วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556

จับเหยื่อเสื้อแดงตัวประกัน ผ่าน กฎหมายนิรโทษกรรม โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2556 08:05 น.

จับเหยื่อเสื้อแดงตัวประกัน ผ่าน กฎหมายนิรโทษกรรม
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์4 เมษายน 2556 08:05 น.


รายงานการเมือง
       
       นิรโทษกรรม ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใด เป็น พระราชกำหนด(พรก.) ที่อาศัยอำนาจนายกรัฐมนตรีและที่ประชุมคณะรัฐมนตรีหรือครม. ประทับตรารับรองเป็นกฎหมาย หรือ พระราชบัญญัติ(พรบ.) อาศัยที่ประชุมสภาฯ ให้ส.ส.ฝ่ายนิติบัญญัติประทับตรารับรองคลอดออกมาเป็นกฎหมาย
       
       ไม่ว่าจะเป็น พรก.หรือพรบ. เป็นเพียงแนวคิด แกนนำคนเสื้อแดง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร พรหมพันธ์ ธิดา ถาวรเศรษฐ ที่เคยเดินหน้าสุดตัวให้รัฐบาลผลักดันเป็นพรก.หวังจะช่วยเหลือแนวร่วมเสื้อแดงที่ยังถูกขังคุกทั้งในกทม.และต่างจังหวัดหลายสิบคน มาวันนี้ก็เงียบเสียงไป เพราะมีเรื่องอื่นมาประกบ ทำให้วาระ เร่งช่วยเหลือเพื่อนร่วมคุก ถูกชะลอออกไปอย่างไม่มีกำหนด
       
       อีกด้านหนึ่ง วรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย หนึ่งในแกนนำเสื้อแดงร่วมกับเพื่อนส.ส.ในพรรค เร่งผลักดัน พรบ. ช่วงแรกขมีขมัน ขู่เอาจริงเอาจัง หลังจาก ยื่นร่างพรบ.นิรโทษกรรม ต่อประธานสภาฯแล้วเสร็จ ก็เร่งเร้า ประกาศกร้าว จะรวบเสียงส.ส.ให้ได้ถึงเกณฑ์ ขอเลื่อนวาระมาพิจารณาในลำดับต้นๆ หวังว่า หากถูกหยิบมาพิจารณาเร็ว กฎหมายก็ผ่านเร็ว จะได้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมอุดมการณ์ได้เร็วขึ้น
       
       ยังไม่ต้องฝันถึงขั้นผลักดันออกเป็นกฎหมาย เอาแค่รวบรวมเสียงส.ส.ให้ได้เกินกึ่งหนึ่งหรือราว 240 กว่าๆจากจำนวนส.ส.ที่มีอยู่ ก็เป็นเรื่องยากเต็มที
       
       เช่นเดียวกับการขับเคลื่อนของเสื้อแดงฝ่ายซ้าย ที่ไม่อิงฐานการเมือง อย่าง กลุ่ม29มกรา ที่นำโดย นส.สุดา รังกุพันธ์ หรือ อาจารย์หวาน ที่รู้จักกันดีในหมู่คนเสื้อแดง และ นายไม้หนึ่ง ก กุณฑี ที่เคยออกมาขับเคลื่อน ขีดเส้นตายให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่ยังต้องโทษอยู่นั้น
       
       การเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว ก็ถูกตั้งคำถามย้อนกลับมา ถึงในแง่ความจริงใจ เพราะหนึ่งในข้อเรียกร้องขอให้มีการปล่อยตัวผู้ต้องขังตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 ไปด้วย
       
       การขับเคลื่อนที่เคยระดมสมาชิกคนที่ไม่เห็นด้วย โดยไม่มีแกนนำขาใหญ่อย่าง แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช) และปีกส.ส.เพื่อไทยมาช่วย ก็ระดมคนมาได้เพียงหลักพันเศษๆเท่านั้น ซึ่งในแง่การเชิงผลักดันเชิงกดดัน ก็แทบจะมองไม่เห็นโอกาส ประกอบกับแดงอำมาตย์ที่มีตำแหน่งในรัฐบาลก็ไม่เห็นด้วย ทำให้การขับเคลื่อนทำให้เกิดประสบความสำเร็จเป็นไปด้วยความลำบาก
       
       แต่ไม่ว่าอย่างไรเรื่องการเร่งช่วยเหลือเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ดูจะถูกตั้งคำถามตั้งแต่แรกแล้วว่า เป็น มหกรรมปาหี่ระดับชาติ หรือ ต้มเสื้อแดง ก็ไม่ผิดนัก
       
       การผลักดันของแกนนำก็ดูเหมือนทำให้แนวร่วมได้เห็นว่ามีความจริงใจ ได้ทำแล้ว ประกอบกับคนในรัฐบาลก็ไม่เห็นด้วย เพราะนายใหญ่หนีคดี ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าขบวนใหญ่ ไม่ได้ประโยชน์ไปด้วย
       
       เสียงปาหี่ยังไม่ทันเงียบ คนกันเอง ก็ออกมายอมรับกลายๆแล้วว่ายากที่จะทำ สมคิด เชื้อคง หนึ่งในกลุ่ม42ส.ส.ที่ร่วมลงชื่อเสนอ พรบ.นิรโทษกรรม มีแนวคิดจะผลักดันให้เลื่อนวาระมาพิจารณา ไปๆมาๆก็บอก ได้เสียงส.ส.ไม่พอ หากจะให้ดันวาระขึ้นมา
       
       เช่นเดียวกับวรชัย ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ "การผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯนั้น ยืนยันว่ายังคงเดินหน้าต่อ เพราะที่ผ่านมาพี่น้องคนเสื้อแดง ติดตามทวงถามมาโดยตลอด ถ้าไม่มีการเสนอเรื่องนี้รับรองว่าม็อบเต็มหน้าทำเนียบฯ เต็มหน้ารัฐสภาแน่นอน เรื่องเป็นสิ่งที่เราต้องแสดงเจตนารมณ์ว่าทำแน่นอน เขาจะได้มีความหวัง เข้าใจว่าผู้ใหญ่ในพรรคบางคนก็เห็นว่ายังไม่ถึงเวลา แต่ผมเองก็อยู่ในสถานะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องมีการดำเนินการต่อ"
       
       สะท้อนให้เห็นว่า แท้จริงแกนนำเสื้อแดง ไม่ได้มีความจริงใจที่จะช่วยเหลือแนวร่วมเท่าใดนัก สิ่งที่ทำไปเพื่อหวังผลการเมือง และประคับประคองรัฐบาลที่ตัวเองก็จะได้มีอำนาจต่อไป ขณะเดียวกันยังเป็นการลดโทนความร้อนแรงของคนเสื้อแดงกันเองไม่ให้ปะทุ ระอุขึ้นมา ไม่ให้ออกมาชุมนุมกดดันกันเองเท่านั้น
       
       กฎหมายแบบฉบับที่ ทักษิณ ไม่ได้ด้วย ไม่มีเอี่ยวในผลประโยชน์ ก็ยากที่จะเร่งผลักดันให้เกิดผลสำเร็จ เสียงตอบรับจากครม. โดยเฉพาะ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เลยไม่ค่อยให้ค่า พรก.หรือพรบ.ฉบับเสื้อแดงที่มุ่งหวังแต่ช่วยเหลือพวกตัวเอง เท่าใดนัก
       
       แม้พรรคเพื่อไทยพยายามผลักดัน นิรโทษกรรม ช่วยเหลือพวกพ้องออกมาหลายฉบับ กับความหวังดูจะยังริบหรี่
       
       และมีกระแสข่าวมาอย่างต่อเนื่อง นอกจาก นิรโทษกรรมโดยคนเสื้อแดงแล้ว ยังมี พรบ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อน แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดออกมา บอกแต่เพียงว่า มีเพียง6มาตรา เนื้อหาก็ทุกฝ่ายทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง ทหาร รัฐบาล ฝ่ายค้าน ได้กันหมด
       
       เป็นในรูปแบบล้างไพ่กันใหม่ อย่างที่เฉลิม แพลมๆเอาไว้แต่แรก และแว่วอีกว่า หลังปิดสมัยประชุมสภาฯวันที่19เม.ย. เฉลิม จะเดินสายไปหลายจังหวัดภาคเหนือ อีสาน หาแนวร่วมภาคประชาชนอีกทางหนึ่ง โดยใช้ชื่อในการทัวร์และติดป้ายหลังเวทีอย่างสวยหรู "นับหนึ่งประเทศไทย"
       
       ถึงแม้ว่าพรบ.ฉบับของ เฉลิม อยู่บำรุง ยังไม่ชัดเจนนักว่าจะเริ่มต้น ให้ส.ส.20คน เข้าชื่อ เสนอเป็นกฎหมายต่อสภาฯในช่วงเวลาใด อีกสิ่งหนึ่งคือ ยังไม่รู้ว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะไฟเขียวหรือไม่ หลังจากได้ทราบเนื้อหาอย่างเป็นทางการแล้ว
       
       หาก พรบ. ไม่ว่าโดยใคร ฉบับใด หากมุ่งหวังแต่ช่วยเหลือพวกพ้อง โดยเฉพาะ นช.ทักษิณ ชินวัตร ให้กลับบ้านได้อย่างเท่ พ้นมลทินทางคดี แม้จะยกมวลชนทั้งฝ่ายสีแดง และสีเหลือง มาเป็นตัวประกันด้วย เชื่อว่า คงไม่ได้รับการตอบรับจากบางฝ่ายแน่นอน เพราะยังมองว่า ผลประโยชน์สูงสุดที่จะได้นั้นคือ การล้างผิดให้ทักษิณ เป็นการลบล้างคำพิพากษาของศาล ทำให้กฎหมายไม่มีความศักดิ์สิทธิ์
       
       แต่ที่น่าเห็นใจที่สุดคงหนีไม่พ้น แนวร่วมเสื้อแดง ที่จนถึงวันนี้หลายคนติดคุกมาแล้วหลายปี ถูกจับโยงลากมาเป็นตัวประกันในทุกกรณี โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับ ทักษิณ ชินวัตร ไม่เพียงเท่านั้น ยังถูกคนเสื้อแดงด้วยกันเอง หลอกกันเอง ดังที่จะเห็นได้ว่า คนเสื้อแดงหลายคนที่มีตำแหน่งใหญ่โตในรัฐบาล และรัฐบาลที่เป็นของพวกตัวเอง
       
       แต่สำหรับแนวร่วมที่ติดคุกนั้น ยังไม่ได้รับการเหลียวแล ยังคงติดคุก และถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อประคองรัฐนาวายิ่งลักษณ์และตัวเองให้ยังคงอยู่ในอำนาจ เท่านั้นเอง!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น