วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก กองทัพบก (ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคดีการเสียชีวิตของการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553



พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก กองทัพบก (ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคดีการเสียชีวิตของการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ของกำลังพล ทบ. มีอยู่ด้วยกัน 2 ลักษณะคือ ในส่วนแรกคดีการไต่สวนคดีชันสูตรพลิกศพ ที่เจ้าหน้าที่ทหารจะต้องถูกเชิญไปให้ปากคำในฐานะพยาน ซึ่งเป็นภาระเพิ่มเติมของกำลังพล นอกเหนือจากงานในหน้าที่หลัก จึงให้มีการตั้งคณะกรรมการดูแลอำนวยความสะดวกให้ ทั้งในเรื่องข้อมูลและเรื่องทางธุรการ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระให้กับกำลังพล ปัจจุบันศาลได้มีคำสั่งการเสียชีวิตไปแล้วในหลายคดีหลากหลายผลสรุป ซึ่งแม้ผลสรุปของคำสั่งฯ จะไม่กระทบต่อตัวทหารผู้ปฏิบัติ ด้วยเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายก็ตาม แต่เกรงจะเกิดมุมมองชิงลบ จากการคาดเดาของสังคมที่อาจจะมีต่อทหาร จึงต้องขอเพิ่มเติมเสนอข้อมูลให้เป็นระยะๆ ตามความจำเป็น

พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนที่สอง คือ เรื่องคดีที่เจ้าหน้าที่ทหารถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในฐานะผู้เสียหาย ทบ.ยังติดตามและให้ความสำคัญมาตลอด มีการตั้งคณะทำงานด้วยเช่นกัน เพื่อประสานงานกับครอบครัวญาติกำลังพลและติดตามความคืบหน้ากับเจ้าพนักงานที่รับผิดชอบในคดี โดยในวันนี้จะมีความคืบหน้าเพิ่มเติมสำหรับคดีของ ส.อ.อนุสิทธิ์ จันทร์แสนตอ สังกัด ม.พัน.3 รอ. ที่ถูกยิงด้วย เอ็ม.79 เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ที่บริเวณสวนหย่อมข้างรั้วสวนลุมพินี ติดแยกราชดำริ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต และมีกำลังพลของ ม.พัน.3 รอ. อีกหลายนาย พร้อมกับนักข่าวแคนนาซื่อ Chandler Vanbergrift ได้รับบาดเจ็บสาหัส

พ.อ.วินธัย กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และของ ทบ.ได้นำพยาน คือ ส.อ. ชนุตร์ อุ่นอบ สังกัด ม.พัน.3 รอ. ซึ่งเป็นผู้ที่พบและถ่ายภาพปลอกกระสุน เอ็ม.79 จำนวน 3 ปลอก ได้เมื่อ 20 พฤษภาคม 2553 บริเวณเกาะกลางถนนใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสราชดำริ ถ.ราชดำริ ไปชี้จุดที่พบและถ่ายภาพปลอกกระสุน เอ็ม.79 ดังกล่าว และนอกจากนั้น ยังได้นำ จ.ส.อ.ณรงค์ เกตุศรี สังกัด ม.พัน.3 รอ. ไปชี้ยืนยันจุดที่เป็นร่องรอยของกระสุนปืนเล็กยาว บริเวณเสาตอม่อ ใกล้สามแยกราชดำริ ซึ่ง จ.ส.อ.ณรงค์ฯ เห็นผู้ติดอาวุธในพื้นที่ชุมนุมยิงใส่แล้วพลาดไปถูกเสา ทั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษนำไปประกอบสำนวนคดี หาผู้ทำร้าย ส.อ.อนุสิทธิ์จนเสียชีวิตและเจ้าหน้าที่ทหารกับบุคคลอื่นได้รับบาดเจ็บต่อไป


"ซึ่งจากที่ไปชี้ตรวจดูจุดที่พบปลอกกระสุน เอ็ม. 79 และร่องรอยของกระสุนปืนเล็กยาวดังกล่าว ยืนยันได้ชัดเจนว่า น่าจะเป็นจุดที่มีการยิงอาวุธ เอ็ม.79 และอาวุธปืนเล็กยาว ออกไปยังทั้งจุดบริเวณที่ ส.อ.อนุสิทธิ์ กับกำลังพลของ ม.พัน.3 รอ.ปฏิบัติหน้าที่อยู่ รวมถึงบริเวณใกล้เคียงตามแนวถนนไปจนถึงแยกราชดำริ หรือบริเวณที่คุณฟาบิโอ โปเลงกี ช่างภาพอิตาลีเสียชีวิตได้ด้วยเช่นกัน ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าในพื้นที่บริเวณถนนราชดำรินี้มีกลุ่มบุคคลอื่น ที่ไม่หวังดีใช้อาวุธปืนและอาวุธสงครามกระทำต่อเจ้าหน้าที่และประชาชนในบริเวณนั้นและในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างแน่นอน"รองโฆษก ทบ.ระบุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น