วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

“เต้น” ย้ำ กลุ่มเดิมชักใยหน้ากากขาว เมื่อ 18 มิ.ย.56



“เต้น” ย้ำ กลุ่มเดิมชักใยหน้ากากขาว


วันที่ 18 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาว ว่า กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวเป็นคนกลุ่มเดิม ฉายหนังเรื่องเดิมๆ ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอนนั้นมีแกนนำกลุ่มพันธมิตร เป็นแม่งานหลัก เมื่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และไม่มีเยื้อใยดีต่อกันกับกลุ่มพันธมิตร พอมาถึงคราวนี้ก็เปลี่ยนนักแสดงนำที่ออกมาเคลื่อนไหวใหม่ เช่น พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร นายแก้วสรรอติโพธิ แต่เนื้อหาของการเคลื่อนไหวยังคงเดิม มีพรรคประชาธิปัตย์ คอยจัดการอยู่เบื้องหลัง เป็นการแตะมือกัน ส่วนกลุ่มของนายไชวัฒน์ ก็ถือเป็นกลุ่มพิเศษกลุ่มหนึ่ง ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ประหม่า แต่อยากชี้ให้เห็นว่าเป็นการกระทำของกลุ่มคนกลุ่มเดิมที่จ้องล้มล้างรัฐบาล

ทั้งนี้ ตนมองว่าการเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่นับวันยิ่งห่างไกลความเป็นประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ ข้อเรียกร้องขัดหรืออยู่นอกเหนือประชาธิปไตย เช่น การเสนอขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ซึ่งขัดกับหลักประชาธิปไตยที่ว่านายกรัฐมนตรี ต้องมาจากการเลือกตั้ง และเรื่องนี้ ครั้งหนึ่งนายอภิสิทธิ์ ก็ขานรับนายรัฐมนตรีที่จบชั้น ม.7 และเรื่องนี้ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย และสามารถฟ้องเอาผิดได้ ศาลต้องรับเรื่องแน่นอน แต่ไม่สามารถเดาใจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ว่าจะรับเรื่องไว้พิจารณาหรือไม่ กลัวอ้างว่าเหตุการณ์นี้ยังไม่เกิด ทั้งที่ถือว่ามีความผิด และคงไม่คิดที่จะไปยื่นฟ้อง ฉะนั้น จึงอยากให้ประชาชนจับตากลุ่มเคลื่อนไหวนี้ไว้ ขณะเดียวกันพรรคประชาธิปัตย์ควรออกมายอมรับว่ารู้เห็นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวหรือไม่ หรือเห็นด้วยกับการให้เกิดรัฐประหาร ซึ่งไม่ใช่วิธีของนักประชาธิปไตย และรัฐบาลก็มั่นใจว่าที่พูดเรื่องนี้ ก็ไม่คิดว่าจะมีการรัฐประหารด้วย เพราะผบ.ทบ.พูดชัดเจนแล้ว ว่าไม่มี โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี พระราชทาน ก็ไม่เห็นประเทศไหนเขาทำกัน

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาวที่จ.เชียงใหม่ แล้วมีการปะทะกันกลับกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าเรื่องนี้เสื้อแดงมีวิจารณญาณพอ และเมื่อเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ก็จะเข้าใจอารมณ์นั้นดี เพราะถูกยั่วยุ เกิดการเผชิญหน้ากัน แต่ต้องการเคลื่อนไหวนั้นๆ ต้องเคารพกฎกติกาและเสรีภาพซึ่งกันและกัน ขอให้ใช้ความอดทนต่อกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น