วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556

วิเคราะห์ข่าวจากไทยโฟสต์ เมื่อ 9 เม.ย.56



ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด “พี่น้องครับ พรรคเพื่อไทยเมื่อเป็นรัฐบาล ขอแนะนำว่าให้ทำคันเขื่อนลึกลงไปในทะเลประมาณ 10 กิโลเมตร ความยาวก็สามารถทำได้ตั้งแต่ 60 กิโลเมตร แต่ว่าเอาแค่ซัก 30 กิโลเมตรก็พอ ก็ตั้งแต่สมุทรสาครยันปากน้ำ ไม่ต้องไปกู้เขาซักบาทครับ ทำไมง่ะ ทำเขื่อนขนาดนี้มันหมดเป็นแสนล้านไม่กู้เหรอ ไม่ต้องกู้ครับ ผมเป็นคนไม่ชอบกู้ เพราะตอนเป็นนักธุรกิจเข็ดแล้วกู้เงิน ตอนนี้มาช่วยการเมืองก็ไม่อยากให้กู้ ผมไม่ใช้นักกู้ แต่ไม่รู้เป็นไรครับ วันนี้สังหรณ์ใจว่าพรรคเพื่อไทยต้องเป็นรัฐบาลแน่นอน เพราะอะไรครับ เพราะพรรคประชาธิปัตย์สร้างหนี้ครับ ตอน IMF ประชาธิปัตย์เซ็นไว้ ไทยรักไทยมาล้าง” นี่คือคำพูดของ ทักษิณ ชินวัตร ...๐ แต่วันนี้ ..คนคนนี้กลับสั่งให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ด้วยอ้างว่าช่วงทำธุรกิจตัวเองมีหนี้ก่อนถึงได้ร่ำรวย และต่อไปจะทำให้ค้าขายดี ที่ดินราคาพุ่ง ใช้หนี้ได้ก่อน 50 ปีแน่นอน จะใช้หนี้ชาตินี้หรือชาติหน้าไม่ใช่ประเด็น แต่ต้องถามว่าใครเป็นคนสร้างหนี้ และใครต้องจ่ายหนี้ถ้าไม่ใช่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ หากการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท มาสร้างรถไฟความเร็วสูงแล้ว จะทำให้คนจนรวยขึ้น   ประเทศชาติเจริญขึ้น นักการเมืองไม่โกงกิน ใช้หนี้ได้ก่อน 50 ปีเหมือนใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ ก็ขออนุโมทนาสาธุ .. แต่ถ้าผลออกมาตรงกันข้าม ทำให้ประเทศล่มจ่มเหมือนกรีซ เหมือนไซปรัส ระวังไว้คนบางตระกูลจะไม่มีแผ่นดินอยู่ในประเทศนี้!...๐ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พูดได้ดีจึงนำมาลงให้อ่านทั้งดุ้นเลย “ไม่อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณสร้างความสับสน เพราะเป็นผู้สไกป์เข้ามาก่อนการเลือกตั้งว่าจะทำโครงการต่างๆ โดยไม่ต้องกู้ แต่วันนี้กลับกู้เงิน และไม่อยากให้ซ้ำรอยที่เคยเชิญชวนคนทั้งประเทศว่าต้องเป็นหนี้ก่อนถึงจะรวย สุดท้ายคนส่วนใหญ่เป็นหนี้ แต่ยังยากจน หรือแย่กว่าเดิม  ไม่อยากให้สร้างความสับสนเรื่องประวัติศาสตร์ ที่พูดว่าพรรคประชาธิปัตย์มีแต่ใช้จ่าย ทั้งที่เราคือพรรคที่สะสมเงินสำรองจนใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้ก่อนกำหนด เพียงแต่ไม่ได้ทำในรัฐบาลในพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากไม่อยากเสียค่าปรับ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณไปกู้เงินเพื่อใช้หนี้ ตามที่นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ยอมรับในสภา”...๐ ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องไอเอ็มเอฟ ใครสร้างหนี้ ใครใช้หนี้ ฟังจาก “ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ สักหน่อยเป็นไง จะได้เห็นความ “กะล่อน” ของใครบางคน “รัฐบาลที่กู้เงินไอเอ็มเอฟเป็นรัฐบาลแรกคือ รัฐบาลของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่มีคุณทักษิณเป็นรองนายกฯ โดยกู้เงินมา 17,200 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อกู้มาแล้วคนในรัฐบาลก็ล่วงรู้ความลับว่าจะมีการปรับเปลี่ยนค่าเงินบาทจาก 26 บาท เป็น 50 บาท โดยมีบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ที่สุดในขณะนั้นได้รับผลประโยชน์ .. เมื่อรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เข้ามารับช่วงต่อ ก็ดำเนินการกู้ให้น้อยลง และใช้หนี้ให้มาก โดยกู้เป็นจำนวนเงิน 13,400 ล้านเหรียญสหรัฐ และใช้หนี้ในปลายสมัยรัฐบาล 8,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้มียอดหนี้คงเหลือ 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหลังจากนั้นรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาในปี 44 และด้วยความที่ต้องการได้หน้า พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้กู้เงินจากสถาบันการเงินมาใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้ ..ฉะนั้น ดีแต่กู้ก็คือ ชินวัตร ทั้งพี่และน้องที่กู้เก่ง รัฐบาลนายชวนไม่เกี่ยวกับการกู้ มีแต่มาใช้หนี้เงินกู้ ดังนั้นให้เลิกต้มประชาชนได้แล้ว”...๐ กลุ่มก่อความไม่สงบสังหารรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาเมื่อวันก่อน เป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่า กลุ่มโจร (ตัวจริง) ที่ก่อเกตุร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องการล้มโต๊ะเจรจาระหว่างรัฐบาลโดย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งนั่นหมายความด้วย ว่า บีอาร์เอ็นไม่ได้มีอำนาจและบทบาทอะไรอีกแล้ว การเปิดโต๊ะเจรจาโดย สมช.จึงล้มเหลวอย่างชัดเจน หรือการดับไฟใต้จะหมดสิ้นทุกหนทางแล้ว? ...๐ บันทึกบรรทัดส่งท้ายด้วยการเลือกตั้งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 แทน นางพรทิพย์ โล่ห์วีระ จันทร์รัตนปรีดา ส.ว.ชัยภูมิ  ในวันที่ 9 เมษายนนี้ มีแคนดิเตตอยู่ 4 คน ประกอบด้วย นพ.อนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ ส.ว.สุรินทร์ นายวิทยา อินาลา ส.ว.นครพนม นางนฤมล ศิริวัฒน์   ส.ว.อุตรดิตถ์ และ น.ส.สุมล สุตะวิริยัวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี    โดยไม่มีชื่อของ ส.ว.สรรหาเข้าชิงชัยด้วย แต่ไม่ว่าใครจะได้รับเลือก คงไม่มีผลอะไรมากนัก เพราะผู้มีบทบาทและอำนาจมากที่สุดคือประธานวุฒิสภา อย่าง นายนิคม ไวยรัชพานิช ที่แสดงตนชัดเจนในการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็น “กลางกระเท่เร่” ขนาดไหน...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น