วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หน้ากากการเมือง เมื่อ 17 มิ.ย.56



หน้ากากการเมือง

การเคลื่อนไหวทางการเมืองของประชาชน สะท้อนปัญหาจากระบบการเมืองที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาเหล่านั้น ซึ่งก็เป็นสิ่งปกติที่รัฐบาลประชาธิปไตยทั่วโลกย่อมไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ทุกกลุ่ม จึงเป็นเรื่องปกติเช่นกันที่การเคลื่อนไหวทางการเมืองของภาคประชาชน ทั้งการเดินขบวน การประท้วง การวิจารณ์ การแสดงสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยกับฝ่ายการเมือง จะกลายเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตย
แต่ความรุนแรงของการเคลื่อนไหวทางการเมืองจนเกิดการปะทะเป็นสิ่งที่สังคมไทยเรียนรู้ และรังเกียจ เรามีบทเรียนมากมายตลอด 80 ปี ของระบอบประชาธิปไตยของไทย ว่าความรุนแรงไม่ใช่ทางออกสำหรับปัญหาที่ยั่งยืน ผลของความรุนแรงและมีผู้ได้ประโยชน์เพียงบางกลุ่ม ดังนั้นหากสังคมจะเพิ่มช่องทางของการเคลื่อนไหวทางการเมืองของภาคประชาชนที่ไม่ใช้ความรุนแรงต่อกัน จึงไม่ควรที่จะต้องมีข้อแม้ตั้งแง่ใส่แบบด่วนสรุป หน้ากาก เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการต่อสู้ในการทางเมือง หรืออุดมการณ์ของกลุ่มประชาชนที่พึงแสดงออกได้ภายใต้กฎหมาย ตราบเท่าที่ทุกหน้ากากไม่ใช้ความรุนแรง ก็ไม่ควรกังวลว่าจะผิดปกติ
ปรากฏการณ์หน้ากากขาว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องการระบอบทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กระจายไปทั่วทั้งสังคมออนไลน์และสังคมจริง บ่งบอกว่ามีคนจำนวนหนึ่งซึ่งไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล ต้องการและอยากบอกว่ารัฐบาลไม่เป็นไปอย่างที่พวกเขาหวังอย่างไร รัฐบาลจึงควรลาออกไป
การรวมตัวกันของกลุ่มหน้ากากขาวในช่วงต้นเดือนบริเวณหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากทั้งที่เป็นการนัดหมายผ่านโลกออนไลน์ ได้สร้างกระแสหน้ากากขาวไปทั่วประเทศแบบไฟลามทุ่ง เสียงสะท้อนมีทั้งดีและเสีย แน่นอนว่าสำหรับคนที่ไม่เอาระบอบทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์ สนับสนุนกลุ่มหน้ากาก แต่กลุ่มที่รักทักษิณและสนับสนุนรัฐบาล ก็มองว่าเรื่องนี้เป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ เพราะหน้ากากขาวแท้จริงก็คือกลุ่มคนเสื้อเหลืองและแนวร่วม
สำหรับรัฐบาล ถ้าหน้ากากขาวเป็นกลุ่มคนเสื้อเหลืองจริง ก็ไม่ควรจะต้องมากังวล เนื่องจากอย่างไรเสีย กลุ่มเสื้อเหลืองก็ไม่เอารัฐบาลและระบอบทักษิณอยู่แล้ว ที่ผ่านมารัฐบาลก็ไม่ได้ตอบสนองหรือให้ราคากับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อเหลืองมากนัก ถ้าเชื่อว่าหน้ากากขาวเป็นคนเสื้อเหลือง รัฐบาลต้องนิ่ง กลุ่มคนเสื้อแดงต้องนิ่ง อย่างไรก็ตาม กระแสของหน้ากากขาวถึงวันนี้ก็ยังแรงไม่หยุด เวทีเคลื่อนไหวผุดขึ้นในจังหวัดต่างๆ เป็นที่รวมของคนหน้าเดิม และคนหน้าใหม่ที่ประกาศตัวไม่เอาระบอบทักษิณ ไม่แปลกที่มีคนหน้าเดิมออกมาเคลื่อนไหว ที่แปลกคือมีคนหน้าใหม่เข้ามาเพิ่ม เพราะข้อมูลการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาบางเรื่องสร้างความไม่พอใจให้ประชาชนบางกลุ่ม
ผลการสำรวจของเอแบคโพล ยืนยันกระแสเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มหน้ากาก ผู้ตอบคำถามครึ่งหนึ่งเชื่อว่า การเคลื่อนไหวของหน้ากากการเมืองจะเป็นชนวนนำไปสู่การรัฐประหารได้มาก และส่วนใหญ่เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างราบรื่น
หากมองในเชิงระบบการเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากทางการเมืองไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ เพียงแต่เป็นรูปแบบหนึ่งการของใช้สัญลักษณ์แสดงออกทางความคิด ใช้สัญลักษณ์เพื่อรวมกลุ่ม ซึ่งเสื้อเหลือง เสื้อแดงก็เป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวที่มีเป้าหมาปลายทางร่วมกัน ปัญหาจะไม่เกิดหากไม่เชื่อมอุดมการณ์และประโยชน์ส่วนรวมเข้าสู่ประโยชน์ส่วนตัว และปัญหาจะไม่เกิดขึ้นหากไม่ใช้ความรุนแรง
การก่อกวนและทำร้ายร่างกายกลุ่มหน้ากากขาวเชียงใหม่ โดยกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เป็นผลดีต่อคนเสื้อแดงที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย เพราะหน้ากากขาวเป็นเพียงสัญลักษณ์ในการเคลื่อนไหว การใช้ความรุนแรงทำร้ายคนหน้ากากขาวในวันนั้น สะท้อนว่าคนเสื้อแดงกลุ่มนั้นขาดความเป็นนักประชาธิปไตยอย่างที่กล่าวอ้าง เป็นเสื้อแดงที่ใส่หน้ากากประชาธิปไตยเป็นข้ออ้าง
ความน่าเบื่อหน่ายของการใช้หน้ากากประชาธิปไตยเป็นข้ออ้างตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้สร้างบรรยากาศแห่งความเงียบงันทางสังคม ทำให้ข้อเท็จจริงสำคัญน้อยกว่าหลักการ วาทกรรมที่ตั้งอยู่บนหลักการ แต่ปฏิบัติตั้งอยู่บนหลักตน ดูเหมือนกระแสนี้จะใช้ประโยชน์กับกลุ่มได้หลายๆ เรื่อง บางคนเริ่มเรียนรู้และเลียนแบบ เดี๋ยวนี้ใครบางคนกลายเป็นคนมีหลักการ ส่วนปฏิบัติเป็นอย่างไรค่อยว่าก็กัน ใครติใครถามก็บอกว่าตนทำไปตามหลักการประชาธิปไตย ดูอย่างไรก็ขัด
ตัวจริงเป็นพ่อค้าแต่มาสวมหน้ากากเป็นรัฐมนตรีดูแลประโยชน์ส่วนรวม ก็ต้องสวมบทบาทหน้ากากรัฐมนตรี ไม่ใช่เล่นบทพ่อค้าหาประโยชน์ใส่กระเป๋า หรือตัวจริงเป็นคนในครอบครัวคนที่มีบุญคุณกัน แต่ต้องใส่หน้ากากผู้ตรวจสอบคนในครอบครัวก็ต้องสวมบทตรวจสอบ ไม่ใช่มาเอื้อกัน หน้ากากรัฐมนตรีที่ควรส่งเสริมการมีส่วนร่วมก็ควรแสดงออกให้สอดคล้องกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วม ไม่ใช่ถอดหน้ากากเล่นบทเป็นตัวจริงที่นิยมดูแคลนผู้อื่น รัฐบาลสวมบทบริหาร ฝ่ายค้านใส่หน้ากากตรวจสอบ เมื่อตั้งข้อสังเกตมา รัฐบาลก็ชี้แจงเท่านั้นเป็นอันจบ แต่หากฝ่ายค้านเล่นบทลากไส้ตรวจสอบ เล่นเรื่องส่วนตัว ไม่ตีประเด็นตามหน้ากากฝ่ายค้านก็ไม่ชอบธรรม เดี๋ยวนี้คนไทยดูละครการเมืองเป็นแล้ว
บางสิ่งที่สังคมควรได้ขบคิดในวาระที่มีกระแสหน้ากาก ว่าแท้ที่จริงการเมืองเป็นเพียงเวทีหนึ่งที่ตัวละครทุกกลุ่มก็สวมหน้ากากเล่นตามบทของตนเอง ฝ่ายค้านมีหน้ากากตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รัฐบาลสวมหน้ากากบริหารประเทศ แม้คำว่าประชาธิปไตย คำว่าชาติ และผลประโยชน์ของประเทศเป็นสิ่งหล่อหลอมให้ผู้คนในสังคมเดินร่วมทางกันไปได้ แต่ประชาธิปไตย ชาติ และผลประโยชน์ของประเทศก็เป็นสิ่งสมมติที่ใครก็อาจนำไปอ้างเพื่อประโยชน์ของตน ขึ้นอยู่กับใครจะสร้างวาทกรรม ระวังตัวและอย่าลืมตัวว่าใส่หน้ากากไหน ไม่มีใครเป็นเจ้าของหน้ากากที่แท้จริง เล่นให้สมบทบาทแล้วเลิกเล่นในเวลาอันควร เป็นหนทางแห่งความสุขของสังคม
ดร.สืบวงศ์ กาฬวงศ์



วันที่ 16/06/2556 เวลา 22:29 น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น