วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ระทึก"พรรคอัมโน"เตรียมเผชิญม็อบ"อันวาร์"นับแสนคน กูรูชี้"วุ่นแน่ หากพิสูจน์ได้โกงเลือกตั้งจริง" วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16:07:24 น.




ระทึก"พรรคอัมโน"เตรียมเผชิญม็อบ"อันวาร์"นับแสนคน กูรูชี้"วุ่นแน่ หากพิสูจน์ได้โกงเลือกตั้งจริง"

วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16:07:24 น.
  

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ว่า การเมืองมาเลเซียหลังการเลือกตั้ง กำลังเผชิญการท้าทายครั้งใหม่ เมื่อนายอันวาร์ อิบราฮิม หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านมาเลเซีย เตรียมจัดการชุมนุมประท้วงรัฐบาลพรรคอัมโนในข้อหาโกงการเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์นี้ ซึงประเมินว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 1 แสนคน ในกรุงกัวลาลัมเปอร์

ที่ผ่านมา ความพยายามของนายอันวาร์ที่ต้องการให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะต้องล้มเหลว หลังกกต.มาเลย์ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งทั่วไปดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม อิบราฮิม ซัฟเฟียน ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำโพลบอกว่า แรงผลักดันดังกล่าวอาจทำให้เกิดสถานการณ์ไร้เสถียรภาพขึ้นได้ ในสังคมมาเลเซียที่หลากหลายเชื้อชาติ หากนายอันวาร์สามารถมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า พรรคอัมโน โกงการเลือกตั้งจริง โดยพรรคอัมโนจะต้องเผชิญวิกฤตขาดความชอบธรรมทางกฎหมายที่จะเป็นรัฐบาล และจะยังทำให้นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค มีภาพลักษณ์มัวหมองด้วย

รายงานระบุว่า นอกเหนือจากการสูญเสียความนิยมลง โดยพรรครัฐบาลอัมโนต้องเสียที่นั่งหลายที่นั่งให้แก่ฝ่ายค้าน ทำให้เกิดกระแสคาดเดาว่า นายนาจิบ ราซัค อาจจะต้องเผชิญศึกถูกแย่งเก้าอี้ผู้นำพรรคอัมโนก่อนสิ้นปีนี้หรือไม่ จำนวนนี้รวมทั้งการวิจารณ์จากดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตผู้นำมาเลเซียผู้ทรงอิทธิพล ซึ่งระบุว่า พรรคอัมโนอาจต้องดำเนินการเปลี่ยนตัวผู้นำ เหมือนการเปลี่ยนตัวนายอับดุลลาห์ บาดาวี อดีตนายกฯมาเลเซีย และหัวหน้าพรรคอัมโน ซึ่งถูกเขี่ยออกจากพรรคอัมโนหลังชนะการเลือกตั้งอย่างไม่สวยงามในปี 2008 โดยนายมหาธีร์ได้เป็นหัวหอกผลักดันให้นายนาจิบ ราซัค ขึ้นเป็นผู้นำใหม่ของพรรคอัมโนแทน



ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า ภายหลังการเลือกตั้ง นายนาจิบ ได้สร้างชนวนขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติ โดยตำหนิกลุ่มผู้ใช้สิทธิเชื้อชาติจีนว่า ทำให้คะแนนของพรรคอัมโนตกลง และทำให้สังคมมาเลเซียแตกแยกมากว่าที่เคยเป็น และนายนาจิบต้องเผชิญกับความยากลำบากที่จะต้องเหยียวยาความขัดแย้งในสังคมมาเลเซีย หลังจากพรรคอัมโนได้หาเสียงในลักษณะ"เลือกปฎิบัติ"โดยใช้นโยบายเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่ม"ภูมิบุตร"หรือ"ชาวมาเลเซียมาก่อน" ในด้านต่าง ๆ เช่น ธุรกิจ การศึกษา และอื่น ๆ นโยบายดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แก่ชนกลุ่มน้อยมาเลเซีย และถูกนักวิจารณ์โจมตีว่า ทำให้เกิดภาวะสมองไหล และลดศักยภาพในการแข่งขันของมาเลเซียเอง

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ที่ผ่านมา นายนาจิบ ไม่ค่อยได้ดำเนินมาตรการปฎิรูปสังคมมาเลเซีย แต่หากเขายอมทิ้งนโยบาย"ภูมิบุตร"ก็คาดว่าจะสามารถได้คะแนนเสียงจากกลุ่มชนชั้นกลางมาเลเซีย ซึ่งมองว่านโยบายส่นใหญ่เอื้อประโยชน์แต่เฉพาะกลุ่มชาวมาเลย์ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์บางรายมองว่า นายนาจิบ อาจจำเป็นต้องแก้ระบบการเลือกตั้งที่สร้างปัญหาให้แก่รัฐบาล และทำให้เกิดการประท้วงใหญ่ ๆ หลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น