วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

วันพฤหัสบดี ที่ 13 มิถุนายน 2556 เปิดปมที่น่าสะพรึงกลัว...ตำรวจ หน.ชุดสืบคดีเอกยุทธ เป็นจำเลยอุ้มฆ่าทนายสมชาย

วันพฤหัสบดี ที่ 13 มิถุนายน 2556

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์....13 มิถุนายน 2556 05:06 น.
รายงานการเมือง
       โดย แสงตะวัน
      
       คดีฆาตกรรม เอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังที่ต้องเรียกว่า
เป็นศัตรูคู่อาฆาตกับระบอบทักษิณมายาวนานหลายปี ทำให้สังคมไทย
เข้าสุ่ยุคแห่งความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจต่อการทำหน้าที่ของตำรวจรุนแรงหนักหน่วงยิ่งขึ้น
      
       หรืออาจจะเรียกได้ว่า สีกากีในใจคนไทยนั้นแทบจะไม่ต่างอะไรกับ “โจรในเครื่องแบบ”
พ่วงด้วยวลี “มีวันนี้เพราะพี่ให้” ก็ยิ่งซ้ำเติมวิกฤตศรัทธาต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ให้ตกต่ำดิ่งเหวมากขึ้นไปอีก
      
       โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวิธีบริหารจากพี่ชายนักโทษมาถึงน้องสาวหุ่นเชิด
ที่สร้างรัฐตำรวจขึ้นมาค้ำจุนอำนาจตัวเองไม่แตกต่างจากกัน จนทำให้เกิดภาพ
โรงพักสีแดงที่จังหวัดสุรินทร์มาแล้ว
      
       ในภาวะที่ตำรวจเลือกข้างยืนอยู่กับผู้มีอำนาจมากกว่าประชาชน คำแถลงของ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบ.ชน. ที่เข้ามาทำคดีนี้จึงไม่สามารถสร้างความมั่นใจ
ให้กับสังคมได้ว่า คำสารภาพของคนขับรถเอกยุทธ จะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น
หรือเป็นพล็อตที่ถูกสร้างขึ้นโดยทีมอุ้มฆ่าตัวจริงที่แต่งตัวไม่ต่างจากตำรวจ !
      
       ประเด็นที่น่าสนใจในคดีนี้คือ มีตัวละครที่มีความเชื่อมโยงกับคดีอุ้มฆ่า
ทนายสมชาย นีละไพจิตร โผล่เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแต่ว่าคราวนี้
มาในบทบาทที่แตกต่างไปจากเดิม คือ จากผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่า
กลายเป็นตำรวจที่เข้าจับกุมตัว “บอล” คนขับรถ เอกยุทธ ได้เป็นชุดแรก
      
       เป็นการจับกุมที่มีความหมายมากที่สุด เพราะในการจับตัว “บอล” นั้น
ปรากฏพยานหลักฐานชั้นต้นมากมายจากจุดเริ่มต้นในการคลี่คลายคดีนี้
ซึ่งคนที่เข้าไปพบสิ่งเหล่านี้ก่อนใครคือ
       
        “พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน” ผู้กำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี
      
       พูดชื่อเท่านี้อาจจะยังงง ๆ จับต้นชนปลายไม่ได้ แต่ถ้าบอกว่าชื่อเดิมของ
พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ คือพ.ต.ท.ชัดชัย เลี่ยมสงวน 1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่า
ทนายสมชาย นีละไพจิตร ที่หายตัวไปเมื่อปี 2547 ในยุคที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีชื่อ 
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็อาจทำให้ต่อจิ๊กซอกันได้รวดเร็วขึ้น
      
       แม้ว่าในคดีของทนายสมชาย พ.ต.ท.ชัดชัย ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ
ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 ผู้ต้องหานั้น ผลคำพิพากษาจะออกมาว่าไม่มีความผิด
แต่ก็มีเงื่อนงำหลายอย่างที่ระบุว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของทนายสมชาย
      
       ผู้ที่ถูกฟ้องคดีในขณะนั้น ประกอบด้วย พ.ต.ต.เงิน ทองสุก, พ.ต.ท.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์,
จ.ส.ต.ชัยเวง พาด้วง, ส.ต.อ.รันดร สิทธิเขต และ พ.ต.ท.ชัดชัย เลี่ยมสงวน
ตำรวจกองปราบปราม เป็นจำเลยที่ 1-5 ฐานร่วมกันปล้นทรัพย์ และข่มขืนใจผู้อื่น
โดยใช้กำลังประทุษร้าย แต่สุดท้ายศาลลงโทษจำคุก 3 ปี เฉพาะ พ.ต.ต.เงิน และยกฟ้อง
พ.ต.ท.สินชัย จ.ส.ต.ชัยเวง ส.ต.อ.รันดร และ พ.ต.ท.ชัดชัย
      
       ในปัจจุบัน ไม่น่าเชื่อว่าผู้ที่ได้ชื่อว่า เคยเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาและจำเลย
คดีอุ้มฆ่าทนายสมชาย จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในคดีอุ้มฆ่า เอกยุทธ อัญชันบุตร
และเป็นตำรวจชุดแรกที่ได้ตัวคนขับรถของเอกยุทธ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญ
ในการคลี่คลายคดีนี้เสียด้วย
      
       ตามรายงานข่าวระบุว่า ชุดของ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส.
นำลูกน้องรวบตัว“บอล” ได้แถวสมุทรสาคร หลังจากที่ขับรถโฟล์คตู้ของเอกยุทธ
ขึ้นมาจากภาคใต้ และมีความคืบหน้าในการสืบสวนอย่างรวดเร็ว
โดยพบหลักฐานรองเท้าหนังเปื้อนโคลน เงินสด 6.5 หมื่นบาท นาฬิกาข้อมือ
กระเป๋าสตางค์ แหวนทองคำขาวของนายเอกยุทธ ฯลฯ
      
       ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือขณะที่ ผบช.น.นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวนั้น
คนขับรถเอกยุทธ ปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายไปของนายเอกยุทธ
แต่คล้อยหลังเพียงไม่นาน เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี
ให้สัมภาษณ์ฟันธงว่า เอกยุทธ ถูกคนขับรถฆาตกรรมเพื่อชิงทรัพย์
      
       รูปคดีก็ออกมาตามปากของ ร.ต.อ.เฉลิม ราวกับวาจาพระร่วง
      
       เงินห้าล้านอาจเป็นหนึ่งในมูลเหตุที่สร้างแรงจูงใจให้คนเกิดความโลภจนฆ่ากันได้
แต่คำถามคือการฆาตกรรมเอกยุทธครั้งนี้ ไม่มีทางที่คนขับรถจะทำเองโดยลำพัง
เพราะต้องมีการวางแผนอย่างดี ก่อนที่จะมีการเอาตัวเอกยุทธไป
รวมถึงรอบคอบขนาดแกะฮาร์ดดิสก์ของกล้องวงจรปิดที่บ้านเอกยุทธไปด้วย
      
       วิธีคิด รูปแบบการจัดการ บ่งบอกว่าไม่ใช่มือสมัครเล่น แต่น่าจะเป็นทีมอุ้มฆ่ามืออาชีพ
ที่ผ่านงานมัจจุราชมาแล้วอย่างโชกโชน และมีฝีมือระดับพระกาฬเหมือนทีมอุ้มฆ่าทนายสมชาย
ที่สามารถพรากเอาชีวิตและลมหายใจทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนไปได้อย่างไร้ร่องรอย
จนถึงวันนี้ก็ยังหาศพไม่พบแม้ว่าเวลาจะผ่านมานานถึง 9 ปี
      
       การที่ พ.ต.ท.ชัดชัย หรือ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เข้ามามีส่วนคลี่คลายคดีนี้ได้อย่างเหลือเชื่อ
เพราะโดยหน้าที่แล้วคือเป็นผู้กำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี แต่กลับได้รับความไว้วางใจ
ให้มาเป็นหนึ่งในทีมสอบสวนที่ตั้งโดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์
      
       ว่ากันว่านอกจาก พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ จะเปรียบเสมือนมือขวาของ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์แล้ว ยังเป็นคนที่มีฝีมือหาตัวจับยาก
ถึงขนาดในแวดวงมือสืบสวนเคยพูดกันว่า โชคดีที่เขาเป็นตำรวจ
เพราะถ้าเขาเป็นโจร ตำรวจคงจับตัวได้ยาก ! 
      
       คดีฆาตกรรมเอกยุทธ ในยุคยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เกิดขึ้นหลัง
ความฉาว ว.5โฟร์ซีซั่นส์ ชั้น 7 ตามมาด้วยวลี “น้ำทะเลกระฉอกที่มัลดีฟส์”
และการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการฟอกเงินของนักการเมืองใหญ่ในอังกฤษ
      
       ล้วนเป็นเรื่องยากยิ่งที่จะทำให้คนไทยเชื่ออย่างสนิทใจว่า เอกยุทธ จะตายน้ำตื้น
เพียงเพราะถูกฆ่าชิงทรัพย์ โดยคนขับรถอายุ 25 ปี ซึ่งหลังจากเปิดปากปฏิเสธ
ต่อหน้าสื่อมวลชนในครั้งแรก จนป่านนี้ก็ยังไม่มีโอกาสได้พูดอะไรกับสาธารณะชนอีกเลย
      
       ก่อนจะมีการพบศพเอกยุทธเมื่อวานนี้(12มิ.ย.) ปรากฏข่าวความคืบหน้าออกมา
ก่อนวันหนึ่งว่าคนร้ายสารภาพแล้ว รู้จุดฝังศพ กำลังไปหาศพนั้นก็ล้วนแต่ออกมา
จากปากของตำรวจทั้งสิ้น ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา
ตามติดมาได้อีกหลายคนอย่างรวดเร็ว และให้ไปชี้จุดฝังศพ แต่สองคนที่บอกร่วม
ทีมฝังด้วยกัน ดันชี้จุดฝังคนละที่ !
      
       ไม่แน่ว่าคดีลึกลับซ่อนเงื่อนเช่นนี้ จะไม่มีเพียงแค่ ร.ต.อ.เฉลิมที่รู้ดีเท่านั้น
แต่คนข้างกายอย่าง พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ฝ่ายการเมือง หรือเรียกง่าย ๆ ว่า เป็นเลขาฯ ของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็น่าจะเป็นอีกคนหนึ่งที่รู้ดี
เพราะมีความเชี่ยวชาญ ชำนาญเกี่ยวกับคดีอุ้มฆ่า ในฐานะนายตำรวจมือปราบเก่ามาก่อน
      
       ประวัติของ พล.ต.อ.ภาณูพงศ์ เรียกว่าไม่ธรรมดา เมื่อครั้งติดยศร้อยตำรวจโท
ที่ สน.เตาปูน เคยเป็นหัวหน้าสายสืบที่ร่วมปราบจอมโจรชื่อดังแห่งยุค คือ ตี๋ใหญ่
มาแล้ว จากนั้นจึงได้เลื่อนยศและพื้นที่นครบาลเหนือ
      
       คดีลือลั่นที่ทำให้คนจดจำชื่อ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ได้คือ ในขณะติดยศ
พล.ต.ต.เป็นหัวหน้าชุดตำรวจที่วิสามัญฆาตกรรมนักโทษชาวพม่าที่แหกเรือนจำ
มหาชัยเสียชีวิตทั้งหมด 9 คนมาแล้ว ผ่านการถ่ายทอดสดโดยช่อง 9 มาแล้ว
      
       แวดวงตำรวจมือปราบที่คร่ำหวอดอยู่กับคดีวิสามัญฆาตกรรม ดูเหมือนว่าจะเป็นโลกแคบ
เพราะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ในอดีตก็โด่งดังมาจากการกุดหัว “โจด่านช้าง”
แห่งสุพรรณบุรี ส่วน พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ ที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เรียกใช้ใกล้ชิด
เพื่อเชื่อฝีมือนั้น ในขณะที่ใช้ชื่อ พ.ต.ท.ชัดชัย ก็เคยเป็นมือเป็นไม้ให้กับ
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ ด้วยเช่นเดียวกัน
      
       ไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่า เรื่อง “อุ้มฆ่า” จะวนมาเจอตัวละครเดิมอีกครั้ง
บนความโชคร้ายของ เอกยุทธ อัญชันบุตร และความน่าสะพรึงกลัว
ของสังคมไทยในยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน
************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น