|
|
รายงานการเมือง
จู่ๆก็มีคำสั่งสายฟ้าแลบจาก “ตึกไทยคู่ฟ้า” เด้ง “หมอทศ” นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง “โทรโข่งรัฐบาล” แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวกันมาก่อน
และหากดูจากอายุงานเพียงแค่ 6 เดือนเศษ หลังจากได้รับการแต่งตั้งเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ก็มองเป็นอื่นไม่ได้เลย นอกเสียจาก “หมอทศพร” ตกเก้าอี้ เพราะไม่ผ่านช่วงทดลองงาน ยังดีที่มีรางวัลปลอบใจด้วยการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการรองนายกรัฐมนตรีแทน
มีตบหัว ก็มีลูบหลัง ไม่อำมหิตกันเกินไป
แน่นนอนว่า “เบื้องหน้า” ของปฏิบัติการสายฟ้าแลบครั้งนี้ ผู้เกี่ยวข้องออกมาให้ข่าวว่า เพื่อการทำงานที่คล่องตัวขึ้น และนั่งยันนอนยันว่า ไม่ได้มีปัญหากันระหว่าง “ตึกไทยคู่ฟ้า - ตึกนารีสโมสร” อย่างที่เข้าใจกัน แม้แต่ส่วนตัว “หมอทศพร” ก็ยังให้สัมภาษณ์แบบติดตลกว่า ไม่น้อยใจ เพราะได้ไปเป็นตำแหน่งที่สูงกว่า เงินเดือนก็มากกว่าอีกต่างหาก
เป็นฉากที่ถูกจัดถูกเซตมาเป็นอย่างดี
ก่อนหน้านี้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และ “สุรนันทน์ เวชชาชีวะ” เลขาธิการนายกฯ ได้เรียก “นพ.ทศพร” เข้าไปเคลียร์ก่อนแล้วว่าจะให้ “ข่าว” ออกมาในรูปแบบใด เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนถึง “ตึกไทยคู่ฟ้า”
แต่ตรงกันข้าม “เบื้องหลัง” กลับปรากฏความขัดแย้งขึ้นมากมาย โดยมี “สุรนันทน์” เป็นศูนย์กลางของความขัดแย้ง ในฐานะที่ดูแลงานด้านการข่าว ดูแลงานด้านภาพลักษณ์ให้กับ “นายกฯยิ่งลักษณ์”
ในความเป็นจริง “หมอทศพร” ถูกหมายหัวตั้งแต่รับตำแหน่งใหม่ เมื่อครั้งที่ “เบี้ยว” ไม่ได้ร่วมทริปเดินทางไปต่างประเทศกับคณะนายกฯ โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า สร้างความขุ่นเคืองให้ “ยิ่งลักษณ์ - สุรนันทน์” เป็นอย่างมาก
เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังจากนั้นได้มีการมอบหมายให้ “ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ” รองโฆษกรัฐบาล รับผิดชอบการเดินทางร่วมคณะไปต่างประเทศแทน อาจจะมีบางครั้งที่ “นพ.ทศพร” ติดสอยห้อยตามไปด้วยเกือบทุกครั้ง แต่ก็จะเป็น “สุรนันทน์ - ภักดีหาญส์” ทำหน้าที่เป็นคนให้ข่าวเท่านั้น
ส่วน “โฆษกตัวจริง” ก็แค่ไปนั่งเครื่องบินเล่นเท่านั้น
ไม่เท่านั้นกับภารกิจในประเทศ “หมอทศพร” ก็ยังขาดตกบกพร่อง หลายครั้งเลือกงานในพื้นที่เลือกตั้งของตัวเองที่ จ.แพร่ มากกว่าจะมาร่วมงานและทำหน้าที่ในฐานะโฆษกรัฐบาล อย่างการประชุมคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติครั้งหนึ่งที่ “ยิ่งลักษณ์” นั่งเป็นหัวโต๊ะ และมีรายชื่อ “หมอทศพร” เป็นหนึ่งในผู้ร่วมประชุม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุม เป็นเหตุทำให้ “ยิ่งลักษณ์” ถึงกับปรี๊ดแตกถามหาให้ควั่ก จนต้องเรียกมาเคลียร์กันอีกรอบหนึ่ง
นอกจากนั้นการบริหารจัดการ “สำนักโฆษก” ก็แทบจะเละตุ้มเป๊ะในยุคของ “หมอทศพร” ที่ไม่ได้มีการแบ่งงานมอบหมายให้กับรองโฆษกฯทั้ง 3 คนอย่างเป็นกิจลักษณะ จนเรื่องรู้ไปถึงหู “สุรนันทน์” ทำให้ต้องเรียกประชุมปรับความเข้าใจกันมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้
ส่วน “นพ.ทศพร” ก็ถือโอกาสเรียกรองโฆษกฯทั้ง 3 คน “ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ - ร.ท.หญิงสุนิสา เลิศภัควัต -ชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา” ไปกินเลี้ยงมื้อค่ำที่โรงแรมหรูใจกลางเมือง เพื่อปรับความเข้าใจกันแล้ว แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เข้ารูปเข้ารอยอย่างที่คาดคิดกัน
ยังเห็นภาพ “แย่งบทขโมยซีน” ของบรรดาโฆษกฯในตึกนารีสโมสร หลายครั้งหวังสร้างผลงานให้ตัวเอง และมักจะแถลงประเด็นเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย แบบไม่ดูตาม้าตาเรือ
จนมาถึง “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่ในระยะหลังมีภาพ “สุรนันทน์” ในฐานะเลขาฯนายกฯ ออกมาจ้อออกสื่อถี่แบบผิดสังเกต เพราะต้องคอยออกมาให้ข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ และออกหน้ามาตอบโต้ในประเด็นทางการเมืองแทน “นายกฯยิ่งลักษณ์” เกือบทุกเรื่อง
แต่กลับไม่เห็นบทบาทของ “โฆษกรัฐบาล” เลย
จนมีการพูดคุยกันในวงเล็กบน “ตึกไทยคู่ฟ้า” ถึงมาตรการกดดันให้ “หมอทศพร” ออกมาทำหน้าที่ แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนอง โดยเฉพาะเรื่องประเด็นการเมืองที่เหมือนไม่ใช่แนวถนัดของโฆษกรายนี้ จึงถูกมองว่า “หัวแข็ง” ไม่ยอมทำตามคำสั่ง
ที่สุดก็โดนคู่หู “ปู - ปุ้ม” ปฏิบัติการปลดฟ้าแลบสอยร่วงตึกนารีสโมสร
ส่วน “โฆษกป้ายแดง” ที่ชื่อ “ธีรัตถ์ รัตนเสวี” ก็เป็นคนใหม่แต่หน้าเก่า เพราะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีในวงการสื่อ ล่าสุดกับบทบาทบรรณาธิการสถานีวอยซ์ทีวี และผู้ดำเนินรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน”
จะว่าไปแล้ว “ธีรัตถ์” ถือว่าตรงสเปกคู่ควรกับตำแหน่ง “สายตรงตึกไทยฯ” ที่อยู่ในคาถาสั่งซ้ายหันขวาหันได้ตลอด เรื่องนี้คงการันตีโดย “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร เจ้าของวอยซ์ทีวีได้เป็นอย่างดี
โดยที่ “ยิ่งลักษณ์” เกิดอาการปิ๊งปั๊งถูกโฉลกหลังเป็นมือไม้สำคัญที่ช่วยให้รายการจ้อออกจอทุกอาทิตย์เป็นไปอย่างราบรื่น เพราะ “ธีรัตถ์” คอยเอาใจในช่วงที่ “ยิ่งลักษณ์” ต้องมาอัดรายการ แถมคอยประคับประคอง “นายกฯมือใหม่” ในช่วงแรกที่มักประสบปัญหาในการจัดรายการ
และก็เป็น “ธีรัตถ์” ที่ช่วยคิดรูปแบบรายการจัดออกมาประทับใจ “ยิ่งลักษณ์”
เมื่อเกิดปัญหาไม่ปลื้มกับฝีไม้ลายมือของ “หมอทศพร” โฟกัสก็ไปตกที่ “ธีรัตถ์” ทันที แบบไม่มีตัวเลือกอื่น แม้แต่คนใน “พรรคเพื่อไทย” ก็ไม่ได้รับการเหลียวแล
หลังจากนี้ต้องวัดกึ๋นกันว่า “ธีรัตถ์” ผู้ซึ่งเก่งกาจในสายตาของ “ยิ่งลักษณ์ - สุรนันทน์” เมื่อลง “สนามจริง” ในบทบาทใหม่แล้วจะทำได้ตามเป้าหมาย เหมือนที่คาดหวังกันไว้หรือไม่
แต่ที่รู้ๆเก้าอี้ “โฆษกรัฐบาล” เหมือนมีอาถรรพ์ อายุรัฐบาลยังไม่ถึง 2 ปี เปลี่ยนไปแล้ว 3 โฆษกกับอีก 1 รักษาการโฆษก งานนี้ “ธีรัตถ์” จะอยู่ได้นานแค่ไหน ต้องติดตามดูกันยาวๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น