วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ยุฟ้องกูเกิล‘อีโง่’หมิ่นปู ข่าวหน้า 1 5 May 2556


ยุฟ้องกูเกิล‘อีโง่’หมิ่นปู




“ยิ่งลักษณ์” กลับลำบอกไทยเป็นประชาธิปไตยแล้วตั้งแต่มีเลือกตั้ง แต่จะงอกงามต้องให้ประชาชนใช้สิทธิ์เต็มที่ ยืนกรานท่องโพยที่มองโกเลียเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ไม่ต้องการให้สูญเสียอีก ตร.ฉับไวเร่งคดี“หญิงชั่ว เร่ขายชาติ” ส่วน “เพื่อไทย” ดิ้นพล่านเล็งประสาน กสทช.ปิดปากสื่อโจมตีท่านผู้นำหญิง ด้าน “มาร์ค” เหน็บชินวัตรเจ็บปวดนักก็ไปอยู่ที่อื่น เพราะได้อะไรจากแผ่นดินนี้ไปมาก ส.ส.ประชาธิปัตย์เรียกร้องไอซีทีให้ตรวจสอบกูเกิลหลังค้นหาคำว่า “อีโง่” ได้ผลลัพธ์เป็นรูปภาพนายกรัฐมนตรี!
    ในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” เมื่อวันเสาร์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงถึงกรณีปาฐกถาบนเวทีประชาคมประชาธิปไตยที่ประเทศมองโกเลีย ว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์ของประเทศที่เป็นประชาธิปไตย โดยส่วนใหญ่จะเน้นให้เห็นถึงการที่ประชาชนได้ใช้สิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ ส่วนในประเด็นที่ตนเองกล่าวถึงพัฒนาการเรื่องประชาธิปไตยของไทยนั้น ได้เน้นย้ำให้เห็นว่าสำหรับประเทศไทย ประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องใหม่ และแม้บางครั้งการที่เราเองมักจะพูดกันว่า รูปแบบการทำงานบอกว่าเป็นประชาธิปไตยแล้ว แต่จริงๆ แล้วต้องดูตั้งแต่ผลสุดท้ายของการทำงาน  
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า คือตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการมีประชาธิปไตยและพัฒนาการต่างๆ นั้น ต้องให้แน่ใจว่ากระบวนการต่างๆ เป็นไปตามหลักนิติธรรม และประชาชนมีความเข้าใจอย่างเพียงพอ และประชาชนได้ใช้สิทธิของตนเองอย่างเต็มที่ นั่นคือผลของประชาธิปไตยที่จะเจริญงอกงาม แต่หากมีการไปใช้ในทางที่ผิด ก็จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้เช่นกัน
 “หลังจากประเทศไทยได้มีการเลือกตั้ง ซึ่งถือว่าได้รับประชาธิปไตยกลับคืนมาแล้ว แต่เราก็ต้องให้แน่ใจว่า กระบวนการต่างๆ นั้นเป็นไปตามหลักกฎหมาย เป็นไปตามหลักนิติธรรม และที่สำคัญต้องมีการสร้างความสมดุลในแต่ละองค์กร เพื่อให้ประชาชนได้สิทธิเสรีภาพของตนเองอย่างเต็มที่และเสมอภาคเท่าเทียมกัน”
    นายกฯ ระบุว่า สุนทรพจน์ดังกล่าวเป็นการเล่าให้ฟังถึงการพัฒนาการระบอบประชาธิปไตยของไทยในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาว่าได้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งจุดยืนที่ตนได้กล่าวไว้ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์มากขึ้น เราถือว่าเป็นหน้าที่และภารกิจของทุกฝ่าย ที่จะร่วมกันทำให้ประชาธิปไตยของประเทศมีความแข็งแรงมากขึ้น
ปูไม่อยากเห็นสูญเสียอีก    
เธอกล่าวด้วยว่า ส่วนการสูญเสียชีวิตประชาชนไปในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 นั้น ถือเป็นบทเรียนสำคัญของการจะได้มาเพื่อประชาธิปไตยนั้น เราก็ไม่อยากให้ประชาชนเสียเลือดเนื้อ และขอให้เป็นอุทาหรณ์ที่เราจะได้ร่วมช่วยกันให้ประเทศมีประชาธิปไตยอย่างแข็งแรง นั่นก็คือการที่จะทำอย่างไรให้กลไกทุกกลไกทำงานอย่างเป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่เพียงเมื่อเลือกตั้งจบก็เป็นประชาธิปไตย
“เพราะจริงๆ แล้วมันมีขั้นตอนอีกมากมายที่จะให้แข็งแรงในทุกๆ มิติ ทุกขั้นตอน ซึ่งก็จะเห็นได้ว่าในประเทศที่มีประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์นั้น ก็จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นประเทศไทยเองก็ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง และให้เท่าทันโลก” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
        นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าได้เดินทางไปประเทศมองโกเลียกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย และหลังการปาฐกถาแล้วเสร็จ ปรากฏว่าทุกคนชื่นชมว่าเป็นการปาฐกถาที่ดีมาก เพราะทราบดีว่าเหตุการณ์ในประเทศไทยเป็นอย่างไร มีกระบวนการอย่างไรบ้าง มีความพยายามทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และเครือข่ายมาตลอด ตอนนั้นเมื่อเกิดรัฐประหารปี 2549 เวทีนี้ก็ประณามประเทศไทยอย่างรุนแรง ต่อเนื่องไปถึงรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง คือรัฐบาลอภิสิทธิ์ และรัฐบาลสุรยุทธ์เขารู้กันหมดว่าประเทศไทยเกิดอะไร พรรคประชาธิปัตย์จะทำจดหมายเปิดผนึกชี้แจงนั้น เขาไม่ฟังหรอก จะฉีกทิ้งลงกระโถน จะไปประจานตัวเองให้อับอายขายขี้หน้าทำไม เขารู้ไส้รู้พุงหมดว่าเคยทำอะไรไว้ในอดีต 
นายสุรพงษ์กล่าวว่า สิ่งที่นายกฯ พูดคือการสะท้อนความจริงอย่างตรงไปตรงมา กระทรวงการต่างประเทศจะใช้เวทีต่างประเทศปกป้องประชาธิปไตยของประชาชน จากประชาธิปไตยจอมปลอม ถ้ามีเวทีแบบนี้ที่ไหนอีกก็จะไปพูดอีก เพราะวันนี้ยังคงมีขบวนการแย่งอำนาจจ้องปล้นอำนาจโดยไม่ผ่านการเลือกตั้งอยู่ในประเทศไทย ก็ฝากว่าใครคิดจะทำก็ควรละอายแก่ใจบ้าง ตนเข้าใจความรู้สึกพวกท่านว่าจะชนะได้หรือเป็นรัฐบาลได้ ต้องให้องค์กรอิสระช่วยสนับสนุน 
เขากล่าวว่า ส่วนกรณีที่ ส.ว. 58 คนจะเรียกให้นายกฯ ไปชี้แจงในคณะกรรมาธิการนั้น นายกฯ ไม่จำเป็นต้องไป ส.ว.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มาด้วยวิธีพิเศษ ไปพูดให้ใครฟังก็อายเขา เขาหัวเราะกันหมด ถ้าอยากเป็น ส.ว.หรือเป็นนักการเมือง ก็มาลงเลือกตั้ง เอากระจกส่องตัวเองดูบ้าง ที่ออกมาโวยวายเพราะกลัวไม่ได้เป็น ส.ว.อีกต่อไปหรือเปล่า 
น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พรรคเพื่อไทยขอยกย่องปาฐกถาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ประเทศมองโกเลีย เพราะเป็นคำกล่าวที่ทรงพลังและแหลมคมที่สุดด้านประชาธิปไตยในรอบ 10 ปี สังคมได้รับรู้ถึงประชาธิปไตยที่แท้จริงในประเทศไทย ไม่มีการบิดเบือนนำเรื่องประชาธิปไตยไปใช้ผิดวัตถุประสงค์อย่างที่คนบางกลุ่มบางพวกพยายามบิดเบือนอยู่ในปัจจุบัน 
น.ส.อนุตตมากล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลจะขอยืนหยัดอยู่ข้างประชาชนทุกคนภายใต้ระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากการไม่เป็นประชาธิปไตยนั้นมีผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งนี้ ประเทศต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่ถอยหลังอย่างยุคไดโนเสาร์ ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการให้เกิดเสถียรภาพภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมประชาธิปไตยให้แข็งแกร่งนั้น จำเป็นต้องได้รับความเข้าใจและความร่วมมือจากประชาชนด้วย
เพื่อไทยเล็งปิดปากสื่อ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยเข้าแจ้งความนายสมชัย กตัญญุตานันท์ หรือ ชัย ราชวัตร คอลัมนิสต์ชื่อดังว่า ถือเป็นการติชมโดยไม่สุจริต ไม่มีมูลความจริง และเป็นการให้ร้ายทำให้นายกรัฐมนตรีเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งนี้ ความจริงนายสมชัยก็มีแฟนอยู่ทั่วประเทศ การกระทำดังกล่าวกลายเป็นว่าเรากำลังสร้างความรุนแรงให้กับเยาวชน กลายเป็นว่าใครอยากเด่นอยากดังต้องออกมาด่าทอด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย 
“ดังนั้นเรากำลังประสานกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อจับตาดูว่ารายการใดทางทีวีดาวเทียมที่ด่าทอนายกรัฐมนตรีโดยไม่สุจริตใจและใช้คำพูดด่าทอที่รุนแรง เพราะการวิพากษ์วิจารณ์นั้น นายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยน้อมรับถ้าติเพื่อก่อ แต่เราไม่ปรารถนาเห็นถ้อยคำที่รุนแรง ด่าทอกัน เพราะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ซึ่งหากพบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะดำเนินการต่อไป”นายอนุสรณ์กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการก้าวล่วงจิตวิญญาณของสื่อมวลชน เพียงแต่อย่าสั่งสมความรุนแรงให้เกิดในประเทศ
วันเดียวกัน พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผกก.สน.ดุสิต เปิดเผยกรณีทีมทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าเเจ้งความดำเนินคดีนายสมชัย กตัญญุตานันท์ หรือชัย ราชวัตร นักเขียนการ์ตูนล้อการเมืองชื่อดัง กรณีแสดงความคิดเห็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า คดีนี้เบื้องต้นทาง สน.ดุสิต เพียงรับเรื่องไว้ก่อน แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน จึงเตรียมเสนอผู้บังคับบัญชาตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำคดีนี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยจะเสนอตามลำดับชั้นไปยังกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ภายในสัปดาห์หน้า
           พ.ต.อ.ภัทรภณกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หากผู้บังคับบัญชาเห็นว่าควรเสนอระดับ บช.น. ก็จะทำเรื่องส่งต่อไป ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่หนักใจในการทำคดีนี้แต่อย่างใด โดยจะพิจารณาไปตามพยานหลักฐานที่ทีมทนายยื่นมา ว่าแต่ละข้อหามีน้ำหนักมากน้อยเพียง ซึ่งหากพบว่าเข้าข่ายผิดข้อหาใดก็จะดำเนินการต่อไป และอาจไม่ต้องแจ้งทั้ง 3 ข้อหาที่ทีมทนายเสนอมาก็ได้ ส่วนกรณีจะเรียกนายสมชัยมาสอบปากคำหรือไม่นั้น คงยังไม่จำเป็นต้องเรียกมาสอบตอนนี้ ซึ่งจะต้องพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานเสียก่อน
ไล่ “ชินวัตร” ไปอยู่ที่อื่น
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยบนเวทีผ่าความจริง ที่จังหวัดยโสธร ตอนหนึ่งถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ปาฐกถาที่ประเทศมองโกเลียว่า ที่ว่าตระกูลชินวัตรรู้สึกเจ็บปวด ก็ไปอยู่ที่อื่น เพราะพวกคุณเอาจากแผ่นดินนี้ไปมากแล้ว ไม่มีใครมีสิทธิ์ปล้นประเทศแล้วล้างผิดให้ตนเอง ไม่มีใครมีสิทธิ์เอาอำนาจของประชาชนมาทำผิดกฎหมาย เราจึงต้องเดินหน้าให้กำลังศาล กำลังใจตุลาการ ปกป้องความถูกต้องต่อไป
นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ทีมทนายฟ้องร้องหมิ่นประมาทนายสมชัย กตัญญุตานันท์ (ชัย ราชวัตร) การ์ตูนนิสต์นั้น ตนเห็นว่านายกฯ ควรตั้งทีมทนายความเพิ่มอีก 1 ชุด เพื่อดำเนินการกับ www.google.com เนื่องจากเมื่อพิมพ์ค้นหาคำว่า “อีโง่” เว็บไซต์ดังกล่าวจะแสดงผลลัพธ์เป็นภาพของนายกฯ เป็นจำนวนมาก ซึ่งต้องดำเนินการให้เว็บไซต์นำภาพออก เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำประเทศ จึงขอเรียกร้องให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ดำเนินการกับกรณีดังกล่าวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานระหว่างการแถลงข่าวนั้น นายณัฏฐ์ ได้นำข้อมูลจากเว็บไซต์ดังกล่าวแสดงต่อสื่อมวลชน ซึ่งพบว่าเป็นจริงตามที่นายณัฏฐ์อ้าง เพราะหามีการค้นหาคำว่า “อีโง่” จะแสดงผลลัพธ์เป็นภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และถ้อยคำต่างๆ ที่ระบุถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขึ้นมาเป็นอันดับแรกบนหน้าเว็บไซต์กูเกิล
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวถึงกรณีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เตรียมประสานกับ กสทช.เพื่อให้จับตาดูรายการต่างๆ โดยเฉพาะทางทีวีดาวเทียม ซึ่งมีการใช้ถ้อยคำหยาบคายรุนแรงด่าทอคนอื่นโดยไม่สุจริตใจ โดยเฉพาะกับนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการยื่นเรื่องมายัง กสทช. ตนจึงยังไม่สามารถระบุมาตรการได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะต้องพิจารณาจากเรื่องที่ยื่นเข้ามาก่อนว่าจะต้องออกข้อกำหนดขึ้นมาใหม่หรือไม่ จึงยังตอบหรือให้ข่าวอะไรในตอนนี้ยังไม่ได้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น