วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

“บิ๊กโอ๋”ด่ายับโจรRKK ไอ้เลว-ไร้มนุษยธรรม เมื่อ 4 พ.ค.56




“บิ๊กโอ๋”ด่ายับโจรRKK

ไอ้เลว-ไร้มนุษยธรรม


“สุกำพล” ลงใต้ สั่งหน่วยกำลัง รปภ.เข้ม ประณามโจรใต้เลว-ไร้มนุษยธรรมฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ 6 ศพที่ปัตตานี แถมทิ้งใบปลิวขู่ฆ่าทั้งเด็ก ผู้หญิงอีก ในขณะที่ ตร. รู้ตัว 4 โจรใต้อำมหิตยิงชาวบ้านดับ 6 ศพแล้ว จ่อออกหมายจับ ขณะที่ “บิ๊กตู่” สั่งเพิ่มกำลัง ชรบ.-อส. รปภ.หมู่บ้านไทยพุทธ ด้าน “มาร์ค” อัด “ภราดร” ห่วงถกแกนนำบีอาร์เอ็นมากกว่าชีวิตประชาชน จี้เร่งวางมาตรการคุ้มครองชาวบ้านให้รัดกุม ส่วนญาติเหยื่อ 6 ศพ วอนน้องสาวกลับบ้านเกิดที่บุรีรัมย์ดีกว่าเสี่ยงอยู่ปัตตานี ด้าน “ชนพุทธกลุ่มน้อย” ยะลา เดือดจัด แจกใบปลิวประณามโจรใต้ ขณะที่ชาวปัตตานี สงสัยใบปลิวว่อนปัตตานีไม่ใช่ของนักรบฟาตอนี ที่สังหาร 6 ศพ หลังพบพิรุธมีการเล่นคำในใบปลิวเพี้ยนไป ล่าสุดผู้การฯ ทหารพรานรอดหวิว คนร้ายวางบึ้มหนัก 20 กก. ตูมสนั่น
0 “สุกำพล” ด่าโจรใต้เลว
เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 08.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.ร.อ.ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ที่ปรึกษา รมว.กลาโหม พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม และคณะ เดินทางลงพื้นที่ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี เพื่อประชุมผู้บังคับหน่วยและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รวมทั้งรับทราบความคืบหน้าการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล โดยมี พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 4 ส่วนหน้า (ผอ.รมน.ภาค 4 สน.) เป็นผู้บรรยายสรุปสถานการณ์ นอกจากนี้ยังเดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 41 (ฉก.ทพ.41) ที่ ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา ทั้งนี้ พล.อ.อ.สุกำพล ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางว่า ตนลงพื้นที่เป็นประจำทุกเดือน เพื่อไปเยี่ยมและดูแลฝ่ายความมั่นคงตามปกติ ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบออกใบปลิวข่มขู่เจ้าหน้าที่ รวมถึงประชาชนไทยพุทธและไทยมุสลิมในพื้นที่นั้น ความเข้มข้นในการดูแล ทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็จะมีการปรับไปตามแผน ซึ่งทางหน่วยความมั่นคงไม่ได้มีคำสั่งพิเศษ เพราะทาง กอ.รมน.ภาค 4 สน. ทราบดีว่าเหตุแบบนี้คืออะไร และควรจะแก้ไขอย่างไร แต่การกระทำแบบนี้ทำให้เกิดความสูญเสียและไม่มีมนุษยธรรม ส่วนจะเป็นฝีมือของกลุ่มบีอาร์เอ็นหรือไม่นั้น ตนมองว่าการทำใบปลิวสามารถทำได้ง่ายอาจมีการหลอกลวงได้ ซึ่งต้องตรวจสอบกันต่อไป ส่วนเหตุการณ์ที่คนร้ายกราดยิงประชาชนในร้านขายของชำทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คนนั้น รู้กันเลยว่าไม่ดีไม่มีมนุษยธรรม และไม่อยากจะพูดถึงเพราะเรื่องผ่านมาแล้ว เดี๋ยวจะเป็นการให้เครดิต เขาเป็นคนเลวไม่ใช่คนดี เมื่อถามถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเตือนขอให้ทบทวนการหารือกับกลุ่มบีอาร์เอ็น เพราะเกรงว่าจะเป็นการยกระดับไปสู่สากล พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า “ขอบคุณครับ แต่เขาก็พูดไปเรื่อย ทั้งนี้การทบทวนการพูดคุยนั้นไม่ใช่ผมเพียงคนเดียว แต่เป็นเรื่องของรัฐบาลและหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะเอาอย่างไร”
0 ไม่สนองโจรใต้ 5 ข้อที่เรียกร้อง
เมื่อถามว่าทางหน่วยงานความมั่นคงจะเสนอความคิดเห็นกรณีที่กลุ่มบีอาร์เอ็นเรียกร้อง 5 ข้อเสนอ ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้เมื่อไหร่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องมีการประชุมร่วมกันจากหลายฝ่าย ในส่วนของกองทัพเองก็มีการประชุมเช่นกัน แต่ยังมีเวลาอีกนาน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่เป็นวิธีการในการเจรจาที่เขาเริ่มรุกก่อน แต่เราอย่าไปตกใจว่าจะให้ได้หรือไม่ เพราะเราไม่ใช่ฝ่ายตาม มีสิทธิ์และศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน เราเป็นรัฐบาลที่ปกป้องคนไทยของเรา เขาทำให้คนไทยภาคใต้ของเรามีปัญหา การพูดคุยต้องดูสถานะว่าเป็นอย่างไรด้วย เมื่อถามว่ามองหรือไม่ว่าการที่กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้ความรุนแรงมากขึ้นในขณะนี้เพื่อต้องการให้เรารับข้อเสนอ 5 ข้อ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ก็สามารถคาดคิดได้ทั้งนั้น แต่เราก็ทำหน้าที่ของเราไป อย่าไปมองไม่ดี งานทางใต้ตนพูดตรงๆ ว่าหากสื่อนำเสนอข่าวน้อยลง ปัญหาในพื้นที่จะจบเร็วมากขึ้น ถ้ายังนำเสนอข่าวทุกวัน ปัญหาก็จะจบช้า เพราะเราให้เครดิตผู้ก่อเหตุมากเกินไป
0 “สุกำพล” ถึงยะลา ชมทหารพรานกำลังสำคัญ
ต่อมา เวลา 10.30 น. วันเดียวกันนี้ ที่หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 41 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม และคณะเดินทางลงพื้นที่ จ.ยะลา ไปตรวจเยี่ยมและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 41 ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานที่สำคัญในห้วงที่ผ่านมา ขณะที่ พล.อ.สุกำพล กล่าวว่า ในการเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้ก็เพื่อมาเยี่ยม และจากการได้รับฟังบรรยายสรุป ก็นับว่าภายในเดือนเดียว เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้ทำผลงานไว้เยอะมาก เช่น การจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรง หรือการวิสามัญฯ คนร้ายได้หลายคน โดยเฉพาะทหารพรานหญิงที่มีความนิ่มนวล ก็ให้ไปเข้ากับชาวบ้านที่เป็นผู้หญิงและสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านได้ดีกว่าผู้ชาย ส่วนทหารพรานชายก็ทำหน้าที่ดำเนินการปราบปรามไป ส่วนกรณีที่คนร้ายยิงชาวบ้านเสียชีวิต 6 ศพ ที่ จ.ปัตตานี นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่สะเทือนขวัญมาก ซึ่งทุกคนก็จะต้องออกมาประณาม ขณะนี้อาจจะมีเหตุการณ์รุนแรงมากหน่อย ก็เพราะอยู่ในช่วงของการเจรจาพูดคุย แต่อยากจะบอกให้ทราบว่า ขณะนี้ เราเดินมาถูกทางแล้ว เพียงแต่มียังมีปัญหาที่จะต้องแก้ไข และก็ขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ดูแลตนเองให้มากขึ้นด้วย ข่าวสาร หากพี่น้องประชาชนช่วยเหลือทางเจ้าหน้าที่รัฐมากเท่าไหร่ เหตุการณ์ความรุนแรงก็จะจบลงเร็วขึ้นเท่านั้น
0 รู้แล้ว 4 โจรยิงชาวบ้านดับ 6 ศพ
สำหรับความคืบหน้ากรณีคนร้ายกราดยิงชาวบ้านเสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนั่งอยู่หน้าร้านขายของชำ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น วันนี้ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พร้อมหน่วยกำลังร่วม 3 ฝ่าย ยังคงสั่งการให้เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ พร้อมกับกดดันกลุ่มแนวร่วมที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่คาดว่าจะเป็นแหล่งกบดานของคนร้ายที่ก่อเหตุยิง 6 ศพ ทั้งเขต อ.เมือง และเขตรอยต่อ สำหรับปลอกกระสุนปืนเอชเคที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ พบว่าเคยก่อเหตุแล้ว 19 คดี และสามารถบ่งชี้ได้แล้วว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด ขณะนี้กำลังรอผลตรวจปลอกกระสุนปืนอีก 2 ชนิด คือ เอ็ม 16 และ อาก้า ขณะที่ชุดสืบสวนสอบสวนยังคงลงพื้นที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามสอบปากคำพยานในพื้นที่เพื่อหาข้อมูลของคนร้าย รูปพรรณของคนร้าย พร้อมกันนี้จะได้นำรูปภาพแฟ้มประวัติกลุ่มก่อความไม่สงบให้พยานดูว่าตรงกับหลักฐานหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังเร่งสืบสวนสอบสวน ส่วนการดูแลความปลอดภัยนั้น ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกโรงพักเพิ่มความเข้มงวดในการคุ้มครองประชาชนอย่างเต็มที่ และขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่ด้วยความไม่ประมาท และเฝ้าสังเกตสิ่งผิดปกติและบุคคลแปลกหน้า ที่เข้าออกในพื้นที่ด้วย ขณะที่กลุ่มคนร้ายที่ต้องสงสัยก่อเหตุนั้น ชุดสืบสวนสอบสวน ระบุว่า เป็นกลุ่มของนายมะซอเร ดือรามะ รวมไปถึง นายซาสารียา โต๊ะตาหยง นายนัชรุดดิน แวบือราเฮง และนายอิสมาแอล แรแร ซึ่งทั้ง 4 คนถือว่าเป็นแกนนำอาร์เคเค ชุดปฏิบัติการณ์ก่อเหตุในพื้นที่ ทั้งนี้เนื่องจากการเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ที่คนร้ายก่อเหตุนั้น พบว่า วิถีการยิงและการใช้อาวุธปืนตรงกับหลักฐานที่ปรากฏในแฟ้มประวัติ โดยเฉพาะอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ
0 “บิ๊กตู่” สั่งเพิ่ม ชรบ.-อส.
ด้าน พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวถึงกรณีคนร้ายกราดยิง 6 ศพ ที่ จ.ปัตตานี ว่า จากหลักฐานเชื่อได้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มนักรบฟาตอนี ที่ขึ้นตรงกับทางกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งจากการกระทำที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ น่าจะมีกลุ่มขบวนการอยู่เบื้องหลัง ส่วนเหตุดังกล่าวจะเป็นการแก้แค้น หรือใช้เป็นเครื่องมือต่อรองกับ 5 เงื่อนไขหรือไม่นั้น ตนคิดว่าเป็นข้ออ้างไม่สมเหตุสมผล เพราะการเอาชีวิติผู้บริสุทธิ์มาต่อรองกับความต้องการทางเมืองนั้นยอมรับไม่ได้ สำหรับเรื่องการรักษาความปลอดภัยของประชาชนนั้น พล.ท.สกล กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกให้ มีการจัดสภาพแวดล้อมบริเวณจุดเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นถนน หรือแสงสว่าง พื้นที่รกทึบ เพิ่มความเข้มแข็งของกองกำลังประจำถิ่น เช่น เพิ่มกำลังชุดคุ้มครองหมู่บ้าน เพิ่มปริมาณ อส. เข้ามาดูแลในพื้นที่
0 “มาร์ค” อัด “ภราดร” ห่วงคุยกับโจรมากไป
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคง ในการแก้ไขสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น หวังว่าจะกำหนดแนวทางเป็นเอกภาพ ควบคู่ไปกับการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ส่วนการที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช. ออกมาระบุว่า เหตุการณ์คนร้ายกราดยิงร้านขายของชำที่ จ.ปัตตานี จนมีประชาชนและเด็กเสียชีวิตนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ตนคิดว่าไม่อยากให้กังวลเรื่องการเจรจามากกว่าชีวิตของประชาชน แต่ต้องยอมรับบนพื้นฐานของความเป็นจริง ซึ่งต้องเร่งให้หน่วยงานความมั่นคงมีความเข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งนี้ การพูดคุยต้องหารือเป็นการภายใน เพื่อจะเห็นความชัดเจนมากขึ้น และหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา ต้องมีความเข้าใจในพื้นที่ก่อน ไม่เช่นนั้นจะยิ่งทำให้เกิดปัญหาบานปลาย
0 รดน้ำศพ 2 พ่อลูกเหยื่อโจรใต้
ทางด้านวัดนพวงศาราม อ.เมืองปัตตานี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯ ศอ.บต. ได้เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ นายสมาน เฮียงมา อายุ 38 ปี และ ด.ช.จักรินทร์ เฮียงมา อายุ 2 ปี สองพ่อลูกที่เสียชีวิตขณะอยู่หน้าร้านขายของชำเลขที่ 17/12 หมู่ 5 ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี โดยมีเพื่อนบ้านนั่งอยู่ด้วยอีก 5 คน จากนั้นคนร้าย 4 คนใช้อาวุธสงครามกราดยิงใส่จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 1 ราย เกิดเหตุเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้วางพวงหรีดหน้าศพทั้ง 2 พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือให้กับนางวัชริน นวลสาย มารดาของ ด.ช.จักรินทร์ พร้อมกันนี้ นายประมุข ลมุน ผวจ.ปัตตานี พร้อมกับหลายหน่วยงานที่ร่วมพิธีรดน้ำศพก็ได้มอบเงินช่วยเช่นเดียวกัน ขณะที่นางวัชรินยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้าไม่ค่อยพูดเนื่องจากยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องมีคนดูแลอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะมารดาและเพื่อน ในขณะที่ พ.ต.อ.ทวีได้กล่าวแสดงความเสียใจกับนางวัชริน และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือหลังจากที่ต้องสูญเสียสามีและลูกในเวลาเดียวกันด้วยเหตุการณ์ความไม่สงบ และหากนางวัชรินยังต้องการอยู่ใน จ.ปัตตานี ก็จะหางานทำให้ หรือหากจะกลับไปยังบ้าเกิดที่ จ.บุรีรัมย์ ก็จะดำเนินการซื้อร้านขายของชำเพื่อเป็นทุนในการประกอบอาชีพต่อไป ส่วนความคืบหน้าคดี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายยังคงเข้ากดดันปิดล้อมตรวจค้นไล่ล่าคนร้ายทั้ง 4 คนอย่างต่อเนื่อง และกดดันกลุ่มแนวร่วมพื้นที่
0 นอภ.เมืองปัตตานี สั่งเข้ม รปภ.
นายอภิรัฐ สะมะแอ นายอำเภอเมืองปัตตานี กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ว่า หลังเกิดเหตุฆ่า 6 ศพ ใน ต.รูสะมิแล อ.เมืองนั้น ทางเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง จะยังไม่มีการปรับแผนการรักษาความปลอดภัยแต่อย่างใด เพียงแต่จะเพิ่มความรัดกุมในการตรวจตรา รวมถึงมาตรการตั้งด่านตรวจค้นอย่างเข้มข้น ส่วนในเรื่องการสร้างขวัญและกำลังใจให้ประชาชนนั้น ทางฝ่ายปกครอง มีมาตรการในการสร้างความมั่นใจ ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ในขณะที่นายแวอูมาร์ แวดอเลาะ ประธานสมาคมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จ.ปัตตานี กล่าวว่า ในส่วนของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านต้องเพิ่มความเข้มงวดรักษาความปลอดภัย อีกทั้งตนอยากให้มีการตั้งสภาของผู้นำท้องถิ่น ซึ่งประกอบด้วย 1.กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 2.นายก อบต. 3.ผู้นำศาสนา และ 4.ผู้นำทางธรรมชาติ เพื่อให้เป็นข้อมูลของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง อันนำไปสู่การแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตามการพูดคุยสันติภาพที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ในขณะนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่คงต้องใช้เวลาสักระยะสันติสุขก็จะเกิดขึ้นส่วนประชาชนยังคงออกมาจับจ่ายซื้อของตามปกติ ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยจากกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองของจังหวัดอย่างเข้มงวดและเป็นพิเศษ ซึ่งเน้นหนักในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตามถนนสายหลักและสายรอง โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมเฝ้าระวังอย่างสุดความสามารถ ตามที่หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงแจ้งเตือนมาว่ากลุ่มก่อความไม่สงบอาจมีแผนที่จะก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง
0 ญาติเหยื่อ 6 ศพ ให้น้องสาวกลับบ้านเกิด
ด้านนายสนิท ถาดไธสง ตาวัย 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/1 หมู่ 1 บ้านแวง ต.บ้านแวง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ พี่ชายนางสัมฤทธิ์ นวลสาย อายุ 58 ปี แม่ของนางวัชรินทร์ นวลสาย ภรรยานายสมาน เอียงมา ที่ได้ย้ายถิ่นฐานไปทำมาหากินเปิดร้านขายของชำที่ จ.ปัตตานี มานานกว่า 30 ปี โดยนายสนิท กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงชาวบ้านที่นั่งอยู่ในร้านขายของชำ หมู่ 5 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้นายสมาน เอียงมา สามีนางสัมฤทธิ์ และ ด.ช.จักรินทร์ เอียงมา ลูกชายวัย 2 ขวบเสียชีวิต พร้อมกับเพื่อนบ้านรวม 6 ศพ ซึ่งเมื่อทราบข่าวรู้สึกเสียใจมาก ที่ทำให้หลานทั้งสองได้เสียชีวิตลง จากกรณีดังกล่าวเกรงว่านางสัมฤทธิ์น้องสาว และหลานจะได้รับอันตราย จึงอยากให้น้องสาวและหลานย้ายกลับมาทำมาหากินที่บ้านเกิดดีกว่า เพราะยังมีบ้านที่น้องสาวได้สร้างไว้ และที่นาอีก 9 ไร่ที่พ่อแม่แบ่งให้ พอที่จะทำกินได้อย่างสงบสุข ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายเหมือนอยู่ที่ จ.ปัตตานี ส่วนงานศพหลานเขยและลูกชาย ตนไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานได้ เนื่องจากมีฐานะยากจน ประกอบกับตนเองอายุมาก อีกทั้ง จ.ปัตตานีอยู่ห่างไกลจากบุรีรัมย์มาก จึงไม่สะดวกที่จะเดินทางไป นายสนิท กล่าวอีกว่า ยังมีความหวังว่าน้องสาวจะพาครอบครัวย้ายกลับมาทำมาหากินและใช้ชีวิตในบั้นปลายอยู่บ้านเกิดที่ จ.บุรีรัมย์กับตนอย่างสงบสุข วอนให้ทางภาครัฐได้ให้ความช่วยเหลือครอบครัวของหลานเขยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไม่สงบ และเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายภาคใต้ให้ยุติลงโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียกับครอบครัวผู้บริสุทธิ์อีก
0 ชนพุทธแจกใบปลิวประณามโจรใต้ยิงดับ 6 ศพ
ส่วนที่บริเวณตลาดสดรถไฟ เขตเทศบาลนครยะลา กลุ่มชาวบ้านไทยพุทธ ที่ใช้ชื่อว่า “ชนพุทธกลุ่มน้อย” ได้ทำใบปลิว โดยมีข้อความเป็นภาษาไทยว่า เราชาวไทยพุทธ ขอประณามการกระทำที่อำมหิต ต่อผู้บริสุทธิ์และเป้าหมายที่อ่อนแอ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเร่งสร้างสันติภาพให้เกิดกับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินแจกจ่ายพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและไทยมุสลิม ที่เดินทางมาจับจ่ายสินค้าที่ตลาด ซึ่งได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ตัวแทนชนพุทธกลุ่มน้อย กล่าวว่า สำหรับใบปลิวดังกล่าวต้องการที่จะให้พี่น้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมประณามการกระทำของกลุ่มคนร้ายในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่โหดร้ายมาก
0 ชุมชนไทยพุทธยะลาเข้ม รปภ.ตัวเอง 24 ชม.
มีรางานว่า ที่บริเวณทำการ ชป.เพชรคูหา ชุมชนคูหามุข เขตเทศบาลนครยะลา สมาชิกชุมชนในนามไทยอาสาป้องกันชาติ ได้เข้าเวรดูแลความปลอดภัย และความเรียบร้อยในเขตชุมชน และพื้นที่รับผิดชอบโดยรอบชุมชน อย่างเข้มข้นตั้งแต่คืนวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลพึ่งพาตนเอง หลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาเป็นเวลาหลายปี และได้มีการจัดตั้งกลุ่มชุมชนในการเฝ้าระวังป้องกันตนเอง เป็นชุมชนเข้มแข็ง เพื่อให้คนในชุมชนได้มีส่วนรับผิดชอบ และมีหน้าที่ดูแลชุมชนของตนเอง ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์กราดยิง ชาวไทยพุทธ บริเวณร้านขายของชำในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี เสียชีวิตไป 6 ศพ เมื่อค่ำวานนี้ จนทำให้มีชาวบ้านและเด็ก เสียชีวิตจำนวนหลายราย ชุมชนไทยพุทธในพื้นที่จังหวัดยะลา จึงเพิ่มความเข้มและประชุมหารือแนวทางการป้องกันดูแลชุมชน จะมีอาสาสมัครชุมชน ผลัดเปลี่ยนกันเข้าเวรยามดูแลความปลอดภัยในช่วงกลางคืน พร้อมทั้งออกตรวจตราบ้านเรือน ร้านค้าในชุมชน เส้นทางการเข้า-ออกชุมชน ที่คาดว่าจะกลุ่มผู้ไม่หวังดีจะใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี หรือแอบแฝงเข้ามาในชุมชน โดยจะมีการรายงานเหตุ และแจ้งผลการปฏิบัติผ่านไปยังศูนย์รับข้อมูลข่าวสาร ตลอด 24 ชั่วโมง ถือเป็นการดูแลและพึ่งพาตนเองในขั้นต้น ของภาคประชาชน
0 เหตุการณ์ที่ยะลา-นราฯ คืนที่ผ่านมาปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายกราดยิงร้านค้าใน อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คุมเข้มรักษาความปลอดภัย โดยตลอดคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจใน จ.ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส รายงานว่า ยังไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ แต่ทางเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย ของทั้ง 3 จังหวัด ยังคงสนธิกำลังตั้งด่านบนถนนสายหลักและถนนสายรอง ตรวจค้นยานพาหนะ และผู้ต้องสงสัยอย่างต่อเนื่อง
0 พบพิรุธใบปลิวอ้างนักรบฟาตอนี
ขณะที่ ชาวปัตตานีขณะนี้เกิดสงสัยในใบปลิวที่เขียนเป็นภาษาไทย มีทั้งที่เขียนด้วยมือโดยใช้ปากกาหมึกเคมีสีน้ำเงิน และพิมพ์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่มีเนื้อหาอย่างเดียวกันคือ “พี่น้องนักรบฟาตอนีทุกคน เราได้ล้างแค้นให้กับพวกท่านแล้ว เราตายไป 4 คน แต่เราเอาคืนมากกว่าเดิม ขอให้เหล่านักรบฟาตอนีทุกคนจงรับรู้ไว้ว่า แผ่นดินของเราจะต้องญิฮาด 6 คน ที่ปัตตานี จะเป็นบทเรียนให้ซีแยได้จดจำว่า เราจะฆ่าทุกคนไม่เว้นเด็กหรือผู้หญิง เราจะต่อสู้เพื่อขบวนการบีอาร์เอ็นที่ยิ่งใหญ่ของเรา พวกเราจะทำให้ซีแยต้องยอมรับข้อเสนอของเราในทุกทาง จงสู้ต่อไป” ลงชื่อ นักรบฟาตอนี ซึ่งใบปลิวดังกล่าวขณะนี้ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์สงสัยไม่ใช่ของบีอาร์เอ็น เนื่องจากพบข้อพิรุธหรือสงสัย 5 จุด เช่น ภาษาที่ใช้เขียนเป็นภาษาไทย การเขียนเล่นคำที่เพี้ยนไป
0 เด็ก ปชป.จี้ รบ.ยุติคุยบีอาร์เอ็นได้แล้ว
ต่อมา นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สถานการณ์ในภาคใต้ขณะนี้ มีความรุนแรงและความถี่ในการก่อเหตุ ถือเป็นการส่งสัญญาณในการยกระดับความรุนแรง เพื่อต่อต้านรัฐบาล จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนมาตรการในการแก้ไขปัญหาและการเดินหน้าพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งวันนี้ เท่ากับเป็นการกดดันคนไทยพุทธให้ออกจากพื้นที่ จึงไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลจะเดินหน้าพูดคุยต่อ เพราะข้อเสนอดังกล่าวไม่ใช่ข้อเสนอที่ประชาชนต้องการ และไม่ได้ตอบสนองประชาชน แสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่สามารถควบคุมผู้มีอิทธิพล หรือกลุ่มก่อการร้ายที่ก่อเหตุรุนแรงได้ จึงอยากให้รัฐบาลเร่งยุติการเจรจา และเร่งทบทวนเป็นการด่วน มิฉะนั้นอาจจะนำไปสู่การแบ่งแยกดินแดน
0 ผู้การทหารพรานหวิดดับ โจรใต้ดักระเบิด 20 กก.
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น. วันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.มายอ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นบนถนนสายปาหนัน-กะโด ต.ปาหนัน จึงรายงานให้ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ทราบ พร้อมนำกำลังและชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดไปที่เกิดเหตุ พบหลุมระเบิดอยู่กลางถนนกว้างเกือบ 3 เมตร ลึกกว่า 1 เมตร พบชิ้นส่วนถังก๊าซและชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังพบสายไฟยาว 150 เมตรลากลงไหล่ทาง แต่ระเบิดนั้นเจ้าหน้าที่พบระเบิดอีก 1 ลูกฝังไว้ห่างจุดเกิดเหตุ 100 เมตร ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจึงใช้ปืนแรงดันน้ำยิงทำลาย พบว่าเป็นระเบิดชนิดเหยียบ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวมรวบพยานหลักไปเพื่อตรวจสอบ สำหรับเหตุระเบิดครั้งนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อคนร้ายน่าจะวางแผนลอบวางระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 20 กก. ฝังไว้ใต้พื้นถนน หมายจะสังหาร พ.อ.บุญสิน ภาคกลาง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 พร้อมผู้ใต้บังคับบัญชา ที่จะเดินทางไปเป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันกีฬาขององค์การบริหารส่วนตำบลกะโด อ.มายอ ซึ่งอยู่ห่างจุดเกิดเหตุ 2 กม. แต่โชคดีที่ระเบิดเกิดทำงานลัดวงจรขึ้นก่อน ส่วนระเบิดอีก 1 ลูก คาดว่าคนร้ายต้องการทำร้ายเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังระเบิดลูกแรกทำงาน

วันที่ 4/05/2556 เวลา 8:45 น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น