วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

วันจันทร์ ที่ 17 มิถุนายน 2556 เก็บตกหน้ากาก V จาก CTW ถึง สนามหลวง เหนื่อยล้า แต่ชื่นใจ บางมุมที่อยากจะเล่า

วันจันทร์ ที่ 17 มิถุนายน 2556

เก็บตกหน้ากาก V จาก CTW ถึง สนามหลวง เหนื่อยล้า แต่ชื่นใจ บางมุมที่อยากจะเล่า
.
.
.
ขอรายงานเพิ่มเติมจากท่านอื่นๆ พร้อมข้อสังเกตอีกนิดหน่อย
เดี๋ยวจะว่า นักรบหน้าจอ ไม่แน่จริง 555+


1. จำนวนมวลชน



(ภาพจากเพื่อนบ้าน)





.
.
.
บางสื่อหรือบางท่านก็บอกว่า สามหมื่น
บางที่ก็บอกว่า สามพัน ถึงห้าพัน
ผมว่า น่าจะเป็นตัวเลขที่ใช้ไม่ได้ทั้งสองแบบ
ถ้าให้ผมประเมิืนผมก็ว่า น่าจะอยู่แถวๆหมื่น บวก/ลบ

อย่าลืมด้วยว่า พี่น้องหน้ากากขาวส่วนหนึ่งก็ไปยืนอยู่บนสะพาน
เพื่อจับจองหาทำเลถ่ายภาพ เวลานับ ก็ต้องรวมพวกเขาเหล่านี้ไปด้วยนะคร๊าบบบ



2. เครื่องขยายเสียง และโฆษก





.
.
.
ทีแรก ผมก็ลุ้นอยู่ว่า จะมีรถเครื่องขยายเสียงมั๊ย
ผมไปถึงก่อนบ่ายโมง ตอนนั้น รถเครื่องขยายเสียงยังไม่มี ก็แอบกังวลอยู่เหมือนกัน
มีเพียง โทรโข่ง กับ ไมค์ลอย ลำโพงเล็กๆ
เวลาชี้แจง หรือแจ้งเรื่องอะไร ก็ยังไม่ค่อยจะตรงกัน อาจจะมาจากคนละกลุ่ม

ตอนที่เสื้อแดงมาก่อกวน อยู่ฝั่งตรงข้าม น้องผู้ชายที่ถือไมค์ลอย ประกาศว่า
"พวกเราโดน"
พร้อมกับทำท่าจะวิ่งข้ามไปช่วย
แต่สักพัก ก็ประกาศบอกว่า ให้พวกเรา ข้ามไปฝั่งตรงข้าม เพื่อไปรวมกับพี่น้องที่อยู่ฝั่งโน้นประมาณ สองร้อยคน

น้องอีกคนที่ถือโทรโข่ง และทำหน้าที่ตรงจุดนั้นอยู่ก่อนแล้ว
จึงชิงประกาศผ่านโทรโข่งขึ้นมาว่า
ขอให้พวกเรารวมตัวกันอยู่ฝั่งนี้ เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น
พวกเราอย่าได้ไปหลงกลของพวกไม่หวังดี

ทีแรกก็นึกว่า น้องผู้ชายที่ถือไมค์ลอยเป็นสปายของพี่น้องเสื้อแดง แฝงตัวมาสร้างกลลวงรึปล่าว
ผมหันไปมองทั้งสองคน ซึ่งก็ยืนประกาศอยู่ใกล้ๆกัน เอาไงกันดีล่ะน้อง (คิืดในใจ)
ดูเหมือนน้องผู้หญิงจะมีสติดีกว่า หรืออาจมีประสบการณ์มากกว่า
สักพักจึงประกาศออกไปว่า ใครที่มีโทรโข่ง หรือไมค์โครโฟน ให้มารวมที่จุดเดียวกัน
น้องผู้ชาย หันไปมอง และแสดงอาการ เห็นด้วย
และไปยืนรวมกัน แต่การประกาศก็ยังไม่สอดคล้องกันเท่าไหร่นัก

สักพักใหญ่ๆ รถเครื่องขยายเสียงก็มาถึง
ผมรีบวิ่งไปดู ด้วยความชื่นใจ และคิดว่า นี่แหละคือทางออกที่ดีที่สุด

เรื่องรถเครื่องขยายเสียงก็มีข้อสังเกตเล็กๆว่า ด้านหน้าเสียงชัดเจนดี
แต่เวลาขบวนเคลื่อนไปข้างหน้า รถเครื่องขยายเสียงจะอยู่ด้านหน้า
พี่น้องหน้ากากวี จะอยู่ด้านหลัง และเวลาที่โฆษกบนรถ ประกาศอะไร ก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง
ผมว่าถ้าเอาลำโพงฮอร์น หันมาด้านหลังซักสองสามตัว เสียงน่าจะแจ่ม

เรื่องโฆษกบนรถเครื่องขยายเสียง
ผมว่าเสียงยังไม่ค่อยมีพลัง ยังสะกดมวลชน หรือตรึงมวลชนได้ไม่ดีนัก
เห็นตอนคุณไทกร คว้าไมค์ไปพูดตอนอยู่ที่ CTW เสียงแกชัดเจน มีพลัง และรู้จักการเลือกใช้คำ
ถ้าได้แบบนี้ซักคนสองคน ก็คงจะแจ่ม


3. อาหาร และเครื่องดื่ม




.
.
.
พอดีช่วงนี้เป็นเทศกาลอาหาร อะไรซักอย่าง (เห็นที่ป้ายเขียนบอกไว้)
ก็เลยเต็มไปด้วยอาหารการกิน
แต่ถึงแม้ไม่มีเทศกาลอาหารอะไร ริมฟุตบาทหน้าห้างก็มีอาหารการกินพอได้อยู่
หรือจะเข้าไปกินในห้างก่อน ค่อยออกมาร่วมกับขบนก็คงไม่มีปัญหาอะไร
แต่ต้องระวังนิดนึง ตอนเดินเข้าห้าง รปภ.เขาจะค้นกระเป๋านะจ๊ะ

น้ำดื่มนี่สำคัญครับ ใครมีกระเป๋าสะพายเล็กๆใส่กระเป๋าติดไปด้วยก็ดี
โดยเฉพาะใครที่มีปัญหากับตะคริว ติดน้ำเกลือแร่ไว้บ้างก็จะอุ่นใจครับ
น้ำดื่ม แม้ใครไม่มีติดตัวไป ก็ไม่ต้องกังวลครับ เพราะรถกระบะบรรทุกน้ำดื่มของทีมงาน
ก็จะคอยวนแจกน้ำอยู่เป็นระยะๆ


4. เครื่องแต่งกาย









.
.
.
ตอนนี้ ทั้งหน้ากาก วี เสื้อหน้ากากวี สกรีนทั้งด้านหน้า ด้านหลัง ธงชาติ และอื่นๆ
มีมาวางให้เลือกซื้อเลือกช้อป เต็มไปหมด ใครที่ยังหาหน้ากากไม่ได้ ก็ไม่ต้องกังวลครับ
หน้ากากจากโรงงานจีน ราคาอันละ ๑๐๐ บาท บางเจ้าก็ขายแค่ ๙๐ บาท
เสื้อยืด ด้านหน้าเป็นหน้ากากวี ด้านหลังเป็นข้อความ
อุดหนุนมาหนึ่งตัว คอกลม เบอร์ L ๒๓๐ บาท ครับ

ส่วนหน้ากากกระดาษในภาพด้านล่างนั้น ทีมงานเอามาแจกครับ
ไม่แน่ใจว่าเป็นทีมงาน วี ฟอร์ ไทยแลนด์ หรือทีมงานสนามหลวง
ช่วยตามกำลัง โดยหย่อนในกล่อง อย่าให้ทีมงานต้องขาดทุนก็แล้วกัน
ผมหยิบมาหนึ่งอัน หย่อนกล่องไป ๕๐ บาท ครึ่งนึงของหน้ากากจีน น่าจะกำลังดี


5. หอศิลป์ฯ แคบไปหน่อยมั๊ย





.
.
.
มวลชนขนาดนี้ ก็พอไหวครับ เพราะส่วนหนึ่งก็ขึ้นไปอยู่บนสะพาน เพื่อเลือกมุมถ่ายรูปสวยๆรึปล่าวครับ
ส่วนผมอยู่ด้านล่าง และสังเกตเห็นว่า ตรงกลางยังว่างอยู่เยอะเลย
อนาคต ถ้ามวลชน ซักหมื่นห้า หรือสองหมื่น น่าจะมีปัญหา อาจต้องยึดถนนซักเลนสองเลนครับ อิอิ


6. การ์ด และความปลอดภัยของมวลชน






.
.
.
กลายเป็นเรื่องให้ เจเจ สาธร แห่งโกหกทีวี เอาไปเขียนโจมตี
เข้าใจว่า พี่น้องหน้ากากวี บางคนก็อาจกังวล หรือเข้าใจผิดกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน

กระทั่ง โฆษกที่เวทีสนามหลวง ก็ได้ประกาศบนเวทีว่า มีคนไปโพสต์บนเฟสบุ๊คว่า
พี่ๆเหล่านี้ มีอาวุธ และน่าจะเป็นบุคคลอันตราย ให้ระวัง

ความจริงก็ไม่ได้มีอะไรน่ากังวลหรอกครับ
พี่ๆเหล่านี้เป็นการ์ดอาสา ทั้งจากกลุ่มธรรมาธิปไตยที่สนามหลวง และการ์ดพันธมิตร
(อาจเป็นอดีตการ์ดพันธมิตรที่มารวมตัวกันใหม่)
มีทั้งเสื้อฟ้า เสื้อเหลือง เสื้อชมพู ส่วนอาวุธก็ไม่ได้มีอะไรมากครับ
มีไม้จิ้มฟัน กะเชือก ไม้จิ้มฟันเอาไว้จิ้มตาพวกที่จะมาทำร้ายพี่น้องหน้ากากวีครับ
ส่วนเชือกเห็นพี่ๆเค้าบอกว่า เอาไว้ล่ามควายที่ออกอาละวาด จะเอาไปกินหญ้าที่สนามหลวง
เพราะช่วงนี้ หญ้าที่สนามหลวงกำลังงาม 555+

ส่วนหนึ่งก็เป็นทหารจากพลร่มป่าหวาย ผมได้ยินเค้าประกาศอย่างนั้นนะ

เรื่องนี้เรื่องใหญ่ครับ ไม่งั้นอาจซ้ำรอยที่เชียงใหม่
เห็นเตรียมการ์ดกันไว้มากมายแบบนี้ ก็อุ่นใจครับ
พี่น้องที่กำลัง ลังเลอยู่ทางหน้าจอ ตอนนี้ก็สบายใจ หายห่วงได้แล้วครับ
ครั้งหน้า ต้องออกมาให้มากกว่าเดิม


7. จากหอศิลป์ฯ ไปสนามหลวง ไกลไปหน่อยมั๊ย









.
.
.
ก็ไกลเอาการณ์อยู่เหมือนกันครับ ไม่แน่ใจว่าอยู่ในแผนแต่แรกรึปล่าว
สำหรับผม ผมตั้งใจจะไปเยี่ยมพี่น้องที่สนามหลวงนานแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาส
ครั้งนี้ ก็นับเป็นโอกาสอันดี จึงร่วมขบวนไปกับพี่น้องหน้ากากวี อย่างไม่ลังเล

สิบกว่ากิโลฯ หรืออาจร่วมๆยี่สิบกิโลฯรึปล่าวครับ ไม่แน่ใจ รู้แต่ว่า ล้าไปหมด
เลยครึ่งทางไปไม่ไกล ขาก็แทบยกไม่ขึ้นแล้ว ไปราวๆครึ่งทางก็เห็นพี่น้องเดินตามกันมาเยอะอยู่
แต่พอไปถึงแถวๆอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สังเกตเห็นว่า เหลือไม่กี่คน
แต่คงไม่ใช่ปัญหาอะไรครับ เท่านี้พี่น้องที่สนามหลวงก็ชื่นใจ และมีกำลังใจเพิ่มขึ้นอีกโขแล้วครับ

ส่วนผม กัดฟันเดินจนถึงครับ ได้ขนมจีนเจ มาหนึ่งชาม ทำให้มีเรี่ยวแรงขึ้นมาอีกหน่อย
แล้วจึงเดินสำรวจและทักทายพี่น้องที่อยู่รอบๆบริเวณนั้น จนกระทั่งไปสิ้นสุดที่หน้าเวที

*** ขอบคุณ และขอคารวะ พี่น้องหน้ากากวี และพี่น้องที่สนามหลวง รวมทั้งพี่น้องการ์ดอาสาทุกท่านครับ ***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น