วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556

อีสานเริ่มแห่กลับสงกรานต์“ถ.มิตรภาพ” โคราชแน่น -“จ่าโบก”รุ่น 2 ช่วยระบายจราจร โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 เมษายน 2556 21:13 น.


อีสานเริ่มแห่กลับสงกรานต์“ถ.มิตรภาพ” โคราชแน่น -“จ่าโบก”รุ่น 2 ช่วยระบายจราจร
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์11 เมษายน 2556 21:13 น.

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ปชช.ชาวอีสานเริ่มแห่กลับภูมิลำเนาฉลองสงกรานต์ ถ.มิตรภาพ โคราช จราจรหนาแน่นและติดขัดเป็นบางช่วง ด้าน ตร.ทางหลวงชี้เส้นทางหลักมุ่งหน้าอีสานรถหนาแน่นตั้งแต่คืนนี้ถึงเช้า 13 เม.ย. แนะผู้ขับขี่รักษากฎจราจรเคร่งครัด พร้อมเปิดตัว “จ่าโบก” รุ่น 2 เป่านกหวีดได้ชุดแรกของไทย ออกปฏิบัติหน้าที่ช่วยระบายจราจร 
       
       ช่วงบ่ายวันนี้ (11 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อฉลองเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 ว่า ประชาชนชาวอีสานได้เริ่มทยอยเดินทางกลับบ้านด้วยรถยนต์ส่วนตัวกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน ตั้งแต่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จนถึงตัวเมืองนครราชสีมา เริ่มหนาแน่แน่นและติดขัดบางช่วง โดยเฉพาะช่วงทางเนินขึ้นเขา เช่น อ.ปากช่อง อ.สีคิ้ว และ บริเวณทางแยกข้าสถานีบริการน้ำมัน เนื่องจากมีรถชะลอตัว
       
       จากการสอบถามประชาชนที่เดินทางตั้งแต่วันนี้ต่างบอกว่า เกรงจะเกิดปัญหารถติดอย่างหนักในช่วงวันที่มีการเดินทางกลับพร้อมกันเป็นจำนวนมาก
       
       ที่จุดบริการประชาชนตำรวจทางหลวง ถ.มิตรภาพ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พ.ต.ท. ศรีสุวรรณ ดีมีวงษ์ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวว่า จากการรายงานคาดว่า ตลอดทั้งคืนวันนี้ (11 เม.ย.) ต่อเนื่องไปจนถึงเช้าวันที่ 13 เมษายน จะมีปริมาณรถหนาแน่นทุกเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางหลักมุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน ทั้ง ถนนมิตรภาพ , ถนนทางหลวงหมายเลข 304 สายกบินทร์บุรี-ราชสีมา และ ถนนทางหลวงหมายเลข 24 สายสีคิ้ว-เดชอุดม ส่วนช่วงขากลับเข้ากรุงเทพฯ คาดว่าจะทยอยเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 17 เมษายน เพื่อกลับเข้าไปให้ทันทำงานตามเดิม
       
       ทั้งนี้ได้กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงในสังกัด ให้ออกปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่ประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมได้นำหุ่น “จ่าโบก” ออกมาติดตั้งคอยโบกระบายการจราจร ช่วยเจ้าหน้าที่ในอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่ง มีประจำอยู่ตามจุดบริการตำรวจทางหลวง ทั้ง 4 สถานี ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา
       
       “ผู้ที่ขับรถเดินทางเป็นระยะเวลานานควรหยุดผักผ่อนเพื่อป้องกันอุบัติที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งประชาชนสามารถเข้าไปใช้บริการของตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ได้ รวม 4 จุด ประกอบด้วย ที่สถานีตำรวจทางหลวงกลางดง อ.ปากช่อง , สถานีตำรวจทางหลวงคลองไผ่ อ.สีคิ้ว, สถานีตำรวจทางหลวงจอหอ อ.เมืองนครราชสีมา และ สถานีตำรวจทางหลวงบ้านส้ม อ.โนนสูง ซึ่งมีให้บริการจุดพักรถ บริการน้ำดื่ม กาแฟ ผ้าเย็น เพื่อช่วยผ่อนคลายตลอดเส้นทางด้วย” พ.ต.ท. ศรีสุวรรณ กล่าว
       
       พ.ต.ท. ศรีสุวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับหุ่นจ่าโบก ที่ตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง นำออกมาปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ครั้งนี้ เป็นจ่าโบก รุ่นที่ 2 จำนวน 4 ตัว ซึ่งเป็นหุ่นที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถเป่านกหวีดได้เป็นชุดแรกของประเทศไทย โดยดัดแปลงมาจากจ่าโบกรุ่นที่ 1 ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาซึ่งใช้หุ่นพลาสติกตามร้านขายเสื้อผ้ามาดัดแปลงให้มีความสามารถพิเศษ ต่างจากหุ่น “จ่าเฉย” คือ ข้อมือขวาสามารถขยับขึ้นลงได้คล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจโบกรถให้เคลื่อนไปข้างหน้า และใช้พลังงานขับเคลื่อนจากแบตเตอรี่รถยนต์ที่หาซื้อได้ทั่วไป
       
       สำหรับ หุ่นจ่าโบกรุ่นที่ 2 นี้ ได้รับการพัฒนาจาก นายนิทัศน์ สุริยะกาญจน์ อาจารย์คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา โดยพัฒนาให้จ่าโบกสามารถเป่านกหวีดได้ และการ ใช้งานแต่ละครั้งหากชาร์ตแบตเตอรี่เต็มจ่าโบกสามารถยืนโบกมือได้นาน 4-5 ชั่วโมง ใช้งบประมาณผลิตตัวละประมาณ 15,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงในสังกัดรวบรวมกันเอง และจัดทำขึ้นมาเพื่อคอยช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้
       
       โดยในเบื้องต้นได้นำหุ่นจ่าโบก รุ่นที่ 2 ทั้ง 4 นาย ไปตั้งไว้ที่จุดบริการประชาชนของตำรวจทางหลวง จ.นครราชสีมา ทั้ง 4 แห่ง คือ ที่ อ.ปากช่อง, อ.สีคิ้ว,อ.เมืองนครราชสีมา และ อ.โนนสูง เพื่อให้ประชาชนได้เห็นการทำงานของจ่าโบก อย่างใกล้ชิด
       
       “ ประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ อยากแนะนำให้ผู้ขับขี่รักษากฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการห้ามดื่มแอลกอฮอล์ และหากรถคันใดมีปัญหาจอดเสีย ขอให้เร่งนำเข้าชิดขอบทางด้านซ้าย และทำสัญลักษณ์เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อนที่อาจเกิดขึ้น หรือ สามารถขอความช่วยเหลือและสอบถามเส้นทางได้ที่ สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ” พ.ต.ท. ศรีสุวรรณ กล่าวในตอนท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น