วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หมอพรทิพย์ติงเก็บหลักฐานศพ “เอกยุทธ” รวบรัด หวั่นถูกครหา “รัฐตำรวจ” โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 13 มิถุนายน 2556 14:29 น.


หมอพรทิพย์ติงเก็บหลักฐานศพ “เอกยุทธ” รวบรัด หวั่นถูกครหา “รัฐตำรวจ”
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม13 มิถุนายน 2556 14:29 น.
ASTVผู้จัดการ - พญ.พรทิพย์ชี้คดี “เอกยุทธ” ฆาตกรรมอำพรางไม่ต่าง “สมชาย นีละไพจิตร” ระบุตำรวจเก็บหลักฐานศพไม่ละเอียด แนะเจ้าหน้าที่รัฐและฝ่ายการเมืองต้องระมัดระวังการก้าวก่ายคดีและต้องโปร่งใสกว่านี้เพื่อไม่ให้ถูกครหาว่าดำเนินการไม่สุด-เข้าข่ายรัฐตำรวจ ยันช่วยอะไรไม่ได้เพราะถูกย้ายเป็นผู้ตรวจราชการแล้วยกเว้นผู้บังคับบัญชาสั่ง
       
       จากคดีฆาตกรรมอำพราง นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังและเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ วันนี้ (13 มิ.ย.) แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันทน์ ผู้ตรวจราชการสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกายโดยระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า คดีของนายเอกยุทธถือว่าไม่ได้แตกต่างจากคดีของนายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำในปี 2547 ในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
       
       “คดีนี้มันก็ไม่ต่างจากกรณีของคุณสมชาย นีละไพจิตร ซึ่งเรายังไม่รู้ประเด็นว่าคืออะไร แต่ผู้ตายไม่ใช่ประชาชนธรรมดาที่ไม่เคยมีเรื่องกับอำนาจรัฐ เพราะฉะนั้น ถ้าพูดกันตรงๆ คุณเอกยุทธถือเป็นตัวอย่างของคนที่สู้กับอำนาจรัฐ จะเป็นฝั่งอะไรก็ช่าง แต่เมื่อมีการตาย เจ้าหน้าที่รัฐและการเมืองต้องระวัง ระวังต่อการเข้าไปก้าวก่าย ระวังต่อการที่ทำให้เห็นได้ว่ามันมีการดำเนินการไม่สุด” พญ.พรทิพย์กล่าว
       
       อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ที่เพิ่งถูก ครม.สั่งย้ายให้มาเป็นผู้ตรวจราชการฯ กล่าวต่อว่า โดยหลักการในต่างประเทศซึ่งเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่จะไม่มีการผูกขาดอำนาจอย่างในประเทศไทยเช่นปัจจุบัน โดยผู้ตรวจเก็บพยานหลักฐาน ผู้ตรวจพิสูจน์ และผู้ทำสำนวนต้องไม่เป็นหน่วยงานเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันผู้ดำเนินการเกี่ยวกับคดีดังกล่าวเกี่ยวพันกับตำรวจ และผู้ถืออำนาจรัฐทั้งหมด ซึ่งทำให้ประชาชนครหาได้ว่าปัจจุบันรัฐไทยเป็น “รัฐตำรวจ”
       
       “ทำอย่างไรถึงจะตอบได้ว่าที่เขาตรวจพิสูจน์มันมีความโปร่งใสจริง เก็บมาเต็มที่ แต่ถ้าถามว่าหมอเห็นจากภาพที่เอาศพขึ้น ก็ตอบได้เลยค่ะว่ามันทำอะไรได้มากกว่านั้นเยอะค่ะ” พญ.พรทิพย์ระบุ และเสริมว่า เท่าที่ตนเห็นจากสื่อทำให้เกิดความเป็นห่วง เพราะคดีนี้ถือเป็นฆาตกรรมอำพราง ซึ่งตำรวจไม่ควรสืบทางโทรทัศน์ ซึ่งตำรวจจับผู้ต้องหามาแถลงทีนึง เมื่อมีผู้ต้องสงสัยก็กลับไปหาหลักฐานมาเพิ่มอีกที ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ
       
       ประเด็นต่อมาคือ ข้อมูลและหลักฐานอื่นๆ เช่น ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องหาทางเจ้าหน้าที่กลับไม่ทำให้ปรากฏออกมา ทั้งนี้แม้ทางญาติของผู้เสียชีวิตอยากให้ตนเข้าไปตรวจสอบคดีนี้เพิ่มเติมเหมือนในอดีต ตนก็คงทำไม่ได้เนื่องจากบทบาทของตนเองในปัจจุบันคือผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม แม้จะมีสถานะของความเป็นผู้เชี่ยวชาญทางนิติวิทยาศาสตร์อยู่ก็ตาม
       
       “หมอไม่สามารถทำงานได้ ถ้าไม่มีเครื่องมือหรือมีทีม แต่ถ้า (ผู้บังคับบัญชา) สั่งการมาให้ครบมันก็ทำอะไรได้อยู่แล้วค่ะ ... พอลำบากทีก็จะคิดถึงเราทุกที” พญ.พรทิพย์กล่าว โดยเมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่าเมื่อถูกย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรมมีภารกิจอะไรบ้าง พญ.พรทิพย์ตอบว่า “ตรวจกระดาษมั้งคะ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น