ฟังชัดๆคำต่อคำ : แก้วสรร-วสิษฐ ตั้ง "ไทยสปริง"ต้านปู ชี้แค่หุ่นเชิด-ขั้นตอนสุดท้ายทำลายปชต.
"แก้วสรร-วสิษฐ"แถลงร่วมแถลงคัดค้าน "ปาฐกถายิ่งลักษณ์"ที่มองโกเลีย เผยมีผู้ร่วมลงชื่อแล้วถึงหมื่นคน จ่อส่งไปให้เครือข่ายประชาคมประชาธิปไตย ชี้เป็น "หุ่นเชิดของเผด็จการ" กำลังบิดเบือนความจริง พร้อมระบุ ตอนนี้คือขั้นตอนสุดท้ายของการทำลายล้างปชต.
วันนี้ ( 16 พ.ค.) กลุ่มไทยสปริง นำโดย นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.), และพล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ ร่วมแถลงถึงยอดประชาชนที่มาร่วมลงชื่อคัดค้านปาฐกถาของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ที่เมืองอูลันบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย โดยมีรายละเอียดดังนี้
อ.แก้วสรร : ผมอยากจะชี้แจงว่า ข้อ 1. เป็นการรายงานต่อคนไทยที่ไว้วางใจ มาร่วมลงนามในจม.เปิดผนึกนานไปถึงไหนอย่างไร ข้อ 2. อยากจะสื่อสารถึงพี่น้องคนไทยโดยรวม เรากำลังอยู่ภายใต้ระบอบการปกครองที่มีปัญหาเรื่องของความชอบธรรมเป็นอย่างยิ่ง ข้อ 3. ต้องการแนะนำให้เห็นช่องทางหนึ่งกับตัวอย่างความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ที่ใช้วิธีลงชื่อทางโซเชียลมิเดีย มันอาจจะเป็นช่องทางที่คนไทยแสดงความสามารถโดยสงบในระบอบประชาธิปไตยให้มากขึ้น ในลำดับแรกผมขอกราบเรียนเชิญท่านพล.ต.อ.วสิษฐ ได้กล่าวก่อน ท่านผู้นี้มีความรักชาติตั้งแต่ยังเด็ก เป็นเสรีไทยที่อายุน้อยที่สุด ตอนอายุ 14 ปีกำลังจะไปอินเดียแต่โดนจับได้เสียก่อนว่ายังเด็กอยู่ก็เลยไม่ได้ไป จนมาบัดนี้ท่านก็ยังรักชาติบ้านเมือง ท่านเป็นต้นกำเนิดของการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ท่านบอกว่าใครมีอาวุธอะไรก็ให้ช่วยกัน อาจารย์หมายความว่าอย่างไรก็ช่วยชี้แจงให้ฟังด้วยครับ
อ.วสิษฐ : ผมเองเรียนมหาวิทยาลัยก่อนจะมาเป็นตำรวจ แล้วมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ผมอยู่ในเหตุการณ์บ้านเมืองมาตั้งแต่ยังเด็ก ๆ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน สิ่งที่ผมยึดมั่นถือมั่นคือระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพราะเห็นว่าได้รับการอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่ยังเด็ก ๆ ในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ชัดเจนเลย ใครจะอ้างอย่างไรข้อเท็จจริงเห็นได้ชัดว่ามีผู้พยายามที่จะทำลายระบอบนี้ การลบหลู่จาบจ้วงพระมหากษัตริย์ กระทำอย่างกว้างขวางและกระทำอย่างต่อเนื่องด้วย เห็นได้ชัดว่าเป็นแผนที่ประสานกันกับแผนอื่นที่จะยึดครองประเทศไทยและก็เปลี่ยนระบอบนี้ เพราะฉะนั้นจึงอยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้ ผมเองไม่ได้เป็นตำรวจต่อไปอีกแล้ว ปัจจุบันนี้เป็นนักเขียนและเขียนคอลัมน์ประจำอยู่ในหนังสือพิมพ์มติชน เมื่อตอนที่คุณชัย ราชวัตร เขียนการ์ตูนและมีคนวิ่งออกมารับว่าเป็นตัวเอง ผมก็เห็นใจคุณชัย ราชวัตร เพราะว่าคุณชัยมีอาวุธอยู่อย่างเดียวที่ใช้ได้คือ เขียนการ์ตูน ส่วนผมเป็นคอลัมนิสต์สิ่งที่ผมใช้ได้คือ ข้อเขียนของผม เครื่องมือที่ใช้อย่างเดียวก็คือคอมพิวเตอร์ มาบัดนี้หลังจากที่ได้คุยกับอ.แก้วสรร เรามีอาวุธอีกอย่างก็คือ การแสดงความต้องการอารมณ์ของเราให้ปรากฏออกมาในทางสื่อที่ใช้ในขณะนี้ก็คือสื่อสังคม นี่เป็นที่มาของจม.เปิดผนึกที่ท่านอ.แก้วสรร กับผมมาช่วยกันคิดว่าเราควรจะทำ สาระสำคัญของจม.เปิดผนึกอยู่ในเอกสารสำคัญที่ท่านทั้งหลายคงได้รับไปแล้ว และมันเป็นข่าวต่อเนื่องกันมาหลายวันแล้ว หลังจากที่เรามีการเชิญชวนให้ลงชื่อกันในจม.เปิดผนึก เพื่อจะส่งไปให้เครือข่ายประชาคมประชาธิปไตย (Communities of Demo cracies ) ก็ปรากฏว่ามีผู้ที่สนใจลงชื่อกันมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เมื่อเช้าก่อนผมจะมาผมเห็นว่าขาดอยู่เพียง 200 กว่าชื่อก็จะครบถึงหมื่น รัฐบาลนี้กำลังทำไม่ถูกต้อง มันมีจำนวนมากแต่ที่จะมาเรียกร้องให้มาทำ ๆ กันที่สนามหลวงผมคิดว่าคงทำกันไม่ได้ทั้งหมด ถ้าหากใช้วิธีนี้การแสดงประชามติโดยช่องทางนี้จะทำได้และได้ผลมากกว่า นี่เป็นที่มาของจม.เปิดผนึกฉบับนี้
อ.แก้วสรร : คำว่า " อาหรับสปริง " ถ้าเราเข้าใจให้กว้างมันไม่ได้ถึงการลุกขึ้นมานองเลือด แต่มันเป็นเรื่องของความตื่นรู้ละทิ้งความโดดเดี่ยวขมขื่น เข้ามารวมกันเป็นพลังประชาชนเพื่อที่จะต่อสู้คนที่เข้ามาฉ้อโกงและข่มเหงเอาอำนาจของเขาไป ถ้าเข้าใจตรงนี้มันก็เป็นเรื่องที่ว่า 1. มีรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมที่ไปปกครองหรือทรยศ 2. การแสดงออกร่วมกันทำได้หลายปรากฏการณ์ ประชุมก็ได้ แถลงการณ์ก็ได้ ชุมนุมโดยสงบก็ได้ หรือเป็นจม.เปิดผนึก ถ้าเข้าใจอย่างนี้ high spring ก็ถือกำเนิดขึ้นมานานแล้ว
เห็นชัดนะครับว่าขณะนี้เราอยู่ภายใต้เผด็จการที่แต่งตัวเป็นประชาธิปไตย ประชาธิปไตยไม่ใช่มีแค่การเลือกตั้ง มันต้องมีความรู้หน้าที่ รู้ละเว้นในสิ่งที่ผิดที่รัฐธรรมนูญห้าม เคารพเสียงข้างน้อย รัฐมนตรีไปด่าประชาชนเป็นขยะไม่ได้ รัฐมนตรีไปชวนตำรวจมาช่วยเจ้านายไม่ได้ ตำรวจก็มีไว้ปราบปรามโจรผู้ร้ายทำหน้าที่ เพราะฉะนั้นผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกเชือดให้เป็นนายกรัฐมนตรีคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เข้ากราบบังคมทูลเป็นนายกรัฐมนตรี แต่กลับมีนายกฯที่ไม่ได้เข้ากราบบังคมทูลอยู่ข้างหลัง ทำเพื่อประโยชน์ของครอบครัวชินวัตร
บ้านเมืองตอนนี้ผมว่ามันมีความชัดเจนว่าเราอยู่ภายใต้ระบบเผด็จการเสียงข้างมาก กำลังพยายามที่จะย่ำยีรัฐธรมนูญ ถึงขั้นให้ลูกน้องไปขู่ฆ่าศาลรัฐธรรมนูญอย่างนี้มันอยู่กันไม่ได้ และมันก็มาถึงจุดที่ว่าเธอได้ไปปาฐกถาที่อูลานบาตอร์ประเทศมองโกเลีย จริง ๆ เราเห็นชัดเจนว่าเขากำลังจะปิดประตูตีแมว กำลังจะแก้กฎหมายยกเว้นความผิดทั้งมวล กำลังจะรื้อรัฐธรรมนูญ กำลังจะทำลายการตรวจสอบทั้งหมด และก็เริ่มมีกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วย มีกลุ่มคนที่คัดค้าน เพราะฉะนั้นการที่ไปพูดที่อูลานบาตอร์นั้นคือการโดดเดี่ยว คนไทยที่รักประชาธิปไตยก็ยังต่อสู้กับเขา เขาได้บอกกับประชาคมว่าเขาได้เป็นประชาธิปไตย เขายังบอกต่อไปอีกว่าผู้ที่ขัดขืนนั้นคือแรงปฏิกิริยาต่อประชาธิปไตย นั่นคือวัตถุประสงค์สำคัญที่เขาเอาไปพูดในอูลานบาตอร์ เป็นแผนการหนึ่งที่จะทำลายเรียกว่าเป็นการทำลายระบอบการปกครองโดยรัฐธรรมนูญที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพราะด้วยเหตุนี้การปาฐกถาที่อูลานบาตอร์หลังจากที่ทำตัวไม่รู้เรื่อง พยายามแสดงหน้าว่าทำตัวเป็นรัฐบาลมาตลอด ที่อูลานบาตอร์นั้นมันคือหน้ากากที่แท้จริงว่า เธอผู้นั้นก็คือหุ่นเชิดของเผด็จการชินวัตร เขากำลังบิดเบือนความจริง กำลังบิดเบือนประชาธิปไตย เขาไม่ใช่ตัวแทนของประชาธิปไตยของความจริง และที่สำคัญไม่ใช่ตัวแทนที่รับผิดชอบต่อประเทศชาติ เพราะรัฐบาลนี้ขาดความชอบธรรม ถ้าให้เปรียบขอโทษนะครับอย่าหาว่าผมลบหลู่ศาสนา เหมือนเจ้าอาวาสข้างบ้านผมไปได้เสียกับสีกามันอาบัติแล้ว ที่ใส่จีวรเหลือง ๆ ไม่ใช่พระแล้วนะ ฉันใดก็ฉันนั้นคุณมาจากการเลือกตั้งก็เป็นแค่จีวรใส่เหลือง ๆ ตัวคุณเป็นพระเป็นผู้แทนประชาชนหรือเปล่า คนที่ทำหน้าที่เพื่อประชาชน คุณเคารพรัฐธรรมนูญหรือเปล่า คำตอบก็คือไม่เพราะคุณได้ลงมือทำลายมันมาตลอด และตอนนี้คือขั้นตอนสุดท้ายของการทำลายล้างประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นจึงเป็นที่มาของดอกบัวดอกนี้ว่าจงตื่นขึ้นมาเถิด
ขวัญสรวง : ผมได้รับหน้าที่รายงานเพราะเรื่องต่าง ๆ ลงลึกไปหมดแล้วความเป็นมา อันนี้คือเหตุการณ์ 29 เม.ย. ปาฐกถาอูลานบาตอร์ มาถึงเมืองไทยเกิดผลตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.เท่าที่เราทราบกัน เกิดปฏิกิริยาต่าง ๆ เรื่องคราวนี้ก็เป็นเรื่องของความไม่พอใจมีจดหมายชี้แจงประชาคมประชาธิปไตย อ.แก้วสรร ในฐานะที่เป็นพลเมืองคนหนึ่ง โดยส่วนตัวเขาตั้งใจว่าอยากจะสื่อสารกับโลกข้างนอก ประชาคมเป็นประชาธิปไตย อันนี้พยายามให้ท่านสื่อมวลชนเห็นว่าสื่อในสังคมปัจจุบันมีทั้งสื่อที่อยู่ข้างนอก เห็นกระจายได้ง่าย แต่ที่เราเรียกว่าสื่อสังคม สื่อออนไลน์ เฟชบุ๊ก เพราะฉะนั้นเรื่องของอูลานบาตอร์มันแทรกซึมอยู่ข้างใน มันก็เลยเป็นเหตุ อันนี้มันคือความเป็นมา ตอนนี้ที่เราต้องการก็คือย้อนศรสื่อสารกับถลก สื่อสารกับประชาคม ในฐานะที่เป็นพลเมืองไทยตอนนี้ได้เกือบหมื่นคนแล้ว
ขบวนการไทยสปริงมีการจัดการเผยแพร่กฎหมายเชิญลงนามทุกช่องทาง ทั้งเฟชบุ๊ก อินเทอร์เน็ตทั้งหลาย ก็ส่งไป ก็มีอ.วสิษฐ กับอ.แก้วสรร เป็นคนยืนว่าฉันเป็นคนประสานงาน พอเจาะเข้าไปในเว็บนี้หลายท่านอาจจะผ่านตาจะมีคำชี้แจงอีกที ใครที่ไม่รู้เรื่องไปเปิดดูติดตามก็จะเข้าใจได้เอง
อ.แก้วสรร : อย่างตอนนี้ถ้าท่านเข้าไปก็จะมีเว็บเพจพวกรณรงค์การต่อต้านยุบรร.เล็ก รณรงค์การต่อต้านการสำรวจน้ำมันรอบเกาะสมุย ในการใช้สื่อทางโซเชียลมีเดียมันจะแก้ปัญหาได้หลายอย่าง ในเชิงความลับนอกจากไม่มีใครรู้ชื่อแล้ว อีเมล์ที่ลงไปผมไม่รู้นะ เพราะฉะนั้นเขาจะรักษาอีเมล์ไว้ใครเข้าไปลงชื่อจะไม่ถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคล มันเป็นความลับ เพราะฉะนั้นวิธีปรากฎตัวของประชาชนในเฉพาะเรื่องการอาศัยบริการ ผมคิดว่านานาประเทศเขาใช้กันเยอะแล้วนะ ถ้าเข้าไปดูละลานตามาก เพราะฉะนั้นการแสดงออกอย่างสันติมันจะเปิดอย่างกว้างขึ้น
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาทำมันคือการเอาอำนาจส่วนรวมไปใช้เพื่อส่วนตน ในทำนองเดียวกันปาฐกถาที่อูลานบาตอร์มันก็เปิดโปงว่าครอบครัวนี้กำลังใช้อำนาจส่วนรวมเพื่อส่วนตัว อันนี้เขาเรียกว่าทรยศต่อความไว้วางใจ ฉะนั้นครม.จึงกลายเป็นคอกวัวมันไม่มีประชาธิปไตยในนั้น ถ้าเน้นความสามารถ ความสวามิภักดิ์มันก็น้อยลง ไม่เห็นหัวของประชาชน
ประชาชนคือขยะ ยโส โอหัง สร้างตำรวจมาให้ช่วยกันทำความดีแต่ดันไปช่วยคุณทักษิณ เขาไม่ใช่ขี้ข้าของคุณที่จะไปสั่งเขาให้ทำนั่นทำนี่ ไม่รู้ถูกรู้ผิด เพราะฉะนั้นรัฐบาลนี้อาบัติแล้ว ฉะนั้นคนพวกนี้จึงถือการเลือกตั้งเป็นสัมปทานซึ่งมันไม่ใช่ และพวกเราก็รับไม่ได้ รับรองได้เลยว่าต่อไปรัฐบาลชุดนี้จะก่อเรื่องอีกมากมาย
ขวัญสรวง : ปัญหาของเราตอนนี้ก็คือรัฐบาลอาบัติ รับไม่ได้ มันมีความบกพร่องทุกรูปแบบ ทำงานส่วนรวม ตรงนี้มันจึงเป็นเหตุให้ภาคข้างล่างคือภาคพลเมืองกับคนที่อยู่บ้านต้องสื่อสารกัน การที่เขาโพสข้อความลงเฟชบุ๊ก ลงทวิตเตอร์ ฉันรักประชาธิปไตยมันเหมือนเป็นการพูดคุยกัน มันเป็นการแลกเปลี่ยนเป็นการยกระดับมีความสำเร็จร่วมกันอันนี้ไม่ใช่ของเล่น บ้านเมืองมันมืดมนมีผีอยู่กันต่าง ๆ นา ๆ หวังว่าถ้าเราช่วยกันทำถ้าเราเปลี่ยนตัวเราให้สว่างด้วยมันก็จะดีขึ้นด้วย
อ.วสิษฐ : ส่วนจม.เปิดผนึกที่เรากำลังทำอยู่ขณะนี้ จะทำให้คนไทยที่เฉย ๆ ทั้งหลายไม่ต้องเฉยอีกต่อไป ลงทุนลงแรงน้อยที่สุด เรามาแสดงออกมาลงชื่อกันเราก็จะเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่าคนไทยจำนวนมากยังรักประชาธิปไตย ยังรักประเทศนี้อยู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น