ลิเกฟอกรถเหลิม อ้างเพื่อนฝากไว้ คลังเชือดปลาซิว
"เหลิม" ปัดเล่นลิเกกับ "เรืองไกร" ชงดีเอสไอสอบ "โรลล์ส-รอยซ์" เผยเตรียมให้ทนายฟ้องหมิ่นประมาทแล้ว ขณะที่ "ธาริต" บี้ 2 เสี่ยวงการรถหรูเลี่ยงภาษีเข้ามอบตัว ด้านคลังสั่งเข้ม 3 กรมลงดาบข้าราชการ เกี่ยวข้องกรณีลักลอบนำเข้ารถหรู-รถจดประกอบ
เมื่อวันจันทร์ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ตรวจสอบการเสียภาษีรถยนต์โรลล์ส-รอยซ์ ทะเบียน "พอ 4444" กรุงเทพมหานคร ที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นำมาใช้ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่ามีการนำเข้าและเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เนื่องจาก ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่า รถยนต์ดังกล่าวซื้อมาในราคา 26 ล้านบาท แต่ตนได้ตรวจสอบข้อมูลและพบว่าไม่ระบุอยู่ในรายการทรัพย์สินที่ ร.ต.อ.เฉลิมยื่นแสดงต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คาดว่ารถยนต์คันดังกล่าวอาจมีชื่อบุคคลในครอบครัวของ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นผู้ครอบครอง นอกจากนี้ ตนยังได้ตรวจสอบราคาขายจากบริษัทแม่แล้วนำมาคำนวณภาษี จึงพบว่าราคารถยนต์หรูที่คิดภาษีทุกรายการจะมีราคาประมาณ 37 ล้านบาท จึงนำมาให้ดีเอสไอตรวจสอบ
นายธาริตกล่าวว่า ดีเอสไอจะเร่งตรวจสอบเอกสารรถดังกล่าว ซึ่งในวันอังคารนี้จะมีการประชุมหารือร่วมกับ 7 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะสามารถรู้ผลได้ชัดเจน
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิมให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันว่ารถคันนี้ เป็นของเพื่อนบุตรชาย เป็นการนำเข้า ไม่ได้จดประกอบ ผ่านกระบวนการศุลกากรเสียภาษีถูกต้อง และวันนี้ทราบว่ายังผ่อนชำระกับไฟแนนซ์อยู่ด้วย ทั้งนี้จะเรียกประชุมทีมกฎหมาย เพื่อหาว่าเรื่องนี้เข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายจะแจ้งจับที่ สน.แสมดำในวันที่ 18 มิ.ย.ทันที รวมไปถึงขอให้นายเรืองไกรอย่าเปลี่ยนใจไม่ยื่นตรวจสอบด้วย
"เรื่องทั้งหมดผมยินดีให้มีการตรวจสอบ สาธุขอให้ดีเอสไอช่วยตรวจสอบเบื้องต้น จะได้ประจานไปเลยว่ารถคันนี้เป็นของใคร ยืนยันว่าคุณเรืองไกรไม่ได้เล่นลิเกกับผม เขาเอาจริง ไม่มีอะไรที่น่าวิตกทุกข์ร้อน ผมให้เกียรติคุณเรืองไกรถึงออกมาชี้แจง" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า รถยนต์ยี่ห้อโรลล์ส-รอยซ์ เป็นของเพื่อนนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เมื่อปี 2524 มีความผูกพันกับครอบครัว และตนรักเหมือนบุตรชายคนโต เวลาที่ทำธุรกิจอะไร มักจะนำคนในครอบครัวตนไปร่วมหุ้นส่วนด้วยเสมอ จนมาทำธุรกิจท่าเรือและขนส่งทางเรือ จึงให้ ร.ต.อ.ดวง อยู่บำรุง บุตรชายของตนเป็นหุ้นส่วนด้วย ธุรกิจไปได้ดี ทำให้ตนไม่ต้องทุจริตคอรัปชั่น และเพื่อนนักธุรกิจคนนั้นเป็นคนชอบรถยนต์ ได้ซื้อรถยนต์ราคาแพงมาหลายคัน แต่บ้านไม่มีที่จอดจึงนำมาฝากไว้ที่บ้านตน ซึ่งตนสามารถนำไปทำอะไรก็ได้เพราะชอบพอกัน
"รถคันนี้ โรลล์ส-รอยซ์ โกสต์ พอ 4444 เป็นหนึ่งในหลายคันที่เขาฝากจอดไว้ ยังมีโรลล์ส-รอยซ์ สีดำอีกหนึ่งคันด้วย เวลาที่พรรคพวกมาจากต่างประเทศ เขาก็นำไปใช้ เวลาไม่ใช้ ผมก็ใช้ ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับผมเลย ถ้ารถเสียภาษีไม่ถูกต้อง ผมก็ไม่ผิด" ร.ต.อ.เฉลิมระบุ
ร.ต.อ.เฉลิมให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า หลังจากตนได้หารือกับทีมทนายความแล้ว ได้ตัดสินใจจะแจ้งความดำเนินคดีกับนายเรืองไกร โดยในช่วงเช้าวันที่ 18 มิ.ย.ได้มอบหมายให้ทีมทนายความเดินทางไป สน.แสมดำ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายเรืองไกรในข้อหาหมิ่นประมาท
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ได้เปิดห้องปฏิบัติการคณะทำงานคดีรถจดประกอบหลบเลี่ยงภาษี โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานรัฐ 7 หน่วย และภาคธุรกิจตัวแทนรถหรูยี่ห้อดัง 10 บริษัท ร่วมตรวจสอบเอกสารรถต้องสงสัยจดประกอบผิดกฎหมาย ราคาในท้องตลาดตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 548 คัน โดยมีการแยกกล่องบรรจุแฟ้มตามยี่ห้อรถดัง ซึ่งรถเบนซ์มากที่สุด รองลงมาเป็นบีเอ็มดับเบิลยู
นายธาริตกล่าวว่า เอกสารจะถูกเปิดต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตัวแทนรถหรูและพนักงานสอบสวน เพื่อตรวจสอบหาประวัติของรถแต่ละคัน ตั้งแต่การนำเข้าชิ้นส่วน การเสียภาษีศุลกากร ซึ่งเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่านทุกคน ที่มีลายเซ็นในเอกสารระบุถึงการรับราคารถยนต์ จะต้องมาตรวจสอบลายเซ็นของตนเองในเอกสาร ว่าถูกปลอมแปลงลายเซ็นหรือไม่ และให้การยืนยันเอกสาร การจดประกอบในไทย การเสียภาษีสรรพสามิต จนถึงการตรวจสอบสมรรถนะรถยนต์จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)
นายธาริตกล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัวนายนที ริ้วทอง ผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่มีการซัดทอดว่าเป็นผู้ว่าจ้างนางองุ่น จึงแสงมณี เจ้าของรถเทรลเลอร์ขนรถที่ถูกเพลิงไหม้ทั้ง 6 คัน ว่า ล่าสุดดีเอสไอได้นำเครื่องบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ โดยเห็นหน้าผู้ว่าจ้างนายนที ซึ่งเป็นเสี่ยในวงการรถหรู 2 คนอย่างชัดเจน และรู้จุดที่นำรถ 6 คันไปขึ้นรถเทรลเลอร์ด้วย โดยนางองุ่นยินดีที่จะชี้ภาพและยืนยันตัวเสี่ยในวงการรถหรูทั้ง 2 คน ดีเอสไอจึงต้องการให้เสี่ยทั้ง 2 คน ซึ่งรู้ตัวอยู่แล้วเข้ามามอบตัว ก่อนที่ดีเอสไอจะขอหมายจับ
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวเชื่อมโยงถึงนักการเมืองที่ครอบครองรถยนต์หรูเลี่ยงภาษีนั้น นายธาริตกล่าวว่า ดีเอสไออยู่ระหว่างหาพยานหลักฐานให้ชัดเจน ซึ่งแผนประทุษกรรมของขบวนการรถจดประกอบผิดกฎหมาย แบ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มนำเข้า, กลุ่มจดประกอบตัวรถ, กลุ่มผู้ใช้อิทธิพลดำเนินการให้มีการจดทะเบียน เพื่อตบตาให้เจ้าหน้าที่จดทะเบียนให้ และอีกกลุ่มเป็นฝ่ายขาย
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.การคลัง เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบรถหรูว่า ขณะนี้กรมศุลกากรได้รายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เพราะจะทำให้เสียรูปคดี โดยตนได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ และดูแลในเรื่องนี้อย่างรอบคอบที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริต หากพบว่ามีข้าราชการไปเกี่ยวข้องต้องตรวจสอบ และผู้บริหารงานต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ด้านนางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะมีปัญหาการลักลอบนำเข้ารถหรูและเกิดไฟไหม้อย่างที่เป็นข่าวในขณะนี้นั้น ทางกรมฯ ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ตลอด โดยได้มีการย้ายเจ้าหน้าที่ระดับนายตรวจทั้งหมด 3 คน เนื่องจากพบข้อมูลว่ามีการละเลย ปล่อยให้มีการนำเข้ารถหรู ส่งผลให้รัฐสูญเสียเงินภาษีคันละ 10 ล้านบาทจำนวนหลายคันมาแล้ว
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบเจ้าหน้าที่ ที่ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวแล้ว เพื่อให้มีความชัดเจนมากที่สุด โดยกระบวนการตรวจสอบอยู่ระหว่างการดำเนินการ
ด้านนายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรมฯ ได้ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด เกี่ยวกับการดำเนินการจัดเก็บภาษีรถจดประกอบ ซึ่งก็ได้มีการสั่งการไปยังสรรพสามิตพื้นที่ ให้ดำเนินการทุกขั้นตอนด้วยความรอบคอบ โดยพบว่าภายหลังจากที่กรมฯ ได้ออกประกาศอัตราการชำระภาษีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ที่ประกอบจากชิ้นส่วนเก่าที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ จะต้องเสียภาษีในอัตรา 30-40% ซึ่งก็พบว่าที่ผ่านมา ยังมีผู้ประกอบการที่ดำเนินการเสียภาษีอย่างถูกต้อง และสามารถดำเนินธุรกิจอยู่ได้อย่างปกติ แม้จะอยู่ในสัดส่วนที่ลดลงจากที่ผ่านมาก็ตาม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น