วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

‘ปู’ กู้ภาพพจน์สั่งโหมโปรโมทผลงานรัฐบาล ชู ’2ล้านล้าน’ -จำนำข้าว’ ‘ประสงค์’ ชี้โค้งสุดท้ายวันที่ 8/06/2556 เวลา 8:06 น



‘ปู’ กู้ภาพพจน์สั่งโหมโปรโมทผลงานรัฐบาล

ชู ’2ล้านล้าน’ -จำนำข้าว’ ‘ประสงค์’ ชี้โค้งสุดท้าย

รัฐบาลผวาสารพัดม็อบ “นายกฯ ปู” สั่งยกเครื่อง ปชส.นโยบายรัฐบาล เน้นทำงานเชิงรุกมากขึ้น มุ่งทำความเข้าใจ ปชช. 5 เรื่องหลัก โครงการ 2 ล้านล้าน-บริหารน้ำ-จำนำข้าว-ไฟใต้-ปรองดอง มอบ 5 รมต.รับผิดชอบ ขณะที่ “พท.” ขู่เปิดชื่อกลุ่มทุนหนุนม็อบล้มรัฐบาล เตือนกระทบธุรกิจ เจอบอยคอตสินค้าแน่ ด้าน “ประสงค์” ท้าเปิดชื่อคนหนุนม็อบล้มรัฐบาล ซัดอย่ากล่าวหาเลื่อนลอย เชื่อโค้งสุดท้ายรัฐบาลปูแล้ว ชี้ ปชช.สุดทนบริหารงานผิดพลาด ปล่อยโกงจำนำข้าว-พฤติกรรมนักการเมืองถ่อย เย้ยแก้เกมปรับ ครม.ไร้ผล ส่วนชาวภูเก็ตนับพันบุกยื่นหนังสือถึงนายกฯ ผ่านผู้ว่าฯ จี้ปลด “ปลอด” ฉุนพาดพิงไม่สร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ ซัดเลือกปฏิบัติ-ดูถูกคนภูเก็ต
นายกฯ เรียกถกด่วน รมต.พท.
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. เวลา 10.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย เพื่อประชุมนัดพิเศษ ที่บ้านพิษณุโลก ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งถูกโจมตีอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งรับผิดชอบโครงการรับจำนำข้าวไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย ภายหลังการประชุม นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า การประชุมครั้งนี้นายกฯ อยากให้มีการบูรณาการยุทธศาสตร์ในการประชาสัมพันธ์นโยบายของรัฐบาลองค์รวม เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนอย่างเป็นระบบ เพราะที่ผ่านมาการสื่อสารยังไม่เป็นระบบมากนัก และที่ผ่านมาดูเหมือนรัฐบาลจะเป็นฝ่ายตั้งรับ การบูรณาการในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ครั้งนี้ก็จะเป็นการทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดยจะให้ข้อมูลผ่านการแถลงข่าว และบูรณาการโดยใช้โฆษณาที่แต่ละกระทรวงได้ซื้อเอาไว้ในสื่อต่างๆ อย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ จะมีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาโดยมี รัฐมนตรีประจำสำนักรัฐมนตรีทั้ง 3 คน หมุนเวียนกันเป็นประธาน ซึ่งจะมีการประสานงานร่วมกัน ดำเนินการให้แต่ละกระทรวงหาผู้ที่สามารถสื่อสารแผนงานต่างๆ รวมไปถึงข้อมูลแก่ประชาชนได้ ทั้งนี้จะมีการประชุมครั้งแรกอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 11 มิ.ย. เวลา 15.00 น. โดยแต่ละกระทรวงต้องส่งตัวแทนมาร่วมประชุม
สั่งยกเครื่อง ปชส.นโยบายรัฐ
นายธีรัตถ์ กล่าวว่า สำหรับการจัดทำยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ครั้งนี้จะทำใน 5 เรื่องหลัก ประกอบด้วย 1.เศรษฐกิจ 2.สังคม 3.การเมือง 4.ความมั่นคง 5.ต่างประเทศ อีกทั้งยังมี 5 เรื่องหลักที่มอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบดูแลโดยตรง คือ 1.โครงการโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้าน มอบหมายให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 2.โครงการบริหารจัดการน้ำ มอบหมายให้นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี 3.โครงการรับจำนำข้าว มอบหมายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 4.ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มอบหมายให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 5.การปรองดองและการเมือง มอบหมายให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐบาลหวังว่าจากนี้ไปจะเป็นการให้ข้อมูลเชิงรุกหลากหลายรูปแบบ และหวังว่าจะสามารถทำให้ประชาชนเข้าใจนโยบายรัฐบาลมากขึ้น ซึ่งนายกฯ เห็นว่าที่ผ่านมาแต่ละกระทรวงมีการดำเนินงานในเรื่องต่างๆ ไปมาก แต่ประชาชนไม่สามารถจับต้องได้ สำหรับการชี้แจงในเรื่องต่างๆ ก็แล้วแต่ความถนัดของผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบางเรื่องรัฐมนตรีต้องชี้แจงเอง ขณะที่บางเรื่องก็สามารถให้ปลัดกระทรวง หรือผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ชี้แจงได้ โดยมอบหมายให้สำนักโฆษก สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นฝ่ายรวบรวมข้อมูล อย่างเรื่องโครงการรับจำนำข้าว นายกฯ บอกว่า อย่ามองว่าใครเป็นเจ้าของกระทรวง แต่ต้องดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง แม้แต่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งนายกฯ อยากให้มีการบูรณาการกัน โดยรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงต้องส่งตัวแทนเข้ามาเพื่อให้ข้อมูลแก่ประชาชน ณ เวลานั้น และเมื่อเกิดปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นก็ต้องออกมาชี้แจงให้เร็วที่สุด
พท.ขู่เปิดชื่อกลุ่มทุนล้มรัฐบาล
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่มีม็อบออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล จะสังเกตเห็นว่าความเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาวสอดรับกับกลุ่มไทยสปริง เหมือนเชื่อมโยงกัน ส่วนม็อบสนามหลวงก็เป็นม็อบมีเส้น ได้รับไฟเขียวให้ชุมนุมพร้อมอำนวยความสะดวกอย่างดี ประเด็นคือการปักหลักชุมนุมระยะยาว หรือมาบ่อยๆ นัดกันสัปดาห์ละครั้ง จะต้องมีค่าใช้จ่าย ถามว่าตรงนี้มีกลุ่มทุนคอยสนับสนุนอยู่ใช่หรือไม่ ตนสืบทราบมาว่ากลุ่มทุนฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลที่เคยสนับสนุนการปฏิวัติก็ยังคงดำรงอยู่เรื่อยมาจนถึงวันนี้ ขณะที่บางกลุ่มทุนก็เหยียบเรือสองแคม แทงกั๊ก ต่อหน้าก็บอกรัฐบาลว่าไม่มีอะไร พอลับหลังก็ไปสนับสนุนขบวนการล้มรัฐ ตอนนี้ตนมีข้อมูลอยู่แล้ว ถ้าจำเป็นจะกระชากหน้ากากออกมาให้เห็นว่าใครเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ รายย่อย ขอเตือนว่าอย่าฝักใฝ่การเมืองให้มากนัก เพราะเดี๋ยวจะกระทบธุรกิจ ถ้าเปิดชื่อออกมาอาจมีประชาชนอีกส่วนหนึ่งบอยคอตสินค้าของกลุ่มทุนเหล่านี้ และถ้าหากยังเล่นนอกกติกา พยายามล้มรัฐบาล กลุ่มทุนเหล่านี้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบด้วย
“ประสงค์” ท้าเปิดชื่อกลุ่มทุน
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และแกนนำองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวว่า กรณีที่มีคนในรัฐบาลพยายามเอ่ยถึงกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมขับไล่รัฐบาล โดยยกตัวอย่างเปรียบเปรยเชิงสัญลักษณ์นั้น ตนอยากให้รัฐบาลชัดเจนมากกว่านี้ หากต้องการเอ่ยถึงใครก็อยากให้พูดให้ชัดเจน ถ้าจะมาบอกว่า ตนอยู่เบื้องหลังการชุมนุมก็ให้พูดออกมาตรงๆ อย่าใช้การกล่าวหาเป็นสัญลักษณ์แบบนี้ ส่วนเรื่องการทำงานของรัฐบาล บ้านเมืองยังมีความวุ่นวายซึ่งก็เกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล ของฝ่ายบริหาร ทั้งการทุจริตจำนำข้าว การแก้ปัญหาน้ำท่วม และพฤติกรรมส่วนตัวของนักการเมือง เชื่อว่า ปัจจัยนี้จะทำให้ประชาชนออกมาเรียกร้องต่อสู้ จึงอยากให้นักการเมืองทั้งหลายมองตัวเองก่อนว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ยังเชื่อว่าสถานการณ์ในช่วงนี้ อาจทำให้รัฐบาลอยู่ต่อไม่ได้ และถือเป็นโค้งสุดท้ายของการทำงาน ต่อให้ปรับ ครม.ก็ไม่อาจแก้ปัญหาต่างๆ ได้ จึงอยากให้รัฐบาลหันมาสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นกับประชาชนแทนจะดีกว่า
“มาร์ค” ซัด พท.ปชต.ลมปาก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky ว่า การที่ น.พ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองของกลุ่มหน้ากากขาวนั้น นี่ก็เป็นปัญหาของแกนนำคนเสื้อแดง แล้วก็พรรคเพื่อไทย เพราะว่ามันก็มาจากแนวคิดเดียวที่ว่า ถ้าเกิดคนอื่นเขาแสดงความคิดเห็นไม่ตรงกับตัวเอง ก็จะยกพวกไปเล่นงานกัน หลายคนคงจะเคยเห็นบรรยากาศเวทีผ่าความจริง บางทีเสื้อแดงมา 40-50 คน แต่คนฟังการปราศรัยอยู่เป็นพัน แล้วมาก่อกวน ก็ไม่มีคนที่คิดจะออกไปบอกว่า เอาละ ไปรุมกระทืบกัน ไม่มีหรอก เราก็อยากจะให้ตำรวจจัดการตามกฎหมายเท่านั้นเองว่า ถ้าคุณมาผิดกฎหมายก็ดำเนินการตามกฎหมาย เช่น มาปิดถนน ไม่ได้ขออนุญาตในการใช้พื้นที่ ก็เท่านั้น เวลากลุ่มเสื้อแดงจัดกิจกรรมต่างๆ ซึ่งอาจจะเป็นคนจำนวนมาก ก็เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศก็ไม่ได้เห็นด้วยกับเสื้อแดงเสมอไป เขาก็ไม่มีความคิดที่จะเอาความรุนแรงมาข่มขู่กันแบบนี้ มันก็เป็นการฟ้องละว่า คำพูดที่อ้างว่า แกนนำเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย เป็นประชาธิปไตยนั้นมันไม่จริงอยู่แล้ว เพราะมันสะท้อนมาจากทัศนคติการพูดจาอย่างนี้ ตั้งแต่รองนายกฯ ลงมา ส่วนการจัดงานวันเกิดที่มีการเชิญตลกชื่อดังไปร่วมงานแล้วมีการแสดงความเห็นทางการเมืองนั้น ส่วนใหญ่แล้ววันเกิด สำหรับตนถือว่าเป็นโอกาสสำหรับครอบครัว ส่วนตัวมากกว่า และไม่คิดจะจัดงานวันเกิดเชิญนายพงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ หรือ เท่ง เถิดเทิง มาร้องเพลงบ้าง กลัวว่าเดี๋ยวเขามาเล่นมุกว่า อยากเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ติดคุกอะไรอย่างนี้ แล้วเขาจะเดือดร้อนเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างเจ้าตัวเขา กับทางเจ้าของวันเกิด (นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์) เราก็ตอบอะไรยาก แต่ก็แสดงให้เห็นว่า สังคมขณะนี้มันก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมาก แล้วพอใครอยู่วงการไหนก็ตาม ไปแสดงท่าทีอย่างหนึ่งอย่างใดแล้วก็อาจจะมีปัญหากับคนที่คิดอีกอย่าง มันก็เป็นสภาพของสังคมที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ชาวภูเก็ตพันคนฮือไล่ “ปลอด”
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่บริเวณสวนสาธารณะสะพานหิน ทางชมรมรักษ์ภูเก็ต โดยการนำของ นายบุญศุภภะ ตัณฑัยย์ ประธานชมรมรักษ์ภูเก็ต พร้อมด้วยนายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ และชาวภูเก็ตประมาณ 1,000 คน พร้อมด้วยแผ่นป้ายขนาดต่างๆ พร้อมข้อความ เช่น “ปลอดเป็นศพ อย่าดูถูกคนภูเก็ตมากเกินไป” “เห้…ปลอดเป็นศพ แน่จริง…มึงมาภูเก็ตซิ” “ไอ้ปลอดเป็นศพ อย่าเห็นคนภูเก็ตเป็นควายซิ” เป็นต้น ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากประชาชนชาวภูเก็ตจำนวนมากเกิดความไม่พอใจต่อคำพูดของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้กล่าวคำปราศรัยบนเวที ในงาน”เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย ซึ่งได้จัดขึ้นที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ระบุว่า “สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์บอกว่าจะไปสร้างที่จังหวัดภูเก็ต แต่เราก็สร้างศูนย์ประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่จนสำเร็จ มันก็ทวงให้เราไปสร้างที่ภูเก็ต ยังไม่สร้างให้จะมีปัญหาไหม วันหน้าจะสร้างแน่นอนเมื่อภูเก็ตเห็นความดีของพวกเรา และเลือกคนของเรา วันนั้นจะไปทำให้ วันนี้ไม่มีอารมณ์จะทำ” หลังจากร่วมตัวแล้วก็ได้มีการปราศรัยของ นายบุญศุภภะ ตัณฑัยย์ ประธานชมรมรักษ์ภูเก็ต พร้อมด้วยนายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนทั้งหมดด้วยรถจักรยานยนต์กว่า 300 คัน และรถยนต์อีก 50 คัน ไปตามถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองจังหวัดภูเก็ต ก่อนที่จะไปหยุดที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แต่เนื่องผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตติดราชการที่จังหวัดตรัง จึงได้มอบหมายให้ น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นตัวแทนรับหนังสือแทน
กมธ.งบฯ ปชป.รุมจวกรัฐ
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายณัฎฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กรุงเทพฯ น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร ส.ส.พัทลุง และนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ร่วมกันแถลงผลการประชุม โดยนายณัฎฐ์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้ถือเป็นการพิจารณาช่วงแรกของการพิจารณาร่างงบประมาณฯ ถือว่ามีประสิทธิภาพพอสมควร แต่กรรมาธิการจากพรรคประชาธิปัตย์ตั้งข้อสังเกตถึงการใช้งบประมาณที่ผ่านมาของรัฐบาลว่า ยังคงเน้นไปที่โครงการประชานิยม ซึ่งมีหลายโครงการที่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน และไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ที่สำคัญที่สุดต้องมองถึงผลกระทบที่จะเกิดกับกระทรวงการคลังและประชาชนที่จะต้องแบกรับภาระในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการบริหารจัดการน้ำที่มีการกู้งบประมาณถึง 3.5 แสนล้านบาท ทั้งนี้ การชี้แจงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันชัดเจนว่า งบประมาณที่ต้องใช้จริง มีเพียงแค่ 1.7 แสนล้านบาท ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะทำหน้าที่ตรวจสอบและดูความเคลื่อนไหวในการดำเนินการเกี่ยวกับงบประมาณในโครงการต่างๆ และ พ.ร.บ.เงินกู้ทุกฉบับของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด และถ้า พ.ร.บ.กู้เงินฉบับใดไม่มีความจำเป็น ก็จะมีการเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนต่อไป
ฉะจัดงบเน้นนโยบายประชานิยม
ขณะที่ น.ส.สุพัชรี กล่าวว่า มีข้อน่าสงสัยในการเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยวันนี้เกือบทุกกระทรวงมีการขอตั้งงบประมาณเพื่อเตรียมความพร้อมของบุคลากร โดยเฉพาะกระทรวงแรงงาน ที่พบว่าเกือบทุกกรมได้ขอตั้งงบประมาณส่วนนี้ แต่เป็นที่สังเกตว่าตัวเลขในงบประมาณเหล่านี้คลาดเคลื่อน เมื่อคิดเฉลี่ยไม่ตรงกัน จึงอาจส่อว่ามีการทุจริต คล้ายๆ กรณีการจัดซื้อรถตู้ของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเมื่อสอบถามผู้ชี้แจงก็ยังให้คำตอบที่ไม่ชัดเจน เช่นเดียวกันกับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ที่ขณะนี้มีผู้ได้รับผลกระทบเป็นผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศกว่าแสนราย ซึ่งรัฐบาลได้จัดงบไว้สนับสนุน ชดเชย ซึ่งส่วนตัวเห็นว่างบประมาณดังกล่าวไม่มีความจำเป็น เพราะเป็นภาษีของประชาชนที่ควรจะนำไปพัฒนาประเทศ ไม่ควรนำมาชดเชยความเสียหายจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาล
จี้ทบทวนปรับลดยอดเงินกู้
ด้านนายวัชระ กล่าวว่า การจัดงบประมาณของรัฐบาลมีการใช้จ่ายเพื่อในนโยบายประชานิยม กว่า 4 แสนล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 16 ของงบประมาณทั้งหมด และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับงบลงทุนในการพัฒนาประเทศที่ตั้งไว้เพียงร้อยละ 20 ของงบประมาณทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ใส่ใจในการพัฒนาประเทศ แต่สนใจกับการตั้งงบเพื่อหาเสียงกับประชาชนเพียงอย่างเดียว จึงอยากเตือนไปยังรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำทั้งในเรื่องการออกกฎหมายเงินกู้ที่จะมีภาระผูกพันให้ประชาชนรับผิดชอบหนี้สิน รวมถึงนโยบายประชานิยมที่ไม่ได้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง จะทำให้ประเทศเกิดความเสียหายอย่างมหาศาลในอนาคต
เชื่อ “นันทนา” ลาออก กมธ.ไม่กระทบ
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ยอมรับว่า นางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท พรรคภูมิใจไทย ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งหลังการแต่งตั้งนางนันทนา ยังไม่เคยเข้าร่วมประชุมแม้แต่นัดเดียว ซึ่งตนเชื่อว่าการลาออกดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการพิจารณางบประมาณ เนื่องจากขาดหายไปเพียงเสียงเดียว ซึ่งกรรมาธิการฯ ที่เหลืออีก 62 คนยังสามารถทำงานได้ และคงจะไม่มีการแต่งตั้งเข้ามาทดแทน เพราะอยู่นอกสมัยประชุมสภาฯ การดึง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กลุ่มมัชฌิมา เข้าร่วมครั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่ได้มีนัยทางการเมือง หรือการปรับคณะรัฐมนตรีในคราวหน้าอย่างแน่นอน ทั้งนี้การพิจารณางบประมาณปี 2557 ครั้งนี้ แม้จะมีความล่าช้าไปบ้าง แต่เชื่อว่าจะพิจารณาเสร็จได้ทันในปลายเดือน ก.ค. ตามกรอบที่วางไว้ และเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ในวาระ 2 และวาระ 3 ได้ในวันที่ 14-15 ส.ค.นี้
วันที่ 8/06/2556 เวลา 8:06 น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น