วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ไก่ตื่น!แม้วถอยเลิกแผนคุยโจร ข่าวหน้า 1 เมื่อ 5 May 2556


ไก่ตื่น!แม้วถอยเลิกแผนคุยโจร



 เพื่อไทยยอมรับ "ทักษิณ" จะบินจากฮ่องกงไปมาเลเซียเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็น แต่ตกค่ำเปลี่ยนแผนเพราะไก่ตื่น "ถาวร" อัดยับทำป่วน "ยิ่งลักษณ์" อย่าหลิ่วตาให้คนด่างพร้อยทั้งตัวไปสร้างปัญหาเพิ่ม ตอกหน้า "ภราดร" คุยเดินถูกทางแต่ตายเพิ่มเดือนละ 30 ศพ จวก "สุกำพล" ปิดกั้นสื่อเพื่อปกปิดข้อเท็จจริงไทยพุทธถูกบีบพ้นพื้นที่ภาคใต้ ทหารปลุกประชาชนให้ช่วยต้านโจร สั่งเพิ่มจุดตรวจจุดสกัดและ รปภ.คุมเป้าหมายอ่อนแอ ขณะที่คนร้ายตามไล่ยิงสายข่าวและคนขับรถบรรทุกข้าวสารอีก 2 ศพ
    เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม มีรายงานข่าวอ้างอิงที่มีจากแหล่งข่าวทางทหารระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ จะเดินทางจากฮ่องกงไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อที่จะพบปะหารือกับนายฮัสซัน ตอยิบ ประธานขบวนการบีอาร์เอ็น ฝ่ายอูลามา
    รายงานระบุว่า ที่มาของข้อมูลมาจากสมาชิกของกลุ่มบีอาร์เอ็น โดยจะมีการพบกันที่รัฐตรังกานู แต่เวลาและสถานที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งคาดว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะขอให้นายฮัสซันมีความยืดหยุ่นในข้อเรียกร้องทั้ง 5 ที่มีการเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ยูทูบไปเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา
    รายงานยังระบุด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณและนายฮัสซันเคยพบกันมาก่อนแล้วที่ดูไบในช่วงต้นปีนี้ ก่อนที่จะมีการเริ่มต้นกระบวนการพูดคุยสันติภาพที่เริ่มต้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ได้เดินไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อพบกับ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนที่สภาความมั่นคงแห่งชาติของไทยกับบีอาร์เอ็นจะหารือกันเป็นครั้งที่ 2 ในกรุงกัวลาลัมเปอร์
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทยยอมรับว่า เป็นเรื่องจริง พ.ต.ท.ทักษิณสามารถเดินทางไปไหนก็ได้ การไปมาเลเซียก็เพื่อพูดคุยกับผู้นำศาสนา และแกนนำบีอาร์เอ็นเพื่อหาทางช่วยแก้ปัญหาภาคใต้ เป็นลักษณะการพูดอย่างไม่เป็นทางการ ไม่มีการหยิบยก 5 ข้อเสนอของบีอาร์เอ็นมาพูดคุยต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น
    นายอนุสรณ์กล่าวถึงพรรคประชาธิปัตย์ให้ความเห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด และตำหนิแนวทางการดำเนินงานของรัฐบาลว่า ที่ผ่านมารัฐบาลเคยชวนฝ่ายค้านเข้าร่วมแก้ปัญหา แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์เลิกทิฐิ และหันมาให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ปัญหา
    เขายังกล่าวถึงการที่ผู้ก่อการร้ายยิงชาวบ้านเสียชีวิต 6 ศพที่ปัตตานี เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นว่า คงไม่เกี่ยวกัน เพราะผู้ที่ก่อเหตุเป็นพวกหัวรุนแรง มีเป้าหมายทั้งผู้ที่อ่อนแอ ผู้นำศาสนา และประชาชนทั่วไป ซึ่งต้องให้เวลากลุ่มบีอาร์เอ็นสื่อสารไปยังกลุ่มผู้ปฏิบัติที่แท้จริงได้ทั้งหมด ส่วนผู้ที่พูดได้ก็ต้องทำต่อ ควบคู่ไปกับงานพัฒนาให้เข้มข้น ขณะเดียวกันฝ่ายได้ใช้ยุทธศาสตร์รุกอยู่ตลอดเวลา
    "การดำเนินการทุกอย่างต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญไทย และยังมั่นใจได้ว่าหลังการพูดคุยสันติภาพจะสามารถสกัดกั้นการก่อเหตุรายวันได้ เพราะแม้เหตุการณ์จะมีหนักเบาแตกต่างกันในแต่ละวันแต่ยังอยู่ในพื้นที่ควบคุม ไม่ได้กระจายออกนอกพื้นที่ ฝ่ายความมั่นคงรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ยังสามารถเข้าถึงประชาชนได้"
ไก่ตื่น! เสือถอย
    แต่ช่วงค่ำมีรายงานว่า กำหนดการดังกล่าวถูกยกเลิกลง ทั้งนี้ การพบปะระหว่างนายฮัสซันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีขึ้นก่อนหน้านี้ 1 ครั้งที่กัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ก่อนการพูดคุยสันติภาพในวันที่ 29 พ.ค.
    ขณะที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า การพบปะไม่เป็นความจริง และยืนยันว่าเป็นแค่เพียงข่าวลือเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ทราบเช่นกันว่าข่าวดังกล่าวมาจากที่ใด
    นอกจากนี้เขายังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของตนเอง ยืนยันว่า “ตามที่มีกระแสข่าวว่าท่านอดีตนายกฯทักษิณจะเดินทางไปพบกับนายตอยิบที่มาเลเซียในวันนี้ผมขอปฏิเสธข่าวนี้ว่าไม่เป็นความจริงครับ ในขณะนี้ท่านอดีตนายกฯ อยู่บริเวณประเทศจีน”
    นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลพื้นที่ภาคใต้ กล่าวถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะไปมาเลเซียหารือกับนายฮัสซัน ตอยิบ ตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นก่อนที่ตัวแทนฝ่ายความมั่นคงของไทยจะไปเจรจาสันติภาพรอบ 3 วันที่ 13 มิ.ย.นี้ว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณได้ทำร้ายและเป็นต้นเหตุการตายของคนในภาคใต้ตั้งแต่ยุคที่เป็นนายกรัฐมนตรี มีการผิดพลาดในการใช้นโยบายกำปั้นเหล็ก สั่งอุ้มฆ่าคนในจังหวัดชายแดนใต้ หลังยอมรับความผิดพลาดแล้วยังไปเจรจากับผู้นำมาเลเซีย ซึ่งนำมาสู่ที่มาของการยกระดับเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็น กลายเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงที่วันนี้ทำให้รัฐบาลไทยมีสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะกลุ่มโจรบีอาร์เอ็นกล้ายื่น 5 เงื่อนไขให้ปฏิบัติ เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่ตัวแทนของรัฐไทย แต่กลับมีอำนาจใหญ่เหนือรัฐบาลไทย การไปพูดคุยครั้งนี้จึงไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะไปตกลงเรื่องอะไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ควรแต่งตั้งตัวแทนรัฐบาลไทยที่มีความสง่างาม ทั้งเกียรติประวัติ ความรู้ด้านกฎหมายและความมั่นคง ไม่ใช่หลิ่วตาให้คนที่มีความด่างพร้อยลายทั้งตัวไปเจรจา เพราะรังแต่จะสร้างปัญหาเพิ่ม
เตือน "แม้ว" มีแต่เสีย
    นายถาวรกล่าววา หาก พ.ต.ท.ทักษิณไปเจรจาจริงก็ถือเป็นความผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วนที่จะซ้ำเติมปัญหานี้ ที่น่าห่วงก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณชักใยทั้งต่อหน้าและลับหลัง จึงกังวลว่าจะสร้างความเสียหายให้รัฐไทยเพิ่มอีก จึงขอให้นายกฯ ห้ามปราม พ.ต.ท.ทักษิณอย่าให้มาเกี่ยวข้องวุ่นวาย เพราะอยู่ในสถานะใดยังไม่ปรากฏชัดเจน เพราะตลอดเวลา 3 เดือน ระหว่างการเจรจามีคนตายเพิ่มเฉลี่ยเดือนละ 20-30 ศพ แต่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาสมช. ยังกล้าบากหน้าผ่านสื่อว่าเดินถูกทาง ถามว่าเอาสมอง สติปัญญาส่วนไหนคิดและพูด หากคนที่ถูกฆ่าตายโดยเฉพาะชาวพุทธเป็นญาติที่น้องจะยอมหรือไม่ หากรัฐบาลยังทำเช่นนี้ ชาวบ้านจะตายเพิ่ม เพราะไม่รู้ปัญหาทำแบบขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ
    นายถาวรกล่าวว่า ล่าสุดการแสดงทัศนคติของ พล.อ.สุกำพล ที่ระบุผ่านสื่อว่า อย่าออกข่าวการฆ่าหมู่ 6 ศพที่ปัตตานี สะท้อนให้เห็นว่ามีความพยายามปกปิดสิ่งสกปรกไว้ใต้พรม ใช้วิธีการสร้างข่าว สร้างภาพแบบเอาการตลาดนำ พอสื่อติงก็ห้ามเผยแพร่ พยายามปิดหูปิดตาตัวเองว่าชาวบ้านกำลังใจดี ทั้งที่ถูกข่มขู่คุกคามสารพัดให้ออกจากพื้นที่ ของจริงไม่เอามาพูดกัน ที่กลุ่มบีอาร์เอ็นปฏิเสธว่าไม่ใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน แต่เป็นกลุ่มปลดปล่อยถามว่าปลดปล่อยจากอะไร เขากดดันให้ไทยพุทธออกจากพื้นที่คือการปลดปล่อยจากการถือครองรัฐไทยของชาวไทยพุทธทั้งที่ในอดีตไทยพุทธและมุสลิมต่างอยู่กันได้อย่างสันติสุข มาปะทุหนักปี 44-47 ทวีรุนแรงในยุคนี้ ถามว่าผลาญงบประมาณแผ่นดินไปเท่าไหร่แล้ว ให้เอามาแจงให้สาธารณชนรู้ว่าคุ้มค่าหรือไม่กับการละเลยการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวบ้าน
    ด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการแก้ปัญหาความมั่นคงของรัฐบาลว่า  ขณะนี้รัฐบาลดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด โดยยกระดับผู้ก่อการร้ายให้มาเป็นผู้เจรจาและให้บุคคลที่ไม่มีความรู้ ความสามารถเข้ามาทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ ทั้ง พล.ท.ภราดร พัฒนาถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งออกมาให้ข่าวจนทำให้คนร้ายรู้แผนการ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. ที่เคยเป็นปฏิปักษ์กับประชาชนในพื้นที่มาก่อน อีกทั้งนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเข้าถึงปัญหาเท่าที่ควร
    น.ส.มัลลิกากล่าวถึงกรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ระบุว่า ให้สื่อมวลชนหยุดนำเสนอข่าวความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น ตนขอเรียกร้องให้พล.อ.อ.สุกำพลไปตรวจสอบความผิดพลาด ไม่ใช่โยนความผิดให้สื่อมวลชน เพราะสื่อมวลชนที่อยู่ในพื้นที่เป็นกระบอกเสียงทำหน้าที่เสนอข่าวให้ประชาชนได้รับทราบ ขอให้รัฐบาลกลับไปทบทวนการแก้ปัญหาและหยุดฟังคำสั่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความผิดพลาดขึ้นอีก เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น มีจุดเริ่มต้นความรุนแรงสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ
    พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังเกิดเหตุคนร้ายยิงชาวบ้านเสียชีวิต 6 ศพที่ จ.ปัตตานีว่า เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดดูแลเป้าหมายที่อ่อนแอ โดยตำรวจ อาสาสมัครจะเพิ่มจุดตรวจจุดสกัดให้มากที่สุด ทหารจะดำเนินการในพื้นที่ชนบทและพื้นที่ป่าเขา ร่วมกับตำรวจ อาสาสมัครเพิ่มเติมกำลังให้ในพื้นที่อื่นได้เมื่อมีการร้องขอ
    "ช่วงนี้อยากขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ให้ประณามต่อต้านการกระทำจากผู้ก่อการร้าย และขอให้ใช้ความระมัดระวังในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการพบปะรวมกลุ่มกันในยามวิกาล ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หากพบสิ่งผิดปกติต้องสงสัยความเคลื่อนไหวของคนแปลกหน้า ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ และถ้าเป็นไปได้ อยากฝากไปถึงมวลชนหรือแนวร่วมผู้ก่อการร้ายให้กลับมาแสดงออกด้วยสันติวิธี" พ.อ.วินธัยกล่าว
กลุ่มนอกรีต
    พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ความต้องการของกลุ่มก่อการร้ายยังคงพยายามทำทุกวิถีทางให้เป็นไปตามความต้องการของฝ่ายตนโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบใดๆ ที่จะเกิดกับประชาชนในพื้นที่ พยายามสร้างความหวาดกลัว พยายามลดความน่าเชื่อถือเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ที่ติดตามข่าวสารจะเห็นตัวตนของคนกลุ่มนี้ว่าไม่มีอุดมการณ์ที่แท้จริง ชอบอ้างศาสนา ที่จริงเป็นกลุ่มนอกรีต ไม่ใช่นักรบหรือวีรบุรุษอย่างที่คนบางกลุ่มพยายามหลอกสังคม เป็นเพียงอาชญากรที่ทำผิดกฎหมาย ผิดหลักศาสนา ขอเรียนว่าเจ้าหน้าที่ยังมีความเข้มแข็ง อดทน อดกลั้น ไม่หวาดหวั่นและจะไม่เพลี่ยงพล้ำด้วยการถูกลวงให้ใช้ความรุนแรงตอบโต้เป็นอันขาด ขณะที่ทุกฝ่ายต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข การดำเนินการใดๆ ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ จึงขอความร่วมมือจากสื่อระวังการเสนอข่าวป้องกันฝ่ายตรงข้ามใช้เป็นเครื่องมือ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมราชมังคลาพาวิลเลียน บีช รีสอร์ท อ.เมืองสงขลา นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด เป็นประธานในพิธีอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์จากการวิจัยและแนวทางการดำเนินคดีความมั่นคงสำหรับพนักงานอัยการในสถานการณ์ชายแดนใต้ ซึ่งสำนักงานคดีแรงงานภาค 9 สำนักงานอัยการสูงสุดจัดขึ้น โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.เป็นวิทยากรเรื่องสถานการณ์จากอดีตจนถึงปัจจุบันตั้งแต่การปล้นปืนกองพันพัฒนาที่ 4 เป็นต้นมา ต่อเนื่องถึงปัจจุบันไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด
    ขณะที่นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาที่ดูแลกำลังพลในพื้นที่ตั้งจุดตรวจจุดสกัด อย่าให้เกิดช่องว่างให้ผู้ก่อการร้ายสร้างสถานการณ์ได้ และให้ทหาร ตำรวจประสานการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ตรงไหนที่ยังไม่มีเอกภาพ จะดำเนินการแก้ไขเพื่อให้มีความปลอดภัยด้วย
    ขณะที่การสร้างสถานการณ์ร้ายรายวันยังเกิดขึ้นตามปกติ โดยเวลา 07.50 น. วันที่ 4 พฤษภาคม ขณะที่นายอับดุลเลาะ ปะแตบือแน อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 ถนนรถไฟ ต.สะแตง อ.เมืองยะลา ขับรถ 6 ล้อยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 70-0798 ยะลา บรรทุกข้าวสารเต็มคันจาก จ.ยะลา เพื่อนำไปส่งที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ขณะมาตามถนนสายรือเสาะ-จะกว๊ะ หมู่3 ต.สาวอ อ.เรือเสาะ จ.นราธิวาส คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะขับตามมาประกบให้คนซ้อนท้ายใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงใส่ จนรถเสียหลักไปชนต้นไม้ริมทาง นายอับดุลเลาะลงจากรถวิ่งหนีเอาตัวรอดเข้าไปในป่ารกข้างทาง คนร้ายก็ยังตามไปจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป
    อีกราย เวลา 08.00 น. นาวาเยะ ดอเลาะ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 4 ต.ปะโต อ.มายอ จ.ปัตตานี ผู้สื่อข่าวของ นสพ.ตำรวจและเป็นสายข่าวของทางราชการ ซึ่งเคยถูกยิงบาดเจ็บเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ขี่รถจักรยานยนต์ซูซูกิ สแมช สีชมพู ทะเบียน กวฉ.ยะลา 320 ออกจากบ้านมาตามถนนระหว่างตำบลบ้ายคลองช้าง บ้านหูกาสะแลแม หมู่ 3 บ้านเขาวัง ต.ตรัง อ.มายอ  2 คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ตามประกบยิงด้วยปืน 9 มม.เข้าที่หลัง บั้นเอวและต้นคอ เสียชีวิต แล้วพากันหลบหนีไป
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดนพวงศาราม อ.เมืองฯ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นที่ตั้งศพ ด.ช.จักรินทร์ หรือน้องไตเติล อายุ 2 ขวบ และนายสมาน เฮียงมา สองพ่อลูกที่เป็นเหยื่อ 4 คนร้ายกราดยิงเสียชีวิต 6 ศพ ที่หน้าร้านขายของชำเลขที่ 17/12 หมู่ 5 ถ.พูลสวัสดิ์ ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี บรรดาญาติพี่น้องได้ปิดดูศพของทั้งสอง โดยเฉพาะศพด.ช.จักรินทร์ ที่ถูกจ่อยิงที่ศีรษะแล้วมีผ้าพันบาดแผลไว้แล้วร่ำไห้เพราะความสงสาร ซึ่งจะมีการฌาปนกิจวันที่ 6 พ.ค.
    ส่วนศพอื่นๆ ที่เป็นเหยื่อด้วยมีนายมะรูดี การี อายุ 25ปี ได้ทำพิธีฝังตามหลักศาสนาอิสลามแล้วที่สุสานกุโบร์โต๊ะอาเยาะ อ.เมืองปัตตานี, ศพนายโกศล นิตรน้อยสืบ อายุ 50 ปี ตั้งทีวัดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา, ศพนายสมพร ประยูรรัตน์ ที่เป็นโปลิโอพิการขาลีบทั้งสองข้าง ตั้งที่มูลนิธิท่งเต็กเซี่ยงตึ้ง อ.เมืองปัตตานี, ศพนายวิชียร เฉลิมจิตรอุทัย หน.ช่างไฟฟ้าฝ่ายก่อสร้าง สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคปัตตานี ตั้งที่สมาคมโกวิทยา อ.เมืองปัตตานี.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น