คอรัปชั่นที่รัฐบาลต้องจัดการ
รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายในการป้องกันและปราบปรามคอรัปชั่น นโยบายดังกล่าวมีการดำเนินการในทางปฏิบัติอย่างไร ประชาชนทั่วไปมีความสนใจในเรื่องนี้ ต่างได้ทำการศึกษาวิเคราะห์เรื่องการคอรัปชั่นในโลกนี้มานาน รู้สึกดีใจที่ได้ยินรัฐบาลประกาศเป็นนโยบาย รอดูอยู่ว่าจะเอาจริงแค่ไหน เพราะพูดมานานแล้ว ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ก็ให้สัมภาษณ์อยู่บ่อยๆ ว่ารัฐบาลนี้จะพังหรือไม่ ก็มีเพียงเรื่องเดียวคือ การคอรัปชั่น ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ก็ทราบดีว่ามีความเป็นจริงมากน้อยเพียงใด
สังคมไทยทราบดีว่านักการเมืองทุกรัฐบาลทำการคอรัปชั่น แต่ไม่มีหลักฐานพอที่จะเอาผิดได้ ทำให้นักการเมืองได้ใจกล้าทำการคอรัปชั่นโดยไม่กลัวการถูกลงโทษ เพราะมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ให้ความร่วมมือ ทำให้ไม่มีหลักฐานมากพอที่จะเอาผิดได้ เราจึงเห็นนักการเมืองขี้โกงมีชีวิตอยู่อย่างมีเกียรติในสังคม ส่วนมีความสุขหรือไม่ต้องไปถามเจ้าตัวดู บางคนก็กลับบ้านเก่าไปโดยไม่มีโอกาสใช้เงินหรือบางคนก็นอนรอเวลากลับบ้านเก่า โดยไม่ทราบว่ากรรมที่ได้ทำไว้นั้นมีจริง
นักการเมืองที่ทุจริตมักจะคิดว่ามีชาติเดียวในขณะเดียวกันก็พยายามทำบุญ โดยคิดว่าเป็นการล้างบาปที่ก่อไว้ ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด ทำอย่างไร จึงจะบอกนักการเมืองไทยให้เข้าใจและยอมรับว่าการสร้างความดีเป็นเรื่องที่ดีที่สุดต่อชีวิตเราเองและครอบครัว สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ สังคมไทยมีการยอมรับในตัวนักการเมืองขี้โกงมากขึ้น โดยเฉพาะสื่อซึ่งเป็นตัวสำคัญในการช่วยเผยแพร่กิจกรรมของนักการเมืองที่ทำทุจริตในทางบวก ซึ่งแตกต่างกับประเทศที่พัฒนาแล้ว สื่อจะเป็นแกนนำกับกลุ่มอื่นๆ ในการต่อต้านนักการเมืองที่ทุจริต
การที่มีคนยอมรับคนโกงทำให้ทัศนคติของสังคมเปลี่ยนไป จากการสำรวจโดยสถาบันการศึกษาครั้งล่าสุดพบว่า คนรุ่นใหม่ยอมรับในเรื่องการคอรัปชั่น ถ้าตนเองได้ประโยชน์ด้วย ซึ่งเป็นทัศนคติที่น่าเป็นห่วงมากสำหรับอนาคตประเทศไทย ยังไม่อยากตัดสินไปในทางลบว่ารัฐบาลนี้ไม่จริงจังกับการแก้ไขปัญหาคอรัปชั่นที่เกิดขึ้นในการบริหารราชการแผ่นดิน ภาพที่เกิดขึ้นเป็นการโฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนคิดว่า รัฐบาลได้ดำเนินการกับเรื่องนี้โดยถือเป็นนโยบายเร่งด่วน มีความจำเป็นที่ต้องกระตุ้นเรื่องนี้ให้รัฐบาลดำเนินการอย่างเป็นธรรมในทางปฏิบัติ
มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบ ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง และข้าราชการในช่วงรัฐบาลนี้ เอาเฉพาะเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชนเท่านั้น อย่าลืมว่าสังคมไทยเกลียดความจริง เอาเรื่องกรมอุทยานแห่งชาติฯ ก่อน นายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ สร้างความสั่นสะเทือนให้นักธุรกิจการเมืองอย่างเหลือเชื่อ เมื่อดำเนินการกับผู้บุกรุกที่ดินของรัฐอย่างจริงจัง ในช่วงปีสุดท้ายของการรับราชการ ประชาชนในสังคมให้การสนับสนุนและผมชื่นชมในการกระทำ แม้จะสงสัยว่าทำไมเพิ่งมาดำเนินการแต่ก็ต้องชื่นชมว่าก็ยังดีที่กล้าทำ แต่เมื่อเปลี่ยนตัวอธิบดีเอาคนที่รัฐบาลสั่งได้ ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างที่ปรากฏ ไม่ว่าการโยกย้ายชนิดยกทีมอย่างที่ไม่ปรากฏมาก่อน ซึ่งจะนำไปสู่การรอมชอมกับผู้บุกรุกที่ดินของชาติในอนาคต ขอให้ติดตามดูว่ารัฐบาลจะมีปฏิกิริยาอย่างไรในเรื่องนี้
วันที่ 19/05/2556 เวลา 23:57 น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น