วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สงครามไซเบอร์ ล้มเครือข่ายอำมาตย์สงครามไซเบอร์ ล้มเครือข่ายอำมาตย์ เมื่อ 10 พ.ค.56

สงครามไซเบอร์ ล้มเครือข่ายอำมาตย์สงครามไซเบอร์ ล้มเครือข่ายอำมาตย์


คอลัมน์ : เจาะข่าวร้อนล้วงข่าวลึก

เริ่มต้นรายการในวันนี้กับความคืบหน้าการไล่ล่าตัวคนร้ายที่ทำการแฮกเวปไซต์สำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งในวันนี้ผู้ต้องสงสัยตามที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีกล่าวอ้างก็ได้เดินทางมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) นายณรงฤทธิ์ สุขสาร หรือ "เล็ก วินโดว์ 98 SE"อายุ 29 ปี ชาวนครศรีธรรมราช ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่า เป็นมือแฮกเว็บไซต์ สำนักงานงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงมือแฮกเว็บไซต์ให้ร้าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ด้วยข้อความไม่เหมาะสม ตามที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ โดยเชื่อว่า เป็นการกลั่นแกล้งจากกลุ่มอัลลิมิเต็ดแฮกทีมที่ตนเองเคยอยู่มาก่อน และต่อมามีความขัดแย้งกันจึงได้ตัดสินใจแยกตัวออกมาก่อนหน้านี้        
โดยนายณรงค์ฤทธิ์ กล่าวว่า การตัดสินใจเดินทางเข้าพบ ตร.ในวันนี้ เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง และพร้อมให้ความร่วมมือ ให้คำปรึกษา รวมถึงแนวทางวิธีการหลบเลี่ยงการเจาะเข้าระบบของบรรดาแฮกเกอร์ และมั่นใจว่า จะสามารถใช้ความสามารถและความถนัดในด้านคอมพิวเตอร์ของตนช่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้
ด้านพลตำรวจตรีพิสิฐษ์ กล่าวว่า จะให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการการแฮกข้อมูล ด้านระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้หลักฐานทางดิจิตอลในส่วนของนายณรงค์ฤทธิ์ นำตัวไปตรวจค้นบ้านพัก ย่านอาร์ซีเอ เพื่อหาข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ส่วนตัวอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่มีกลุ่มแฮกเกอร์เป้าหมาย ซึ่งมีศักยภาพในการเจาะเข้าเซิฟเวอร์ของเว็ปไซต์ต่างๆ ไม่เกิน 20 คน อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อ เพื่อติดตามหาตัวมาสอบสวน    
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า มีพรรคการเมือง พรรคใหญ่ อยู่เบื้องหลังกลุ่มแฮกเกอร์ที่ก่อเหตุนั้น พลตำรวจตรีพิสิฐษ์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ยังสอบสวนไม่ถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งต้องได้ตัวผู้กระทำผิดมาก่อน จึงจะขยายผลได้ว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง และพรรคการเมืองใหญ่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังตามกระแสข่าวหรือไม่
นางพุทธชาด มุกดาประกร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวว่า นายณรงค์ฤทธิ์ อ้างว่า กำลังทำงานอยู่กับกลุ่ม ปตท. และกำลังจะคุยกันเรื่องงาน นั้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ขอปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว และ ขอเรียนชี้แจงว่า ปตท. มิได้รู้จักหรือมีความเกี่ยวข้องใด ๆ และ/หรือดำเนินงานด้านใดด้านหนึ่งกับ นายณรงค์ฤทธิ์ แต่อย่างใดทั้งสิ้น
         
จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในการดำเนินงานของ ปตท. ว่า ปตท. เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงพลังงานและเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติ ซึ่งมีการดำเนินงานตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมทั้งมีการบริหารงานอยู่บนหลักธรรมาภิบาล มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ภายใต้นโยบายในการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าอยากให้ตำรวจอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะถ้าตนเองพูดไปอาจถูกมองเป็นเรื่องการเมือง เมื่อถามว่าแฮกเกอร์มีการเมืองอยู่เบื้องหลังใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยังไม่ทราบ
ส่วนที่ผู้ต้องหาระบุว่าถูกกลั่นแกล้งนั้น ก็ว่าไป แต่ตนเห็นว่าไม่มีผู้ต้องหาคนไหนที่บอกว่าไม่ถูกกลั่นแกล้ง
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงการออกมาต่อต้านรัฐบาลที่เกิดขึ้นหลากหลายรูปแบบในช่วงนี้ อาจจะมีขบวนการล้มล้างรัฐบาลหรือไม่ ว่า คิดว่าไม่มี เมื่อถามต่อว่าส่วนตัวได้ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีอย่างไรที่ช่วงนี้ถูกโจมตีต่างๆมากมาย พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ทำงานอยู่ด้วยกัน ก็ได้แสดงท่าทีให้นายกรัฐมนตรีเห็น เรื่องแบบนี้ไม่ต้องไปบอกทุกครั้งว่าให้กำลังใจ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ไม่แปลกใจที่รัฐบาลสามารถติดตามคนแฮกเว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรีได้อย่างรวดเร็ว โดยขอให้รัฐบาลทำทุกเรื่องได้เร็วอย่างนี้และดำเนินการทุกอย่างตามความจริง อย่าพยายามโยงพรรคประชาธิปัตย์เข้าเกี่ยวข้อง เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความจำเป็นต้องทำเรื่องดังกล่าว แต่ถ้ามีการกล่าวหาเป็นเท็จจะดำเนินคดีทางกฎหมาย
ไม่ว่าขั้นตอนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่จะเป็นอย่างไร แต่ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นฝ่ายรัฐบาลที่หยิบฉวยไปสร้างเป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อโจมตีฝ่ายตรงกันข้ามเป็นที่เรียบร้อย
โดยตั้งแต่ที่ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาเปิดเผยข้อมูลของผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนจากภาคใต้ ก็เป็นนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาอ้างถึงข้อมูลสอดรับถึงขั้นโยงใยว่ามีนักการเมืองที่เป็นกลุ่มนักเรียนนอกหนุนหลัง จนทำให้เข้าใจไปในทำนองว่ากำลังหมายถึงพรรคประชธิปัตย์หรือไม่
ข้ออ้างที่ระบุว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นแผนการของพรรคการเมือง ในลักษณะของสงครามไซเบอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนล้มรัฐบาลนั้น ก็ถูกนายณรงฤทธิ์ สุขสาร ตอบโต้เอาไว้อย่างเห็นภาพกับประโยคคำพูดสั่นๆที่ว่า ข่าวที่ออกมาว่าผมได้รับเงิน 30 ล้าน จาก ปชป.ไม่เป็นความจริง หากได้เงินป่านนี้ครอบครัวผมสบายแล้ว
และก็ดูจะเป็นไปตามที่ผู้ต้องสงสัยรายนี้ยืนยันเพราะ จากการตรวจสอบบ้านของผู้ต้องสงสัยที่บ้านเลขที่ 114 ม.3 ต.กำแพงเซา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ก็ไม่ได้พบว่ามีฐานะร่ำรวยอะไร
ขณะที่นางสาคร สุขสาร อายุ 62 ปี มารดาของนายณรงค์ฤทธิ์ก็ยืนยันว่าในแต่ละเดือนจะน้องเล็กส่งเงินมาให้แม่เดือนละ 4-5 พันบาท เพื่อมาเลี้ยงดูแม่และยายซึ่งป่วยมาก
กลับมาพิจารณาประเด็นที่ว่าด้วยเรื่องของสงครามไซเบอร์ ที่มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง ก็น่าจะเกิดขึ้นกับฝ่ายของรัฐบาบพรรคเพื่อไทยเสียด้วยซ้ำหรือไม่ จากหลักฐานการประกาศวิธีการต่อสู้ของนปช.ที่ระบุถึง 5 พื้นที่ยุทธศาสตร์การต่อสู้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ โลกไซเบอร์
ยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า 2 ขา 5 เขตการต่อสู้มีดังนี้
2 ขา  หมายถึงการเมืองภาคประชาชนของคนเสื้อแดง ซึ่งเปรียบเสมือนขาข้างหนึ่ง
ส่วนขาอีกข้าง ก็คือ การต่อสู้ทางการเมืองตามระบบรัฐสภาผ่านทางพรรคเพื่อไทย

และ 5 เขต ก็คือ การต่อสู้ใน กทม. ชนบท เมือง ต่างประเทศ และโลกไซเบอร์ เพื่อสร้างพื้นที่ทางการเมืองด้วยการสร้างเสื้อแดงให้เต็มเมือง
การกำหนดพื้นที่การต่อสู้ทั้ง5 ก็เพื่อบรรลุเป้าหมาย 3 ระยะดังนี้
1.ระยะสั้น ล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ สนับสนุนพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาล ซึ่งสำเร็จแล้ว

2.ระยะกลาง ซึ่งกลายมาเป็นเป้าหมายระยะสั้น เพราะเป้าหมายระยะสั้นประสบความสำเร็จแล้วคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยการนำเอารัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้แทนปี 2550
เพราะฉะนั้นเป้าหมายที่ 3 คือ ระยะยาวจึงขยับเข้ามาเป็นเป้าหมายระยะกลาง ซึ่งก็คือ การโค่นล้มอำมาตย์ อีกทั้งที่ผ่านมานางธิดาก็ย้ำอยู่เสมอ 3 ระยะเป้าหมายนี้คือภารกิจหลักของคนเสื้อแดง
"อยากให้พี่น้องมองเห็นว่าเมื่อผ่านชัยชนะมาจุดหนึ่งแล้ว เราต้องก้าวต่อไป เพราะเป้าหมายเราไม่ใช่เป็นรัฐบาล ไม่ใช่มาเสวยสุขไม่ใช่มาแบ่งผลประโยชน์ตามที่ถูกโจมตีกล่าวหา เป้าหมายเราคือเราต้องการให้ประเทศนี้มีประชาธิปไตย และมีความเป็นธรรมในสังคมไทยนี้ เพราะฉะนั้นตราบเท่าที่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงยังไม่เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ นปช.ก็ต้องเดินหน้าต่อไป แต่เป็นการเดินหน้าอย่างมีระบบอย่างเข้มแข็ง เพราะฉะนั้นที่สำคัญคือให้เข้าใจว่าเราไม่ได้มาเป็นรัฐบาลและแบ่งผลประโยชน์ เป้าหมายเราก็คือระบอบอำมาตย์คือข่ายที่ยังดำรงอยู่ในสังคมไทย และอาจจะล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ได้ถ้าคนเสื้อแดงและประชาชนไทยอ่อนแอ รัฐบาลนี้ก็อาจจะล้ม พรรคบางพรรคก็อาจจะถูกยุบไปก็ได้ เพราะฉะนั้นหลักประกันอย่างเดียวสำหรับอนาคตประเทศไทยก็คือ ประชาชนคนไทยและคนเสื้อแดงต้องเข้มแข็ง แข็งแรงให้มากที่สุด"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น