‘เมียเก่ง-ตู่’ชิงดำแย่งส.ส. การุณส่งอันธพาลล้อม‘อี้’
เลือกตั้งซ่อมดอนเมืองส่อแววระอุ "เก่ง การุณ" ส่งลูกน้องล้อม "อี้ แทนคุณ" ชุลมุนแย่งโทรศัพท์กลางงานเอสเอ็มแอล ด้าน พท.เคาะชื่อ "เมียเก่ง-ตู่" ชิงดำลงสมัครแทน ซัดตุลาการ รธน. สร้างความขัดแย้ง ดักคอใช้บรรทัดฐานเดียวจัดการ ปชป.
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ได้รับเชิญจากอาจารย์ของโรงเรียนบริบูรณ์ศิลป์ศึกษา เขตดอนเมือง ให้ไปร่วมสังเกตการณ์การทำประชาคมงบเอสเอ็มแอล จำนวน 4 แสนบาทเศษ ของเขตดอนเมือง ซึ่งตนได้ขึ้นไปพูดบนเวที ประมาณ 15 นาที หลังจากพูดเสร็จจึงได้เดินทางออกจากโรงเรียน จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.30 น. ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ร่วมฟังการประชุมว่า นายประเวศร์ วัลลภบรรหาร อดีตผู้สมัคร ส.ก. ซึ่งเป็นทีมงานของนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.ดอนเมือง พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวพาดพิงตน และ น.ส.กนกนุช นากสุวรรณภา ส.ก.ดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์
"เขาบอกว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม สืบเนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ผมได้สั่งน้ำอบไทยจากโรงงานเพื่อมารดน้ำดำหัวชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งทางโรงงานได้บรรจุน้ำอบใส่กล่องของเหล้าขาวยี่ห้อหนึ่ง โดยบรรทุกอยู่หลังรถกระบะ และหลังรถได้มีการอัญเชิญพระพุทธรูปมาประดิษฐานไว้ แต่กลับถูกนำไปบิดเบือนว่าผมและทีมงาน ส.ก. เอาเหล้าไปแจกในชุมชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ และเมื่อกลับเข้ามายังโรงเรียนเพื่อสังเกตการณ์ นายการุณได้เห็นผมจึงได้ลุกไปแย่งไมโครโฟนจากนายประเวศ และชี้มาที่ผม โดยพูดว่า “คุณไม่มีสิทธิ์ ขอให้ออกไปจากห้อง และถ้าเข้ามายุ่งเกี่ยวการทำประชาคมในโครงการดังกล่าวก็จะถือว่าฟรี ประชาชนจะไม่ได้อะไร” นายแทนคุณกล่าว
นายแทนคุณกล่าวอีกว่า จากนั้นได้บอกกลับไปว่า ตนมีสิทธิ์เข้ามาสังเกตการณ์ เพราะงบฯ เป็นเงินภาษีประชาชน ระหว่างนั้นลูกน้องของนายการุณประมาณ 4-5 คน มาล้อมตนไว้ โดยนายการุณพยายามมาแย่งโทรศัพท์มือถือที่ตนได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ ตนจึงได้บอกกลับไปว่า จะแจ้งความกลับฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว ทั้งนี้ ขอตั้งข้อสังเกตว่า นายการุณถูกศาลแผนกคดีเลือกตั้งตัดสิทธิการเมือง 5 ปี และให้ใบแดง ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ทำไมถึงเข้ามายุ่งในโครงการนี้อีก และขอยืนยันว่าตนไม่ได้เข้าไปป่วนในงานแต่อย่างใด ส่วนเหตุการณ์นี้จะเกี่ยวข้องกับการเตรียมเลือกตั้งซ่อมในเขตดอนเมืองใหม่หรือไม่นั้น คิดว่ามีส่วน ซึ่งตนก็กังวลในเรื่องของความปลอดภัย เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์คนร้ายลอบยิงนายชุติเดช สุวรรณเกิด หรือ คม ลูกน้องของตนจนเสียชีวิต เหตุการณ์ผ่านมาปีกว่า แต่ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ทั้งๆ ที่คนร้ายยังลอยนวลอยู่ในพื้นที่
“ต้องรอผมตายก่อนใช่หรือไม่ วันนั้นถึงจะฟังเสียงผม เพราะผมได้ให้ข้อมูลคนร้ายที่ลอบยิงลูกน้องผมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว และก็ไม่ใช่ข้อมูลลอยๆ และขณะนี้เริ่มมีโทรศัพท์เข้ามาหาผม เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเสียงในสายระบุว่า ขอแสดงความยินดีกับว่าที่ ส.ส.คนใหม่ ขอให้ตายตามคมไปในเร็วๆ นี้ ซึ่งผมก็ได้ปรึกษาผู้ใหญ่บางคน ท่านก็บอกให้ผมลงบันทึกไว้ว่า หากมีอะไรเกิดขึ้น คนที่ทำผมมีคนเดียวเท่านั้น แต่ผมก็ยังไม่อยากทำ เพราะยังไม่มีหลักฐานชัดเจน” นายแทนคุณ กล่าว และว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค ซึ่งดูแลพื้นที่ กทม.ทราบแล้ว และบอกว่าให้ระวังตัว ทั้งนี้ หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติส่งตนสมัครแล้ว ก็คงจะนำความกังวลเรื่องความปลอดภัยหารือกับพรรค แล้วก็ต้องรอดูพรรคว่ามีมาตรการดูแลเรื่องความปลอดภัยอย่างไร
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กทม. ว่า แม้คำตัดสินมิชอบด้วยข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง พรรคจำต้องปฏิบัติตามคำตัดสิน และหวังว่าคำพิพากษานี้ จะเป็นบรรทัดฐานที่ใช้ในกรณีใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะกรณีที่พรรคเพื่อไทยยื่นคำร้องสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา ใส่ร้าย และจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หรือไม่ ในการกล่าวหาว่าเป็นพวกเผาบ้านเผาเมือง หรือหาเสียงเกินจริงในเรื่อง BTS ซึ่งมีความใกล้เคียงกับคดีของนายการุณ เพราะถ้ายึดถือตามแนวการตัดสินนี้ เราคงจะได้เลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ กันใหม่ในไม่ช้า ไม่ใช่รอให้ครบวาระแล้วค่อยมีคำตัดสินออกมา
นายอนุสรณ์กล่าวว่า จากกรณีนี้พรรคประชาธิปัตย์และฝ่ายต่อต้านรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะมาด่วนสรุปอีกไม่ได้ว่าพรรคเพื่อไทยไม่น้อมรับคำตัดสินของกระบวนการยุติธรรม ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยเคารพ น้อมรับทุกการตัดสินที่มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัย แม้แต่ศาลรัฐธรรมนูญ 6 ปี ที่ผ่านมา ท่านยุบ 2 พรรค ตัดสิทธิ์ 2 นายกรัฐมนตรี กับอีก 220 กรรมการบริหารพรรค ตัดสิทธิ์ ส.ส.จตุพร เคยเห็นพรรคเพื่อไทยโวยวายหรือไม่
“ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางท่านกำลังทำให้ประชาชนสับสนว่าท่านเป็นองค์กรตีความบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญเพื่อลดข้อขัดแย้ง หรือทำตัวเป็นรัฐธรรมนูญสร้างความขัดแย้งเสียเอง เพราะไม่มีอำนาจที่จะรับคำร้องกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภาไว้พิจารณา เหมือนกับสงสัยในจุดยืนของนายอภิสิทธิ์ ที่เป็นสมาชิกรัฐสภา ทำงานนิติบัญญัติ แต่พอมีความเห็นต่างกับฝ่ายตุลาการ นายอภิสิทธิ์กับพรรคประชาธิปัตย์กลับกระโดดไปเรียกแขกมาช่วยฝ่ายตุลาการ ถือเป็นการทรยศหรือหักหลังในความเป็นสมาชิกรัฐสภาหรือไม่” นายอนุสรณ์กล่าว
นายอนุสรณ์กล่าวว่า พรรคจะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 14 พฤษภาคม เพื่อพิจารณาส่งตัวผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อม เพราะจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 16 มิ.ย.นี้แล้ว โดยจะประสานคณะกรรมการโซน กทม.ฝั่งตะวันออก ที่มี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะประธานโซน เสนอตัวบุคคลเพื่อให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณา เบื้องต้นคณะกรรมการบริหารพรรคได้กำหนด 5 คุณลักษณะ ตัวแทนพรรคเพื่อไทย ลงชิงชัย 1.ส่งคนชนะลง 2.ชนะอย่างทรงคุณค่า ลงแล้วยากปฏิเสธ 3.มีความรู้ ความสามารถ 4.เข้าใจงานพื้นที่ ประสาน ส.ก., ส.ข.ได้ดี 5.ทำงานระดับชาติ ในสภาได้ทันที ส่วนนายแทนคุณ ที่บอกว่ากลัวนายจตุพรนั้น อย่าเพิ่งรีบกลัว เพราะพรรคยังมีให้กลัวอีกหลายคน โดยเฉพาะคนที่จะเปิดชื่อออกมาในวันที่ 14 พฤษภาคม คนนั้นจะน่ากลัวที่สุดในสนามการเลือกตั้งสำหรับนายแทนคุณและพรรคประชาธิปัตย์
ทางด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวถึงกระแสข่าวที่เป็นหนึ่งในตัวเลือกจะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขตดอนเมือง ว่าได้คุยกับทุกคน รวมทั้งนายการุณมาตั้งแต่ต้นว่า ไม่มีความประสงค์ที่จะไปลงสมัครรับเลือกตั้งดังกล่าว เพราะตัวเองมีหน้าที่ในจุดที่กำลังทำอยู่ ก็คือการเดินสายไปพบปะปราศรัยกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ การไปเป็นผู้แทนระบบเขต ก็จะเกิดความยากลำบากในการดูแลพื้นที่ ดังนั้น ยืนยัน 100% ว่าไม่ลงสมัครแน่นอน
ขณะที่แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า ขณะนี้แกนนำในพรรคเพื่อไทยมีการหารือกันถึงการหาตัวผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตดอนเมืองแทนนายการุณแล้ว โดยล่าสุด นายการุณต้องการส่งนางพิมพ์ชา โหสกุล ภรรยา ซึ่งเป็น ส.ก.ดอนเมือง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และ ส.ส.กทม.ด้วย
“ผู้ใหญ่ในพรรคเน้นว่า ถ้าส่งก็ต้องชนะ เพราะจุดนี้เป็นจุดใหญ่ ถือเป็นไฟต์สำคัญที่พรรคจะแพ้ไม่ได้ ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นภรรยา-เก่ง การุณ ทางกลุ่มเจ๊หน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โอเค โดยมี ส.ส.กทม.ของพรรคร่วมสนับสนุนด้วย แต่ในพรรคเขาไม่ได้โอเคกับทางเจ๊หน่อยด้วย เพราะผู้ใหญ่ในพรรคก็อยากให้มั่นใจว่าหากจับใครลงไปก็ต้องมั่นใจ ทั้งนี้ พรรคจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรควันที่ 14 พ.ค.นี้ หากมีความชัดเจนว่าเลือกภรรยาเก่ง การุณ ก็หมายความว่าทางเจ๊หน่อยสามารถล็อบบี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สำเร็จ นอกจากนี้ เก่ง การุณ ก็มีความสนิทสนมกับนายโอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร ด้วย ทำให้มองว่าอาจจะล็อบบี้สำเร็จ” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ในพรรคเพื่อไทยอีกกลุ่มต้องการสนับสนุนนายจตุพร พรหมพันธุ์ ลงสมัครแทน แม้ว่าก่อนหน้านี้นายจตุพรจะออกมาปฏิเสธ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาในทางการเมืองที่ต้องออกมาปฏิเสธไว้ก่อน แต่จากการทำโพลสำรวจความเห็นประชาชน คะแนนออกมาดีมาก แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ที่ต้องพิจารณาว่าจะเลือกใคร.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น