วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

คนกันเองต้าน “เหลิม” ทักษิณ กิน 3 เด้งชักไม่ง่าย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤษภาคม 2556 07:25 น.

คนกันเองต้าน “เหลิม” ทักษิณ กิน 3 เด้งชักไม่ง่าย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์20 พฤษภาคม 2556 07:25 น.


สะเก็ดไฟ
       
       ทำท่าจะไม่ง่ายเสียแล้วสำหรับแผนเอาใจทักษิณ ชินวัตร แบบสุดซอยสุดขั้วของเฉลิม อยู่บำรุง กับการเสนอร่างพระราชบัญญัติปรองดอง พ.ศ….6 มาตรา ที่เจ้าตัวก็ยอมรับว่าถ้ากฎหมายมีผลบังคับใช้จะทำให้ทักษิณ ชินวัตร ได้กลับประเทศไทย เพราะความผิดคดีอาญาทั้งหมดจะถูกลบล้างหายไป
       
       แต่เฉลิมก็แถยืนกรานว่าจะไม่มีผลทำให้ทักษิณได้รับเงินคืน 4.6 หมื่นล้านบาท โดยพยายามอ้างว่าคดียึดทรัพย์เป็นคดีแพ่ง ไม่เกี่ยวกัน ทั้งที่การยึดทรัพย์ดังกล่าวก็เกิดจากการสู้คดีกันในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ จึงมองไม่เห็นเลยว่าที่เฉลิมอ้างนั้นมันฟังขึ้น
       
       ดูได้จากหลังจากที่มีการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองออกมาสู่สาธารณชนนานหลายสัปดาห์แล้ว ยังไม่เห็นมีนักกฎหมายสำนักไหนออกมาบอกว่าทักษิณไม่สามารถได้เงินคืนหากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้
       
       เนื่องจากด้วยรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.ปรองดองที่มาตรา 4 ระบุชัดเจนว่า บรรดาการกล่าวหาการกระทำความผิดบุคคลใดๆที่เกิดจากคำสั่งของคณะ คปค. หรือจากคณะบุคคลซึ่งได้รับแต่งตั้งตามประกาศ คปค. ให้ถือว่าเป็นการกล่าวหาในความผิดทางการเมือง และให้ระงับไป โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เป็นผู้กระทำความผิด และให้นำความในมาตรา 3 วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลมที่ก็มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า
       
       “ในกรณีที่ผู้กระทำการตามวรรคหนึ่ง ถ้าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิด ถ้าผู้นั้นได้รับโทษอยู่ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุด”
       
       สรุปให้เข้าใจกันง่ายๆ หากร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ทักษิณ ชินวัตรจะได้ประโยชน์อย่างน้อยที่เห็นๆ ก็ 3 เด้ง
       
       1. หลุดหมดคดีความทั้งหลาย ทั้งคดีที่ตัดสินไปแล้วอย่างคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ ที่ศาลฎีกาฯ ตัดสินจำคุก 2 ปี-คดีที่ศาลออกหมายจับให้นำตัวมาขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ เพราะหลบหนีคดีหลังศาลฎีกาประทับรับฟ้อง เช่นคดีการปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์-คดีในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต กรณีทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานระบบโทรคมนาคมของประเทศเพื่อเอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัท ชินคอร์ปทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท-คดีก่อการร้าย เป็นต้น
       
       เมื่อล้างผิดหมดทุคดีทักษิณก็กลับไทยได้เลยโดยไม่ต้องห่วงอะไรอีกต่อไป
       
       2. ได้เงินคืน 4.6 หมื่นล้านบาท โดยการขอคืนก็ต้องไปดูรายละเอียดกันอีกทีว่าจะทำในลักษณะใดหากกฎหมายมีผลบังคับใช้
       
       3. ที่หลายคนยังไม่ได้พูดถึงคือเมื่อถูกล้างผิดจากคดียึดทรัพย์ เพราะในร่างกฎหมายปรองดองเขียนไว้ว่า”ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิด”
       
       ฉะนั้นจะทำให้ทักษิณเป็นผู้ไม่เคยต้องคำพิพากษาคดียึดทรัพย์มาก่อน เป็นเหตุให้ทักษิณกลับมาเล่นการเมืองได้ เพราะไม่เป็นบุคคลที่ไม่ขัดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.-นายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 102 (7) ที่ห้ามไม่ให้ผู้ที่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติลงสมัครรับเลือกตั้ง
       
       ที่พร่ำบอกมาตลอดหลายปีว่าพอแล้ว ไม่เอาแล้วการเมืองขอพักผ่อน อย่าไปเชื่อคำโกหก มีจังหวะได้โอกาสเมื่อไหร่ ทักษิณกลับมาลงการเมืองอีกแน่
       
       กินสามเด้งเนียนๆ แบบนี้ มีหรือทักษิณจะไม่อยากได้ พ.ร.บ.ปรองดองของเหลิม
       
       เชื่อว่านักกฎหมายหลายคนก็เห็นมุมนี้โดยเฉพาะนักวิชาการสายที่เชียร์เสื้อแดง-เพื่อไทย จึงไม่มีใครออกมาแสดงความเห็นอะไรมากนักเพื่อหนุนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะก็คงกลัวจะเปลืองตัว
       
       จึงเห็นได้ว่าที่ผ่านมามีแต่เฉลิมเท่านั้นที่ออกมาอุ้มร่างกฎหมายฉบับนี้อย่างโดดเดี่ยว ถึงแม้จะมี ส.ส.เพื่อไทย 149 คนร่วมลงชื่อหนุนร่างกฎหมายฉบับนี้แล้ว แต่ก็พบว่า ส.ส.หลายคนที่ร่วมลงชื่อก็ยังให้สัมภาษณ์ยอมรับกันเองว่าไม่ได้อ่านรายละเอียดหรือศึกษาร่างกฎหมายอะไรเลย เห็นว่าช่วยทักษิณได้ก็เซ็นๆ กันไป
       
       มิหนำซ้ำ ส.ส.เพื่อไทยบางคนที่ร่วมลงชื่อในร่างกฎหมายฉบับนี้ ที่มีเนื้อหานิรโทษกรรมคดีที่เกิดจากการชุมนุมทางการเมืองแบบ “เหมาเข่ง” ทั้งแกนนำ นปช.-ประชาชน-ฝ่ายตรงข้ามอย่างอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ-สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เดิม ส.ส.บางคนในจำนวน 149 ชื่อดังกล่าว ปากก็บอกว่าต้องเอาตัวมาลงโทษฐานสั่งฆ่าประชาชน แต่ถึงเวลาพอเห็นว่าร่างกฎหมายของเฉลิมครอบคลุมช่วยล้างผิดให้แกนนำ นปช.ด้วยก็ลงชื่อหนุนให้หน้าตาเฉย
       
       คนคนนั้นที่เปิดเผยตัวเองออกมาแล้วก็คือ วรชัย เหมะ แกนนำ นปช.และ ส.ส.สมุทรปราการ เพื่อไทยเจ้าของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมืองฯ ที่ไม่ครอบคลุมถึงแกนนำ นปช.ด้วย
       
       เห็นหรือยังล่ะ พฤติกรรม ส.ส.นปช.เพื่อไทย เสื้อแดงทั้งหลายตาสว่างกันหรือยัง
       
       ถึงเวลานี้ประเมินเบื้องต้นเห็นได้ชัดว่า เส้นทางของร่างกฎหมายปรองดองของเหลิม ดูท่าไม่ง่าย นับจากนี้ต่อไปจะมีแรงต้านผุดขึ้นอีกมากมาย
       
       แล้วแรงต้านที่สำคัญมันจะมาจากคนในด้วยกันเองคือเสื้อแดงและ ส.ส.เพื่อไทย นี่แหละที่จะทำให้การผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดองขยับไปได้ยาก
       
       ส.ส.เพื่อไทยสายแดง-นปช.ออกมาขวางกันแล้ว เนื่องจากหลายคนเกรงว่าสุดท้ายร่างกม.ของเหลิมจะพาเอารัฐบาลซวนเซไปด้วย หากยังจะดันทุรัง อาทิ สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี เพื่อไทย หัวโจก 42 ส.สเพื่อไทยที่เคลื่อนเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมืองฯ ที่พูดชัดๆ ไม่อ้อมค้อม บอกอารมณ์ร่วมของสังคมขณะนี้ยังไม่เอาด้วย เพราะยังติดใจว่าจะมีการคืนเงินให้ทักษิณ ชินวัตรหรือไม่ รวมถึงไม่รู้จะตอบญาติพี่น้องคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตจากการชุมนุมอย่างไร เพราะเล่นนิรโทษกรรมเหมาเข่งคลุมไปหมดทุกฝ่าย มันฝืนความรู้สึกเสื้อแดง
       
       เช่นเดียวกับ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ที่ย้ำว่าการเกี้ยเซี้ย กวาดขยะเข้าใต้พรม ไม่ทำให้เกิดความปรองดอง จะยิ่งทำให้ประชาชนค้างคาใจหากเพื่อไทยไปมีมติหนุน พ.ร.บ.ปรองดองของเหลิม พรรคจะเสียหาย
       
       แม้ฟากณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์-แกนนำแดงจะเล่นบทแทงกั๊กไว้ก่อน ดูทรงแล้วคงหวังประคองอารมณ์แนวร่วมเสื้อแดงกับ ส.ส.ในเพื่อไทยเอาไว้ไม่ให้หักกับเฉลิมจนทำให้ปัญหาบานปลายเลยทำทีไม่หนุนเต็มสูบแต่ก็ไม่ค้านเสียทีเดียว
       
       เมื่อเป็นเช่นนี้ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของเหลิมและ 149 ส.ส.เพื่อไทย ดูท่าหนทางไม่ราบรื่นเสียแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น