วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

คาร์บอมบ์!'ตุรกี'ดับ43เจ็บ140 เมื่อ 12 พ.ค.56



คาร์บอมบ์!'ตุรกี'ดับ43เจ็บ140
 

คาร์บอมบ์!'ตุรกี'ดับ43เจ็บ140

'ตุรกี' ฟันธง 'ซีเรีย' อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดรถยนต์สองครั้งซ้อนที่เมืองชายแดน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 43 คน เจ็บ 140 คน



  12 พ.ค. 56  เหตุระเบิดรถยนต์สองครั้งซ้อน ที่เมืองเรย์ฮันลี่ ที่อยู่ชายแดนทางใต้ของตุรกี และติดกับซีเรีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 43 คน และบาดเจ็บ 140 คน เป็นหนึ่งในเหตุการณ์โจมตีที่นองเลือดที่สุดในรอบไม่กี่ปีของตุรกี ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีเบซีร์ อตาเลย์ ระบุว่า ผู้ก่อเหตุอยู่ในตุรกี แต่มีความเชื่อมโยงกับหน่วยข่าวกรองของซีเรีย ที่สนับสนุนรัฐบาล ที่รู้จักกันในชื่อ มูคาบารัต
       รองนายกฯ ของตุรกี ไม่ได้ระบุชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่ชี้ว่า มีเป้าหมายที่จะไม่ให้ตุรกีรับผู้ลี้ภัยจากซีเรีย ที่เมืองเรย์ฮันลี โดยเหตุระเบิด ซึ่งใช้เวลา 15 นาที ได้สร้างความเสียหายให้กับย่านธุรกิจที่คับคั่งและแออัดไปด้วยฝูงชน บนถนนในเมืองเรย์ฮันลี่ ก่อให้เกิดความวิตกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ว่า ตุรกีอาจจะถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามกลางเมืองในซีเรีย เนื่องจากปัจจุบัน ตุรกีได้ชื่อว่า เป็นที่อยู่ของบรรดานักการเมืองฝ่ายค้านและผู้บัญชาการกองกำลังฝ่ายกบฎ และยังให้ที่พักพิงแก่ผู้อพยพชาวซีเรียกว่า 3 แสนคน ทั้งยังเคยโจมตีตอบโต้ซีเรียตอนที่ยิงกระสุนปืนใหญ่ไปตกในตุรกีด้วย
        ด้านนายอาห์เหม็ด ดาวูโตกลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี บอกว่า ตุรกีมีสิทธิ์ที่จะใช้ทุกมาตรการเพื่อตอบโต้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น / นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ และนายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ต่างประณามอย่างแข็งกร้าวต่อเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น โดยนายแคร์รี่ ระบุในแถลงการณ์ว่า สหรัฐขอยืนเคียงข้างตุรกี ซึ่งเป็นชาติพันธมิตร ส่วนโฆษกสหประชาชาติ แถลงว่า นายบันได้ประนามการกระทำที่ถือเป็นการก่อการร้าย และไม่อาจยอมรับการโจมตีที่มีเป้าหมายไปที่พลเรือนได้
          มีรายงานด้วยว่า มีระเบิดครั้งที่สาม แต่ไม่รุนแรงเท่ากับสองครั้งแรก แต่ก็สร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชนในเมืองเรย์ฮันลี่ แต่สถานีโทรทัศน์ เอ็นทีวี ของตุรกี รายงานอ้างถ้อยแถลงของนายมูอัมเมอร์ กูเลอร์ รัฐมนตรีมหาดไทยว่า ไม่เกี่ยวกับระเบิดรถยนต์ แต่เกิดจากถังน้ำมันในรถยนต์ระเบิด
        เหตุระเบิดเกิดขึ้นในช่วงที่ทหารซีเรีย กำลังต่อสู้กับฝ่ายกบฎอย่างหนักเพื่อชิงเส้นทางขนส่งเสบียงที่เชื่อมระหว่างเมืองฮามากับเมืองอาเลปโป้คืน / สงครามกลางเมือง ที่เป็นการต่อสู้กันระหว่างกองกำลังของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซ้าด กับฝ่ายกบฎ ทำให้มีผู้เสียชีว้ตแล้วกว่า 7 หมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น