วันนี้10 พ.ค. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.3 บช.น.
พร้อมด้วย พ.ต.ท.คัมภีร์ พรหมสนธิ รอง ผกก.ฯ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน พ.ต.ท.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ พ.ต.ต.จักริน พิริยะจิตตะ สว.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมแถลงผลการจับกุม นายธนรัตน์ หรือเบนซ์ เอี่ยมปลัด อายุ 25 ปี ฉายาเบนซ์ วัดกัลย์ เป็นหัวหน้าแก๊ง และนายนัฐพงษ์หรือแก้ว แก้วขจร อายุ 25 ปี พร้อมของกลางอาวุธมีดคัตเตอร์ 1 เล่ม โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 4 เอส จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโซนี่ จำนวน 1 เครื่อง เงินสด 3,000 บาท และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ๊กซ์ สีขาว เลขทะเบียน อคน 189 กทม.
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 เม.ย.เวลาประมาณ 20.15 น.
ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดปล้นทรัพย์ นายชนะ ชนกโอวาท อายุ 56 ปี ผู้เสียหาย อยู่บ้านเลขที่ 468 ซอยเจริญนคร 14 แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน นอกจากนี้ยังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายรายหลายว่ามีกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ตระเวนก่อเหตุโดยใช้มีดคัตเตอร์เป็นอาวุธในการปล้นชิงทรัพย์ ก่อนจะขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ล่าสุดได้ลงมือก่อนเหตุที่ซอยกรุงธนบุรี5 แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน ท้องที่สน.สมเด็จเจ้าพระยา จากการสืบสวนทำให้ทราบเบาะแสของคนร้ายกลุ่มนี้ จึงได้ติดตามตัวนายเบนซ์มาสอบสวน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันปล้นทรัพย์ในเขตท้องที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา และบริเวณใกล้เคียงจริง
ในการลงมือแต่ละครั้ง จะกระทำกัน 3 คน โดยนายนัฐพงษ์ มีหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปตามถนนและซอยต่างๆ และนายธนรัตน์ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งลงมือปล้นทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีนายปฏิภาณหรือปอนด์ อายุ 17 ปี (อยู่ระหว่างหลบหนี) คอยดูต้นทางในการลงมือปล้นทรัพย์ โดยเลือกเวลาก่อเหตุช่วง 20.00 น.- 22.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนเดินทางกลับบ้าน หลังเลิกงาน โดยจะเลือกเหยื่อหรือผู้เสียหายเป็นเด็กวัยรุ่น คนแก่ ผู้หญิง ที่เดินริมถนนเพียงคนเดียว สบโอกาสก็จะใช้มีดคัตเตอร์ลงไปปล้นทรัพย์ทันที สำหรับคืนวันที่ 20 เม.ย.ได้ลงมือก่อเหตุ 3 ครั้งรวด ส่วนทรัพย์สินที่ได้จะนำบางส่วนไปขายที่ริมคลองหลอด ท้องสนามหลวง แล้วนำเงินมาแบ่งกันไปใช้จ่าย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์” ก่อนควบคุมตัวส่ง สน.สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายกลุ่มนี้ก่อเหตุให้ประสานติดต่อมาได้ที่ กก.3 บก.สส.บช.น.
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น