทศ เพราะประชาชนรับไม่ได้กับขบวนการดังกล่าว และต้องการให้เดินหน้าร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส. สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เพราะประชาชนทุกฝ่ายได้ประโยชน์ คนที่เป็นแกนนำไม่ว่าฝ่ายไหนต้องเสียสละ ควรปลดปล่อยประชาชนก่อน แล้วค่อยเข้ามาพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ ใครที่ออกมาขวางร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ควรอับอายมากกว่าที่จะออกมาต่อต้าน ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การชุมนุมควรได้รับอิสรภาพ คาดว่าเครือข่ายแนวร่วมผู้รักประชาธิปไตย จะแถลงเปิดตัวในวันศุกร์ที่ 14 มิ.ย.นี้ โดยจะแถลงอย่างเป็นทางการ เพื่อนำเสนอถึงวัตถุประสงค์ เป้าหมาย รูปแบบ ในการจัดกิจกรรมและเวที ต้านอำนาจนอกระบบ ปกป้องรัฐบาลประชาธิปไตย
พท.เรียก “โต้ง-บุญทรง” แจงจำนำข้าว
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โจมตีโครงการรับจำนำข้าวขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท ว่า เป็นการยกเมฆเอาตัวเลขตัดแปะจากการรายงานและข้อมูลที่ไม่มีการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโจมตีรัฐบาล ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวขาดทุนไม่ถึง 2.6 แสนล้านบาทแน่นอน ซึ่งในวันที่ 11 มิ.ย. พรรคจะเรียกนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ มาชี้แจงข้อสงสัยเรื่องโครงการรับจำนำข้าวต่อที่ประชุมพรรค หาก ส.ส. สงสัยเรื่องใด ซักถามได้เต็มที่ ยืนยันว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ขายข้าวได้ดีกว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ที่มีโครงการประกันราคาข้าว จากการตรวจสอบพบว่า โครงการประกันราคาข้าวเป็นการทำงานบนกระดาษ ไม่เห็นเม็ดข้าว ส่อทุจริตตั้งแต่ต้นทางทั้งการลงทะเบียนสวมสิทธิ์เป็นชาวนา การกดราคา การแจ้งจำนวนที่นาเกินจริง เป็นความร่วมมือของกลุ่มบุคคล โรงสี ข้าราชการ และนักการเมือง และโครงการดังกล่าวขาดทุนถึง 1.3 แสนล้านบาท ไม่ใช่ 6 หมื่นล้านบาทตามที่พูด ขณะนี้ข้อมูลส่วนหนึ่งอยู่ที่ ป.ป.ช.แล้ว และในวันที่ 10 มิ.ย. เวลา 10.00 น. จะไปยื่นหลักฐานต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ตรวจสอบโครงการประกันราคาสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ ขอท้านายอภิสิทธิ์ว่า ถ้าจะคว่ำโครงการรับจำนำข้าว ขอให้ขึ้นป้ายทั่วประเทศว่า ไม่เอาโครงการนี้
พท.จี้ ส.ส. ลงพื้นที่กล่อมชาวบ้าน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การประชุมพรรคในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ พรรคจะได้เรียก ส.ส. และสมาชิกพรรคประชุมภายหลังการลงพื้นที่ไปชี้แจงกับประชาชน รวมถึงใช้เวที “เพื่อไทย เพื่ออนาคตของประเทศไทย” เพื่อสะท้อนถึงกรณีที่ทางพรรคและรัฐบาลถูกโจมตีในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โครงการรับจำนำข้าว ซึ่งคาดว่าหลังจากการหารือจะมีการกำชับในที่ประชุมเพื่อให้ดำเนินการชี้แจงเพิ่มเติม โดยอาจจะขยายจากเวทีระดับภูมิภาคไปสู่ระดับจังหวัดเพื่อมุ่งตรงไปยังอำเภอ เพื่อชี้แจงโครงการของรัฐบาล พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 57 รวมถึงกรรมาธิการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ชุดจะพิจารณาเสร็จในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะนำข้อมูลดังกล่าวให้ ส.ส. ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนก่อนจะมีการเปิดสมัยประชุมสามัญประจำปี ที่สำคัญเพื่อเป็นการป้องกันฝ่ายค้านจะเปิดเผยข้อมูลทำให้ประชาชนไม่พอใจรัฐบาลและม็อบที่จะออกมาเคลื่อนไหวปลุกระดมในพื้นที่ภาคต่างๆ โดยฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลได้ใช้กระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ค วิทยุชุมนุม โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบางช่องปลุกกระแส รวมถึงมีกลุ่มบุคคลเข้าไปในแต่ละพื้นที่เพื่อปลุกระดมโจมตี จึงหวังให้ ส.ส. ไปชี้แจงกับประชาชนในเรื่องทุจริตของรัฐบาล การทำโครงการไม่โปร่งใส หรือการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชนของนายวรชัย เหมะ ส.ส. สมุทรปราการ ไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย
ปชป.ร้องเอาผิดแดงลำพูน
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงปิดล้อมสวนอาหารครัวสวนไผ่ ต.ต้นธง อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งเป็นสถานที่จัดเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ และมีการยิงลูกแก้ว ลูกหิน น็อต ใส่บริเวณเวที จนทำให้เวทีต้องยุติ ว่า กลุ่มคนเสื้อแดงพยายามแสดงพฤติกรรมข่มขู่ คุกคาม ประทุษร้าย ขัดขวางการจัดเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ เกือบทั้ง 52 เวที ในรอบ 1 ปี ที่ถูกคนเสื้อแดงขัดขวาง เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเป็นพฤติกรรมของคนภาคเหนือ แต่เป็นคนเสื้อแดงนอกพื้นที่ จ.ลำพูน ที่ถูกปลุกปั่นจากวิทยุชุมชน ด้วยการให้ข้อมูลเท็จ สร้างอารมณ์ร่วมให้บุคคลเหล่านี้มาบุกพื้นที่ปราศรัย
มีการยิงปะทัด และตะไล มายังเวที ไม่ต่ำกว่า 20 ลูก และมีการระดมยิงหนังสติ๊ก โดยใช้หัวนอต ลูกปรายตะกั่ว ลูกหิน และลูกแก้ว พร้อมสิ่งเทียมอาวุธ อัดดินปืน ใส่กระบอกเหล็ก ใส่หัวกระสุนด้วยตะปู ยิงเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการใช้อาวุธปืน “วันนี้ประเทศไทยภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ไม่ได้บริหารประเทศโดยใช้คุณธรรม จริยธรรม แต่ปล่อยให้มวลชนที่สนับสนุนรัฐบาลข่มขู่ประทุษร้ายพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม และคุกคามประชาชน หาก น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังไม่มีปฏิกิริยา ต้องถือว่า เป็นการให้ท้ายคนเสื้อแดง และต้องขอขอบคุณตำรวจลำพูนที่ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง และจับกุมกลุ่มคนที่ใช้สิ่งเทียมอาวุธได้ 4 คน หลังสอบสวนตำรวจแจ้งว่า เป็นคนไทยใหญ่ จึงไม่แปลก เพราะนี่พฤติกรรมของแดงแท้ เมื่อถูกจับได้ก็บอกแดงเทียม วันนี้อ้างเป็นแดงไทยใหญ่ อยากถามว่า ถ้าไม่ถูกจ้างมาแล้วใครจะทำ จึงขอเรียกร้องรัฐบาลให้ควบคุมมวลชนตัวเอง ไม่ใช่ปล่อยให้มีอันธพาลครองเมือง” นายชวนนท์ กล่าว
“พท.” โบ้ยไม่เกี่ยวแดงชนเวทีผ่าความจริง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ส.ส.ปชป. กล่าวหาโจมตีว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยเสื้อแดงออกมาให้ท้ายกลุ่มคนเสื้อแดง ตนขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงเป็นการเคลื่อนไหวภาคประชาชน การที่มีคนเสื้อแดงไปคัดค้านการปราศรัยเวทีผ่าความจริงพรรคประชาธิปัตย์ที่ จ.ลำพูน เป็นเรื่องของประชาชน ตนอยากเสนอแนะให้นายอภิสิทธิ์น่าจะเปลี่ยนรูปแบบไม่ใช่ลักษณะการกล่าวโจมตีรัฐบาล กล่าวโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่ได้มุ่งตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ ตนเชื่อว่าประชาชนที่ชื่นชอบรัฐบาลจึงอาจรับไม่ได้ การขัดขวางจึงเป็นเรื่องปกติ แต่ขอยืนยันว่าให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งไม่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือ ส.ส.เสื้อแดงไปสนับสนุนได้แต่อย่างใด การที่พรรคประชาธิปัตย์ไปตั้งเวทีผ่าความจริงเป็นสิทธิเสรีภาพสามารถทำได้ แต่ควรตรวจสอบรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์ หากปรับรูปแบบได้ประชาชนคงไม่มีการออกมาคัดค้านแต่อย่างใด
“ประชา” อ้างแดงป่วน ปชป.เพราะยั่วยุ
นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณี กลุ่มคนเสื้อแดงหลายร้อยคนรวมตัวป่วนเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ จ.ลำพูน เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ปชป.ต้องทำความเข้าใจกับมวลชน ว่าเป็นการมาเปิดเวทีเพื่อแสดงความคิดเห็น ซึ่งมวลชนเหล่านี้อยู่เหนือการควบคุมทางการเมืองและความคิด แต่ก็สามารถโน้มน้าวความคิดได้ว่าฝ่ายที่คิดต่างก็มีศักดิ์ศรี และตนเชื่อว่าแกนนำยังสามารถเอาอยู่แต่ก็ขึ้นอยู่กับการสื่อสาร ทั้งนี้ตนมองว่า การปราศรัยของ ปชป.มีลักษณะกึ่งยั่วยุ ซึ่งต้องมีความอดทนและใช้การเจรจาพูดคุย อย่างไรก็ตาม การปราศรัยของ ปชป.หลายครั้งที่ผ่านมามีพฤติกรรมที่พยายามทำให้เกิดการขยายวง จึงแนะนำ ปชป.ว่าอย่าไปยั่วยุมวลชน เพราะมาตรฐานของมวลชนกับแกนนำแตกต่างกัน ซึ่งมวลชนนั้นจะยังฝังใจกับเหตุการณ์การสลายชุมนุมที่มี ปชป.เป็นรัฐบาลขณะนั้น จึงมีความรู้สึกเป็นลบต่อ ปชป.
เหยื่อแดงบุกทำเนียบคว่ำปรองดองเฉลิม
นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนารามในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 53 เปิดเผยว่า วันที่ 11 มิ.ย.นี้ เวลา 08.00 น. กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมทางการเมือง เม.ย.-พ.ค.ปี 53 ทั้งใน กทม.ปริมณฑล และต่างจังหวัดจะรวมตัวกันที่บริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติและเดินขบวนถือ รูปผู้เสียชีวิตไปยังทำเนียบรัฐบาลในเวลา 09.00 น. เพื่อขอเข้าพบและยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงจุดยืนคัดค้านการผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปรองดองแห่งชาติฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีที่ล้างผิดให้กับแกนนำ ผู้สั่งการ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการสังหารประชาชนโดยปราศจากการค้นหาความจริง ทั้งนี้ทางกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตขอคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยด้วย เพราะเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้นิรโทษกรรมให้กับทหารผู้ปฏิบัติหน้าที่เท่ากับก้าวข้ามกระบวน การค้นหาความจริงว่าใครเป็นผู้ลงมือเหนี่ยวไกสังหารประชาชน สำหรับสาเหตุที่ต้องมีการเคลื่อนไหวต่อต้านการนิรโทษกรรมเหมาเข่ง เพราะเวลาผ่านไปถึง 3 ปีหลังจากประชาชนเสียชีวิต เริ่มเห็นชัดแล้วว่ารัฐบาลไม่มีความจริงใจในการค้นหาความจริง ในขณะที่กระบวนการยุติธรรมเดินไปอย่างล่าช้า รองนายกรัฐมนตรีกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 163 คน กลับต่อรองอำนาจกับฝ่ายตรงข้ามด้วยการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ล้างผิดถ้วนหน้าโดยเหยียบย่ำศพประชาชนผู้เสียชีวิต ขณะเดียวกันทางกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยังไร้ท่าทีที่เอาจริงต่อการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ทางกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจึงต้องลุกมาทวงความยุติธรรมให้กับประชาชน “น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซี ตอนขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องมีการค้นหาความจริงต่อการเสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุม และต้องเอาผิดไม่เว้นแม้แต่ผู้ปฏิบัติการ เราจึงต้องการสอบถามนายกฯ ว่าลืมสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนแล้วหรือไม่ และอย่าอ้างว่าให้เป็นหน้าที่ของรัฐสภาในการพิจารณา ขณะนี้มีคนจะมาล้างผิดผู้สังหารประชาชน 98 ชีวิต เป็นนายกฯ ต้องดูแลประชาชน จะปัดความรับผิดชอบไม่ได้”
จี้นายกฯ ถอด “ปลอดประสพ”
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้มีการทบทวนรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลโครงการบริหารจัดการน้ำ งบประมาณ 3.5 แสนล้านบาท เนื่องจาก นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ผู้รับผิดชอบโครงการแสดงพฤติกรรมการบริหารงานที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากการดำเนินโครงการดังกล่าวจะต้องประสานงานกับเอกชน เอ็นจีโอ รวมทั้งต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โครงการจึงจะสำเร็จได้ แต่วิสัยทัศน์และทัศคติของรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ ไม่สามารถดำเนินการให้เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองได้ เพราะมีพฤติกรรมดูถูกเหยียดหยามประชาชน ทั้งที่จะต้องแสวงหาความร่วมมือจากประชาชน และส่อว่าจะทุจริต นอกจากนี้ ผู้ที่เคยร่วมงานด้วยอย่าง นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านการระบายน้ำ ยังได้ยื่นเรื่องให้หลายองค์กรตรวจสอบ เพราะสงสัยว่าจะมีการทุจริต ทัศนคติของผู้บริการคนนี้ยังใช้วิธีการแบ่งแยกและปกครอง อย่างเช่นกรณีการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติจังหวัดภูเก็ต ที่ออกมาระบุว่า “หากไม่เลือกพรรคเพื่อไทย ก็ไม่มีอารมณ์ที่จะสร้าง ให้รอไปก่อน” ดังนั้นหากนายกฯ ต้องการให้โครงการสำเร็จ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ ควรจะต้องทบทวนผู้ที่จะเข้าไปรับผิดชอบโครงการดังกล่าวเพราะเป็นโครงการที่ต้องลงไปทำงานในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
ไทยสปริงได้ 2.6 หมื่นชื่อต้านปาฐกถาปู
นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้ก่อตั้งเครือข่ายไทยสปริง เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะแถลงปิดการลงชื่อปฏิเสธปาฐกถาอูลานบาตอร์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องจากขณะนี้กิจกรรมดังกล่าวได้เสร็จสิ้นแล้ว โดยมีผู้มาร่วมลงชื่อจำนวนทั้งสิ้น 26,000 ราย ซึ่งจากนี้จะทำการส่งรายชื่อดังกล่าวไปยังประเทศสมาชิกประชาคมประชาธิปไตย นอกจากนี้ ในวันเดียวกันจะมีการเปิดตัวไทยสปริงฟอรัม หรือเวทีไทยสปริง โดยตนและ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร พร้อมด้วยเพจเฟซบุ๊คทางการเมือง จะจับมือกันร่วมจัดทำเว็บเพจชื่อ ไทยสปริงฟอรัม เพื่อเป็นสถานที่ชุมนุมออนไลน์และมีการปราศรัย โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ผ่านเว็บเพจ รวมทั้งกระจายไปยังสื่อออนไลน์อื่นๆ โดยในระยะแรกจะมีการจัดกิจกรรมแบบศุกร์เว้นศุกร์ ก่อนจะเดินหน้าจัดทุกวันศุกร์ต่อไป โดยจะมีการแบ่งการปราศรัยเป็น 2 ตอน คือ วันศุกร์ เวลา 18.00-19.00 น. เป็นตอนแรก และวันอาทิตย์ เวลา 18.00-19.00 น. สำหรับรูปแบบจะมีการเชิญผู้คนต่างๆ มาเป็นพิธีกรดำเนินรายการ รวมทั้งมีการเชิญผู้มาให้ความรู้ให้ข้อมูลในแต่ละเรื่อง ซึ่งในระยะต่อไปจะจัดให้มีการชุมนุมจริงในวงแคบเล็กๆ แล้วก็ถ่ายภาพเข้ามาในเว็บเพจไทยสปริงฟอรัม “แนวทางนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับรัฐบาลหรือไม่ แค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของรัฐบาล ในไซเบอร์เป็นการสร้างประจุไว้ ตอนนี้ก็รอแม่เหล็กซึ่งเป็นแรงดึงดูด”


วันที่ 10/06/2556 เวลา 7:25 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น