วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ศึกเช็คกระแส เขย่าบัลลังก์รัฐบาล นสพ.บ้านเมือง เมื่อ 12 พ.ค.56




ศึกเช็คกระแส

เขย่าบัลลังก์รัฐบาล

“สปีชมองโกเลีย” อาฟเตอร์ช็อก ต่อเนื่อง!!!
เป็นแรง “อาฟเตอร์ช็อก” หลัง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปาฐกถาพิเศษ บนเวทีการประชุมประชาคมประชาธิปไตย ที่ประเทศมองโกเลีย
“สปีชมองโกเลีย” ที่ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ พุ่งเป้าถล่มอย่างหนักหน่วง
“สปีชมองโกเลีย” ที่หนักหน่วง ในเนื้อหาสาระ ชำแหละไปที่ปมปัญหา “ประชาธิปไตยไทย” ที่เปรียบเสมือน “รถไฟตกราง” มายาวนาน นับตั้งแต่ “ปฏิวัติ-รัฐประหาร” 19 กันยายน 2549
ล็อกเป้าถล่ม “อำนาจที่มองไม่เห็น” ของกลุ่มบุคคล 2-3 กลุ่ม
นายกฯ ยิ่งลักษณ์ พลิกบทบาทจาก “ประนีประนอม” มาเป็น “แข็งกร้าว” บนสคริปต์ที่มีผู้เขียนบทกำกับไว้
อาฟเตอร์ช็อกแรกกับ “สปีชมองโกเลีย” ที่ “ประชาธิปัตย์” ออกแถลงการณ์ตอบโต้อย่างเร่งด่วน-ฉับไว-ทันควัน และร้อนแรงเช่นเดียวกัน
แถลงการณ์ตอบโต้ของ “ประชาธิปัตย์” ที่ผูกโยง “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้พี่นายกฯยิ่งลักษณ์ คือ “รากเหง้า” ทั้งหมดของปมปัญหาความขัดแย้ง-แตกแยกของประเทศไทย ที่ยาวนานกว่า 5-6 ปี
ผูกโยง “ทักษิณ” ที่มีปัญหาเรื่อง “ทุจริต-คอรัปชั่น” ถูกศาลพิพากษาจำคุก จนตัวเองต้องหลบหนีคดีไปเร่ร่อนต่างประเทศมาถึงทุกวันนี้
ผูกโยง “ทักษิณ” ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง “ชักใย” รัฐบาล นายกฯ ยิ่งลักษณ์ และกลุ่มคนเสื้อแดง ภายใต้เป้าหมายล้มล้างความผิดคดีตัวเอง และเรียกร้องคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านที่ถูกคำสั่งศาลยึดเป็นของแผ่นดิน
แถลงการณ์ “ประชาธิปัตย์” ชี้แจงปัญหาประเทศไทย ที่ร่อนส่งตอบโต้ไปทั่วโลก ในระนาบเดียวกับ “สปีชมองโกเลีย”
อาฟเตอร์ช็อกเช่นว่านี้ ลามถึงสื่อ การ์ตูนนิสต์ชื่อดัง “ชัย ราชวัตร” เขียนบทกลอนผ่านเฟซบุ๊คตอบโต้ เสียดแทง “สปีชมองโกเลีย” อย่างร้อนแรง จน นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ต้องส่งทนายเข้าฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท
ความร้อนแรงถึงขนาดสังคมออนไลน์เปิดเวที “ฝ่ายหนุน-ฝ่ายต้าน” เปิดศึกตอบโต้กันอย่างดุเดือด
สังคมออนไลน์ที่เปิดฉากตอบโต้กันอย่างดุเดือด เผ็ดร้อน รุนแรง หยาบคาย ปลุกสถานการณ์การเมืองร้อนผ่าวมาตลอดทั้งสัปดาห์
แรงสะเทือนที่ลุกลาม จน “กระทรวงไอซีที” ต้องออกมา “ปราม” การ “กล่าวหา-ว่าร้าย” ทางโลกออนไลน์ เป็นความผิดทางคอมพิวเตอร์ ที่มีโทษทั้งปรับและจำคุก
และถูกตอบโต้ทันควัน “มือดี” แอบ “แฮ็กเกอร์” ลูบคมเข้าไปยังเว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรี
“แฮ็กเกอร์” โพสต์ด่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์ อย่างเสียหาย และนำไปสู่การฟ้องร้องอีกคดี ที่เจ้าหน้าที่กำลังติดตาม ไล่ล่า “ผู้บงการ” ที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดี
เป็นสถานการณ์การเมืองที่ร้อนแรงต่อเนื่องหลังรัฐบาล “เปิดเกมรุก” ไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
การไม่ยอมรับ กับปรากฏการณ์ 312 ส.ส. และ ส.ว. ออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ กรณีมีมติรับคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 กับ มาตรา 237 ไว้วินิจฉัยตีความ
เป็นการแสดงปฏิกิริยาตอบโต้-เชิงรุก ไม่ยอมรับอำนาจ “ศาล” ในฐานะเสาหลัก “ฝ่ายตุลาการ” ที่ล้ำเส้นก้าวล่วงมายัง “รัฐสภา” ในฐานะเสาหลัก “ฝ่ายนิติบัญญัติ”
และอาจรวมถึงการล้ำเส้น “รัฐบาล” ในฐานะเสาหลัก “ฝ่ายบริหาร” ที่เทียบเคียงได้
“นิติบัญญัติ-บริหาร-ตุลาการ” เป็น 3 เสาหลัก “อำนาจอธิปไตย” ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่กำลังเกิดปัญหาการปีนเกลียว ล้ำเส้นอำนาจ
เป็นปัญหาที่ลุกลามในระนาบเดียวกับ “ม็อบเสื้อแดง” ที่ฮึกเหิมล่าชื่อขับไล่ และประกาศจับตัว 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
“ม็อบเสื้อแดง” ภายใต้รหัส “กลุ่มวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” (กวป.) ที่ถูก “ชักใย” บนภารกิจ “ดิสเครดิต-ทำลายความน่าเชื่อถือ” ศาลรัฐธรรมนูญ
ทว่าการรุกคืบของ “ม็อบเสื้อแดง” รอบนี้ ไม่มีแกนนำอย่างแจ่มชัด และขับเคลื่อนแบบไร้กระบวนยุทธ จึงถูก “ปิดจ๊อบ” ไปแบบเจ็บปวด-บอบช้ำ
“ไม่มีของติดมือ” กลับบ้าน พร้อมเสียงวิพากษ์วิจารณ์และถูกฟ้องดำเนินคดีตามหลังอย่าง “บอบช้ำ”
แอ็กชั่นสุดท้ายก่อนไป คือการประกาศหากระดมคนเสื้อแดงได้ไม่ถึง 1 แสนคนพร้อม “เลิกม็อบ” เพื่อ “ปูทางลง” อย่างมีชั้นเชิง
ม็อบเสื้อแดง ดิสเครดิต ทำลายความน่าเชื่อถือ 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่เข้าเป้าตามที่มุ่งหวัง
บอบช้ำ สะบักสะบอมไปตามๆ กัน
โดยเฉพาะอารมณ์ “คนกรุง” สุดเอือมระอากับ “ม็อบป่วนเมือง” ที่ลากยาวมากว่า 5-6 ปีแล้วยังไม่จบสิ้น
ยิ่งรับไม่ได้กับอาการ “เหิมเกริม-ก้าวร้าว” หยาบคายต่อศาล แม้ “รัฐบาล-เพื่อไทย” เองก็ไม่เห็นด้วย
เพื่อไทย แกนนำเสื้อแดง คอตกผิดหวังไปตามๆ กัน
และทั้งหมดนี้ ไม่ว่าแรงออฟเตอร์ช็อก ไม่ว่าการขับเคลื่อนการเมืองทุกฝ่าย กำลังก้าวสู่การ “ชี้วัด” กับกระแส “เลือกข้าง” รอบใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้
เป็นการ “ชี้วัด” กับกระแส “เลือกข้าง” ในศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ดอนเมือง พื้นที่สำคัญเขตเมืองหลวง วันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย.56
เลือกตั้งซ่อม ส.ส.ดอนเมือง หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายการุณ โหสกุล พรรคเพื่อไทย
ศาลฎีกายืน “ใบแดง” เก่ง-การุณ ตามที่ กกต.ส่งเรื่องให้วินิจฉัยชี้ขาด
ศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ดอนเมือง กทม. รอบนี้ จึงน่าติดตามไม่น้อย
น่าติดตาม เพราะไม่ได้แค่วัดคะแนนนิยมที่ “ประชาธิปัตย์” ส่ง “แทนคุณ จิตต์อิสระ” ลงชิงเก้าอี้ กับคู่แข่งอย่าง “เพื่อไทย” ที่ส่ง “สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” หรือ “จตุพร พรหมพันธุ์” ลงทำหน้าที่รักษาแชมป์ เจ้าของเก้าอี้
ทว่า!! เลือกซ่อม ส.ส.ดอนเมือง เป็นศึก…เช็คกระแสคะแนนนิยม-รอบใหม่ของ “รัฐบาล-ฝ่ายค้าน”
เป็นการ…เช็คกระแสคะแนนนิยม ที่ส่งสัญญาณไปถึงการเลือกตั้งใหญ่ ส.ส.ที่อาจมาเร็วกว่าที่คาด
แม้พื้นที่ “ดอนเมือง” จะเป็นฐานที่มั่นอันแข็งแกร่งของ “เพื่อไทย” ทว่าต้องอย่าลืม ศึกเลือกตั้ง ส.ก.ดอนเมือง ที่เพิ่งผ่านมา “ประชาธิปัตย์” ล้มแชมป์ ยึดเก้าอี้ “ส.ก.เพื่อไทย” มาครองได้สำเร็จ
ศึกเลือกตั้งซ่อมรอบนี้ “เพื่อไทย” หลังพิงฝา แพ้ไม่ได้ ชนะก็แค่เสมอตัว
“ประชาธิปัตย์” ยืนอยู่ในฐานะได้เปรียบ แพ้ก็แค่ “เสมอตัว” ทว่า “ชนะ” สะเทือนถึงบัลลังก์รัฐบาลต้องสั่นคลอน
โต๊ะข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น