วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Unlimited hack team แจงผ่านFBปัดแฮกเว็บสำนักนายกฯ 'เฉลิม'ไม่ให้ค่าคนโจมตีทางเว็บไซต์ ปรามาสแค่พวกจัดตั้ง ด้าน'หมอทศ'จะดูแลเว็บไซต์อย่างดี เมื่อ 8 พ.ค.56




'UnlimitedHackTeam'ปัดแฮกเว็บด่า'ปู'

Unlimited hack team แจงผ่านFBปัดแฮกเว็บสำนักนายกฯ 'เฉลิม'ไม่ให้ค่าคนโจมตีทางเว็บไซต์ ปรามาสแค่พวกจัดตั้ง ด้าน'หมอทศ'จะดูแลเว็บไซต์อย่างดี

               8 พ.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบชื่อผู้ที่แสดงความรับผิดชอบในการแฮกเว็บไซต์สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่ใช้ชื่อว่า “Unlimited hack team” นั้นพบว่า ชื่อดังกล่าวมีการจัดทำหน้าแฟนเพจใน Facebook www.facebook.com/UnlimitedHackTeam และเว็บไซต์ www.unlimitedhackteam.com/index.php ซึ่งจากการตรวจสอบในแฟนเพจพบว่า Unlimited hack team เป็นเพจเพื่อ “การศึกษา” ที่มีการเขียนคำจำกัดความของแฟนเพจว่า "เมื่อเว็บท่านมีช่องโหว่ ท่านไม่สามารถจะโกรธ hacker ที่เข้ามาได้"
               เมื่อตรวจสอบจากข้อความที่โพสต์ล่าสุดในหน้าเพจในเวลา 14.29 น. หลังจากมีการแฮกเว็บไซต์สำนักปลัดสำนักนายกฯแล้วมีการโพสต์ข้อความ "มีหลายคนถามเข้ามาทางข้อความ และมีหลายแฟนเพจแชร์ข่าวนี้พร้อมบรรยายว่า เป็นการกระทำของ Unlimited Hack Team ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีสมาชิกคนใดของ Unlimited Hack Team เป็นคนเข้าไปแฮกเว็บไซต์สำนักนายกฯ ผมจึงอยากออกมาประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า Unlimited Hack Team ไม่ได้เข้าไปก่อกวนเว็บไซต์สำนักนายกฯ และที่มีข้อความขึ้นว่า Unlimited hack Team อยู่ด้วย อาจเป็นเพราะมีแฮกเกอร์บางท่านหรือบางกลุ่มมีความคิดที่จะโยนความผิดมาให้ Unlimited Hack Team ซึ่งทุกๆครั้งหากเราได้แฮกเว็บไซต์ใด เราก็จะออกมายอมรับการกระทำของเรา แต่ครั้งนี้ขอให้ทุกท่านรอเวลาที่ตำรวจจับผู้กระทำความผิดตัวจริงมาลงโทษ แล้วท่านจะได้รู้ว่าใครเป็นคนทำ(@c)”
               ส่วนเว็บไซต์ www.unlimitedhackteam.com นั้นพบว่าไม่สามารถเข้าดูเว็บไซต์ได้แล้ว


"เฉลิม"อัด"มือแฮก"แค่พวกจัดตั้ง

               ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง  รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการแฮกเว็บไซต์โพสต์ด่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า ตนดูแลเรื่องเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน ตนเกิดมามีความสุขไม่เคยใส่ใจใครด่าชั่ว เลวทราม ตนไม่เคยเปิดดูมองเป็นเรื่องไร้สาระ จัดตั้งทั้งนั้น พวกเว็บทั้งหลายคิดด่าตนคิดผิด เพราะไม่เคยดู ตนไม่ให้แต้ม มันจัดตั้ง ถ้าคนแพ้ไม่รู้จักแพ้ก็เป็นอย่างนี้ต่อไป ส่วนมีการแฮกแล้วด่านายกรัฐมนตรี จะเข้าข่ายดำเนินคดีได้หรือไม่ตนไม่พูด ถ้าพูดจะหาว่าตนคุกคาม บ้าอำนาจ แต่ก็ขึ้นอยู่กับนายกฯในฐานะผู้เสียหาย พวกนี้มีความสุขหรือไปด่านายกฯ คะแนนก็ขึ้นเอาขึ้นเอา
                ผู้สื่อข่าวถามว่า  การออกมาด่าเพราะสืบเนื่องมาจากเรื่อง “ชัย ราชวัตร”  รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนละเรื่อง อย่าไปให้ความสำคัญ ใครทำผิดต้องรับผิดชอบ
                “สมัยผมเป็นนายตำรวจถูกหนังสือพิมพ์ด่ามากที่สุด และยังด่าผมเรื่อยๆ ด้วยมารยาทคำพูดแรงๆอย่างนี้ไม่อายตัวเองบ้างหรือ  มันไร้สาระ ผมเห็นใจนายกฯ เป็นผู้หญิงก็อ่อนไหว อย่างผมนี่ด่ามาเถอะโดนประจำ เพราะฉะนั้นอย่าไปให้เกียตริให้ค่าเว็บไซต์โจมตี” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
                ผู้สื่อข่าวถามถึงการเสนอ พรบ.ปรองดอง    ร.ต.อ.เฉลิม   กล่าวว่า    เรียบร้อย จบ ไม่มีสิทธิ์ค้าน เพราะไม่มีอะไรให้ค้าน เชื่อตนเถอะ ขณะนี้ชื่อเป็นร้อยที่สนับสนุน พวกที่ชอบเหน็บแหนมตนว่าไม่มีพวกในพรรคนั้นจะบอกว่าตนมีมากที่สุด ไม่เคยตั้งกลุ่ม ใครๆก็เอาตนไปปราศรัย แต่ถ้าตั้งกลุ่มเมื่อไหร่ก็มีแต่ตนกับเงา ไม่มีใครมาอยู่ด้วย


"หมอทศ" รับต่อไปนี้จะดูแลเว็บไซต์สำนักนายกฯให้ดี

               นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงกรณีมีผู้แฮกเว็บไซต์ของสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ทางศูนย์ข้อมูลของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ปิดเว็บไซต์และได้ให้ทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เข้ามาดำเนินการตรวจสอบทำการแก้ไข ซึ่งเป็นเรื่องทางเทคนิคที่กำลังดำเนินการต่อไป และจากนี้ตนได้กำชับให้ดูแลเว็บไซต์ที่เป็นหน่วยงานของรัฐบาลให้ดี เพราะเป็นเว็บไซต์ที่ตั้งใจจะให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ไม่ควรจะมาทำให้เกิดความเสียหาย
               นพ.ทศพร กล่าวต่อว่า ในช่วงกว่าหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาสภาพการสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย เป็นที่น่าตกใจเริ่มจากมีการด่า กระทบกระเทียบเปรียบเปรยผู้นำประเทศ ผู้นำประเทศด้วยการใช้คำหยาบ ตามด้วยพรรคการเมืองที่เก่าแก่อายุ 50-60 ปี ก็ออกมาส่งเสริมกัน และสส. หนุ่มคนหนึ่งก็อาศัยการกล่าวอ้างจากเสิร์จเอ็นจิ้น มาใช้กระทบกระเทียบเพิ่มอีก รวมทั้งมีกองหนุนออกมาเสริมกันไปมา ทั้งนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีลูกศิษย์เต็มบ้านเต็มเมือง ก็ไม่อยากเชื่อว่าจะมีการใช้วาจาที่ไม่สุภาพ อันนี้ฟังดูแล้วยิ่งน่ากลัว น่าเป็นห่วง
               นพ.ทศพร กล่าวต่ออีกว่า การแฮกเว็บไซต์เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายก็คงจะต้องดำเนินการซึ่งทางกระทรวงไอซีที และสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนการใช้คำหยาบเหยียดหยามก้าวร้าวรุนแรง เป็นสิ่งที่น่ากลัว ซึ่งจะม้วนสังคมไปสู่การใช้กำลังความรุนแรงมากกว่าเหตุผล
               “ขอเรียกร้องให้ทุกท่านไม่ว่าเป็นพรรคการเมืองใด กลุ่มใดก็ตามถึงแม้จะมีความคิดเห็นต่างกันอยากให้ใช้สติ หยุดการใช้ความรุนแรงความก้าวร้าว ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา ก็ตาม ประเทศเราบอบช้ำมามากตั้งแต่ปี 2549 ตอนนี้กำลังเริ่มฟื้นตัวก็อยากเรียกร้องทุกฝ่ายให้ช่วยกัน ถ้าไม่ช่วยก็อย่าถล่มซ้ำให้แย่กว่านี้เลย” นพ.ทศพร กล่าว
               ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าจะเป็นการเอาคืนจากผู้ไม่เห็นด้วยจากกรณีกระทรวงไอซีทีเตรียมดำเนินการทางกฎหมายแก่ผู้โพสต์ข้อความดูหมิ่นนายกฯผ่านเว็บไซต์หรือไม่ นพ.ทศพร กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นกระบวนการต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การออกมาแสดงความคิดเห็นได้มีการพัฒนาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนจนมาถึงการแฮ็กเว็บไซต์ และเชื่อว่ามาจากผู้ไม่เห็นด้วย ไม่หวังดีกับรัฐบาล


"อภิสิทธิ์" เชื่อ แฮกเว็บสำนักนายกฯ เป็นปฏิกริยาตอบโต้ ไอซีที หลังขู่ ปิดเว็บหมิ่น "ปู"
                
               นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการแฮกเว็บไซด์สำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมขึ้นรูปภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และข้อความภาษาอังกฤษประนามนายกรัฐมนตรีด้วยข้อความที่รุนแรงว่า คงเป็นปฏิกริยาตอบโต้กระทรวงไอซีทีที่ก่อนหน้านี้มีการขู่ว่าจะปิดเว็บไซด์ วิจารณ์นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องดูแลกฎหมาย ซึ่งตนก็มีความกังวลว่า หากรัฐบาลไปเพิ่มความอึดอัดในสังคมจะไม่เป็นผลดี เพราะเงื่อนไขการสร้างความอึดอัดมาจากผู้มีอำนาจและผู้สนับสนุนรัฐบาล เนื่องจากหากนำปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้งก็คงไม่มีปัญหาทางการเมือง แต่รัฐบาลไปเริ่มต้นสร้างความอึดอัดและความขัดแย้งในสังคมขึ้นมา โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นย้อนกลับสู่ภาวะที่ฝ่ายบริหารพยายามรวบอำนาจและจะเกิดปฏิกริยาทางสังคมตามมาจนเกิดความขัดแย้ง ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะอยากให้ประเทศเดินหน้าเพื่อรัฐบาลจะได้แก้ปัญหาให้กับประชาชน โดยเฉพาะกรณีกลุ่มพีมูฟที่ไปชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้รัฐบาลเร่งรัดเดินหน้าเรื่องโฉนดชุมชนและธนาคารที่ดิน ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลเพียงแค่สานต่อในสิ่งที่มีการดำเนินการไว้แล้วเท่านั้น แต่รัฐบาลกลับไม่ดำเนินการ
               ส่วนการประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้จะมีการยัดไส้เรื่องอื่นเข้ามาหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังจับตาดูอยู่ว่าจะมีการนำเรื่อง พรบ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน การแก้รัฐธรรมนูญ และออกกฎหมายนิรโทษกรรมเข้ามาพิจารณาด้วยหรือไม่ เนื่องจากเป็นเป้าหมายของรัฐบาลมาโดยตลอด อีกทั้งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะปิดสภาสมัยวิสามัญเมื่อไหร่ ส่วนกรณีที่มีมวลชนมากดดันศาลรัฐธรรมนูญในขณะนี้ ตนก็หวังว่า จะไม่มีผลต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา คำร้องว่า 312 สส.และสว.กระทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 โดยเชื่อว่าศาลจะพิจารณาอย่างเที่ยงตรง ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด ทั้งนี้หากกลุ่มคนเสื้อแดงเห็นว่าตุลาการฯทำผิดเข้าเงื่อนไขที่จะยื่นถอดถอน ก็สามารถทำได้ ดีกว่าใช้วิธีการข่มขู่ คุกคาม หรือใช้วิธีนอกกฎหมาย แต่ก็ต้องใช้สิทธิโดยสุจริต มีข้อเท็จจริงที่รองรับ เพราะการถอดถอนไม่ใช่ว่าแค่ไม่ชอบใจใครก็ทำได้แต่ต้องมีพฤติกรรมเข้าข่ายตามรัฐธรรมนูญด้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น