|
|
เชียงราย/พะเยา – กลุ่มคนเสื้อแดงเชียงราย 50-60 คน ฝ่าแนวกั้นตำรวจพะเยานับร้อยได้ พร้อมบุกปักหลักลานหน้าเวที “ผ่าความจริง” ของ ปชป.เปิดเครื่องเสียง-ปราศรัยด่า “มาร์ค”สนุก จนเกิดปะทะกับแฟนพันธุ์แท้ ก่อนที่รอง ผบก.ภ.เมืองกว๊านฯจะโดดห้าม หวั่นรุนแรงขึ้น
รายงานข่าวแจ้งถึงบรรยากาศการจัดเวที “เดินหน้าผ่าความจริง” ของพรรคประชาธิปัตย์ ณ ลานการค้าหนองระบู ริมกว๊านพะเยา เขตเทศบาลเมืองพะเยา ค่ำวันนี้ (11 พ.ค.56) ว่า มีประชาชนทั่วไป และแฟนพันธุ์แท้ของพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรับฟังกว่า 1,000 คน โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ปชป.พร้อมคณะ ต้องใช้รถถึง 3 ขบวนหลอกล่อคนเสื้อแดง จนสามารถเข้าไปขึ้นเวทีปราศรัยได้
แต่ปรากฎว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจากจังหวัดเชียงราย นำโดยกลุ่มลูกคนเมืองรักชาติ กลุ่มชมรมคนรักทักษิณเชียงราย 49 กลุ่ม นปช.เชียงราย 52 ฯลฯ รวมประมาณ 50-60 คน นำโดย น.ส.จิรนันท์ จันทวงษ์ ,นางเกษนีย์ ชื่นชม ,นางมติ แซ่อั้ง หรือเจ๊หมวยเจ้าของร้านเนื้อวัวรสเยี่ยม ซึ่งเดินทางไล่ตามคณะของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย ได้ฝ่าแนวป้องกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.พะเยา ที่ระดมกำลังกันหลายร้อยนายมารรักษาความสงบเข้าไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
คนเสื้อแดง ยังสามารถนำรถติดเครื่องเสียงเข้าไปจอดอยู่บนถนนตรงกับลานการค้าหนองระบู ที่พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวทีอยู่พอดี จนเกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างคนเสื้อแดงกันแฟนพันธุ์แท้ของ ปชป.ทำให้ พ.ต.อ. ประทักษ์ เจริญศิลป์ รอง ผบก.ภ.พะเยา ต้องนำกำลังเข้าห้ามปรามไม่ให้เกิดความรุนแรง พร้อมกับระดมกำลังเจ้าหน้าที่กั้นกลางระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดง และผู้เข้ารับฟังการปราศรัยอย่างเร่งด่วน แต่คนเสื้อแดง ก็ยังใช้รถเครื่องเสียงเปิดเครื่องเสียงเพลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง และโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภสิทธิ์ สลับกับการใช้เครื่องเสียงปราศรัยตะโกนด่าว่า นายอภิสิทธิ์ ต่างๆ นานา โดยไม่สนใจจะฟังคำปราศรัย ที่นายอภิสิทธิ์ เริ่มต้นด้วยการเชิญชวนให้คนเสื้อแดงมาร่วมฟังกันก่อนด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าเหตุใด เมื่อจะมีการปราศรัยบนเวทีผ่าความจริง จึงมีกลุ่มคนโดยเฉพาะคนเสื้อแดงออกมาต่อต้านโดยไม่ยอมฟัง ซึ่งก็พอจะวิเคราะห์ได้ว่า สาเหตุเกิดจากมีคนที่กลัวว่าความจริงจะปรากฎ เช่น โครงการรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท, ค่าจ้างวันละ 300 บาท ฯลฯ ล้วนแล้วแต่เกิดปัญหา และไม่เคยทำได้สำเร็จ เป็นต้น ตอนนี้แม้จะอ้างว่า ได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และจัดตั้งรัฐบาลแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะอนุญาตให้คนไปทุจริตคอรัปชั่นได้
“ไม่ว่าจะได้ไปกี่สิบล้านเสียงก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปโกง”นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำบนเวทีปราศรัย ขณะที่คนเสื้อแดง ก็เปิดดนตรีและตะโกนด่าก่อกวนอย่างหนัก
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อครั้งพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่เคยไปขัดขวางการแสดงความเห็นหรือปราศรัยของอีกฝ่ายหนึ่งเลย แต่ปรากฎว่า ในยุครัฐบาลซึ่งมีอำนาจรัฐอยู่ในมือเต็มที่ กลับส่งเสริมให้มีการขัดขวางการปราศรัยของพรรคการเมืองอื่น มีกลุ่มคนไปชุมนุมที่ศาลรัฐธรรมนูญ จึงอยากจะชี้แจงให้เข้าใจกันด้วยว่า ฝ่ายไหนกันแน่ที่ต้องการประชาธิไตยที่แท้จริง
หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน กล่าวต่อว่า เมื่อมีเหตุการณ์ปี 2552-2553 รัฐบาลนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำหน้าที่อย่างดีในการรักษาความสงบเรียบร้อย ปี 2552 แทบไม่มีคนเสียชีวิต ยกเว้นที่นางเลิ้ง ซึ่งเกิดจากกลุ่มคนที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ที่ไปดูแลเหตุการณ์ แต่เป็นฝ่ายติดอาวุธ ปี 2553 ก็ทำตามกฎหมายทุกอย่าง
ทุกวันนี้ก็มีคนเสื้อแดงพยายามจะหาความจริงอยู่ว่า ใครคือฆาตรกรตัวจริง ซึ่งเมื่อมองจากพฤติกรรมและการผลักดันของแต่ละฝ่ายจะเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการให้มีการนิรโทษกรรม และหากคนเสื้อแดงอยากพบฆาตรกรตัวจริงก็ไปที่ต่างประเทศก็จะได้เจอเอง
"มีคนรอกฎหมายที่จะให้มีการนิรโทษกรรมความผิดอันเกิดจากเหตุการณ์ต่างๆ ดังกล่าว แต่พรรคประชาธิปัตย์คัดค้านเรื่องนี้มาโดยตลอด เราไม่เห็นด้วยที่จะใช้มาตรการนิรโทษกรรม เพื่อให้คนร้ายถูกยกโทษ เพราะฆาตรกรจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย คนเรียกร้องกลับเป็นทักษิณ และแกนนำเสื้อแดงไปเสีย เพราะรู้ว่าหากมีการหาหลักฐานต่างๆ มาแล้วใครเป็นคนทำผิด" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งต่อว่าในช่วงกลางการปราศรัย นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวถึงนโยบายและโครงการต่างๆ ของรัฐบาล โดยระบุถึงการผลักดันงบประมาณบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทว่า ยังไม่ทำประโยชน์ใดๆ และไม่มีรายละเอียด แต่กลับพยายามจะนำเอกชนจากเกาหลีและจีนมาว่าจ้างด้วยวิธีการพิเศษให้ได้ทันกรอบเวลาเดือน มิถุนายน 56 นี้ ทำให้ประชาชนตรวจสอบไม่ได้ ทั้งยังจะกู้เงินอีก 2.2 ล้านล้านบาท ทำให้คนไทยเป็นหนี้ไปอีก 50 ปี รวมไปถึงคนเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่ติดเวทีปราศรัยครั้งนี้ด้วย ซึ่งงบประมาณนี้ยังไม่มีรายละเอียด แต่กลับจะว่าจ้างเอกชนให้นำไปใช้เฉพาะเพื่อการศึกษามากถึง 40,000-50,000 ล้านบาท
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าในช่วงท้ายการปราศรัย น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินไปหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยการปราศรัย ซึ่งอยู่ใกล้กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ใช้รถปราศรัยตะโกนตอบโต้ไปทางเวที ทำให้แกนนำคนเสื้อแดงบางคนที่จำได้ใช้เครื่องเสียงตะโกนด่าทอทันที และมวลชนเริ่มลุกฮือขึ้นมาอีกครั้ง แต่ น.ส.มัลลิกา ก็ยังยิ้มแย้มใช้กล้องถ่ายภาพคนเสื้อแดงเอาไว้ก่อนที่จะเดินกลับไปทางเวทีปราศรัยโดยไม่มีความรุนแรง
ทั้งนี้หลังจากนายอภิสิทธิ์ ปราศรัยจบลงคนเสื้อแดงก็สลายตัวโดยบอกจะไปรอนายอภิสิทธิ์ และคณะ ที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย อีกครั้ง ทำให้บรรยากาศการปราศรัยสงบลง โดยเหลือผู้ปราศรัยเพียง 2 คนคือนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี และนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี เท่านั้น ขณะที่ฝนกำลังตกหนักมาขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่จะมีการยุติเวทีปราศรัยในเวลาประมาณ 20.00 น.ที่ผ่านมา
คลิกเพื่อชมคลิป 1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น