วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556

ถ้าแน่จริง...ก็เอาเลย เมื่อ 19 เม.ย.56


ถ้าแน่จริง...ก็เอาเลย



อืออ์อ์อมมม์ม์ม์...ดูจากลักษณะท่าทางแล้ว มันคงเอาเราแน่!!! แน่นอนว่า...มันในที่นี้ ย่อมไม่ได้หมายถึงโปเตโต้เขมร ที่กำลังออกอาวุธหมัด เท้า เข่า ศอก อยู่กับตัวแทนประเทศไทย ณ ศาลโลก ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่อย่างใด แต่หมายถึงมันสำปะหลังยี่ห้อไทยๆ ด้วยกันเองนี่แหละ ที่อาศัยช่วงจังหวะคนไทย กำลังทุ่มเทแรงกาย แรงใจ สู้กับเขมร ในเรื่องข้อพิพาทดินแดน แอบลักไก่ กะจะฉีกอำนาจศาล อำนาจตุลาการ ด้วยการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม รวมทั้งเตรียมแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่คิดจะรอฟังคำวินิจฉัยใดๆ ของศาลแม้แต่น้อย...
                               --------------------------------------------------
    ถ้าว่ากันตามรายงานข่าวที่ สกังก์ ได้ สไกป์ ตรงมายังพรรคเผาไทยวานนี้...อันนี้ต้องเรียกว่า...ถือเป็นการตัดสินใจยุให้ใส่เกียร์ห้าเดินหน้า โดยไม่ต้องสนใจว่า จะลงห้วย ลงเหว ลงขุมนรกใดๆ เอาเลยถึงขั้นนั้น คือถึงขั้นผู้หลัก-ผู้ใหญ่ในพรรค เอ่ยคำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าธารกำนัลว่า พวกเราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ท่านกลับบ้านในปลายปีนี้แน่นอน ก็เป็นอันว่ารายการ จุดไฟในนาคร คงได้เริ่มต้นขึ้นมาใหม่ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้เป็นอันขาด จากที่ใครต่อใครเคยประมาณการเอาไว้ว่า ตามวิสัยคนฉลาด ที่ทั้งคร่อกก์ก์ก์ ทั้งกลอกกลิ้ง ชนิดใช้มะกอกร้อยตะกร้ายังปาไม่ถูก การกลับบ้าน-ไม่กลับบ้าน มันน่าจะไม่ได้มีความสำคัญ เท่ากับการได้มีโอกาสใช้เม็ดเงินงบประมาณกันทีละ 3.5 แสนล้าน หรือ 2.2 ล้านล้าน ซึ่งน่าจะเป็นอะไรที่อิ่มอก อิ่มใจ อิ่มท้อง สมองแน่น ยิ่งกว่ากันเยอะเลย แต่มาๆ-ไปๆ สิ่งที่อาจอยู่นอกเหนือประมาณการ ของผู้คนโดยปกติทั่วไป ก็คือว่า ความฉลาด นั้นๆ เมื่อมันถูกผสมผสาน ความโลภ เข้าไปด้วย มันก็อาจก่อให้เกิดอาการ โง่เฉียบพลัน ขึ้นมาได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์...
                               ----------------------------------------------------
    พูดง่ายๆ ก็คือ...ด้วยสิ่งที่เรียกว่า ความโลภ นี่แหละ มันมักจะก่อให้เกิดความไม่สมดุลทางสติปัญญา หรือทำให้เกิดอาการประเภท ได้คืบ-จะเอาศอก-ได้ศอก-จะเอาวา กระทั่งไม่ว่าได้ไปแล้ว ไม่รู้จะกี่ร้อยวา ร้อยโยชน์ ก็เถอะ แต่มันไม่สามารถก่อให้เกิดความพอ หรือความพึงใจ ในสิ่งที่ตนมีอยู่ได้เลยแม้แต่น้อย กระทั่งสามารถยกระดับจากนักโทษหนีคดีอาญาธรรมดาๆ กลายไปเป็นแขกบ้าน แขกเมือง ผู้ยิ่งใหญ่ ไปไหน-มาไหน ใครต่อใครต่างพร้อมที่จะให้การต้อนรับ พร้อมจะออกวีซ่า ปูพรมเหลือง พรมแดง พร้อมจะพูดคุยเจรจาทั้งในเรื่องส่วนตัว เรื่องบ้านเมือง ได้ด้วยกันทั้งสิ้น เรียกว่าใหญ่ซะยิ่งกว่านายกรัฐมนตรีแท้ๆ ไม่รู้กี่เท่า ต่อกี่เท่า จะเอาเงิน เอาทอง เอาอำนาจ แทบไม่มีใครกล้าขัดขวาง ไม่ว่าในประเทศ หรือนอกประเทศ ก็ตาม แต่ดันกลับคิดว่าตัวเองยังคง ว่ายน้ำอยู่กลางทะเล ก็เพราะว่า ความไม่รู้จักพอ เพียงตัวเดียวเท่านั้น...
                                 --------------------------------------------------
    ทั้งๆ ที่รู้ทั้งรู้ว่า เมื่อไหร่ที่ตัวเองคิดจะ ขึ้นฝั่งโดยไม่ต้องติดคุก...ยังไงๆ มันย่อมต้องก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อผู้คน ต่อบ้านเมือง อยู่แล้ว
แหงมๆ ไม่ว่ามากหรือน้อยก็แล้วแต่ แต่ยังอุตส่าห์ดิ้นรน กระเสือกกระสน ทุรนทุราย อยากจะเอาในสิ่งที่ตัวเองต้องการให้จงได้ ไอ้แบบนี้...ใครจะยกย่อง เชิดชู สรรเสริญ ว่าเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย เป็นคนเก่ง คนฉลาด ก็แล้วแต่จะว่ากันไป ตามรสนิยมของใครก็ของมัน แต่ถ้าจะว่าตามมาตรฐานทางศีลธรรม หรือทางพระ ทางเจ้า แล้วล่ะก็ มันคงไม่ต่างอะไรไปจากคนที่ เห็นแก่ตัว แบบสุดๆ ล้วนๆ นั่นเอง แล้วอย่างนี้ใครเค้าจะยอมเปิดไฟเขียวให้ผ่านตลอด ใครจะกล้าไปปล่อยให้ได้คืบเอาวา ได้วาเอาโยชน์ ได้โยชน์แล้วยังอาจคิดจะเอาทุกสิ่ง ทุกอย่าง ไปตลอดทั่วทั้งอสงไขย ดังนั้น...ไม่ว่าจะเตรียมแผน เตรียมยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี เอาไว้ให้แยบยล แนบเนียน เพียงใด สุดท้าย...มันย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องเกิดแรงต้าน แรงเสียดทาน อันจะนำมาซึ่งความฉิบหายวายวอด ของผู้คนพลเมือง ไม่ว่าฝ่ายไหน ต่อฝ่ายไหน กันอีกจนได้นั่นแหละ...
                              ----------------------------------------------------
    ถึงจะได้อำนาจรัฐเอาไว้ในมือ แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แถมมีมวลชนหนุนหลังอีก ซักกี่แสน กี่ล้าน ก็ตาม...แต่ยังไงๆ ย่อมมิอาจหลีกเลี่ยงความฉิบหายได้โดยเด็ดขาด อย่างน้อย...บรรดาผู้ที่ต้องตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ ถูกไล่กระทืบ ไล่เหยียบย่ำ ภายใต้ระบอบ ประชาธิปไตยแบบใครยอมข้าอยู่-ใครขวางข้าตาย มาโดยตลอด แม้ว่าจะเป็นคนส่วนน้อย หรือมวลชนส่วนน้อย ก็แล้วแต่ แต่คงไม่มีใครที่จะยอมเอามือ เอาตีนตัวเอง ไปซุกไว้ในหีบกันง่ายๆ อีกทั้งแต่ละกลุ่ม แต่ละราย ล้วนแล้วแต่มี บทเรียน หนักบ้าง เบาบ้าง ไปด้วยกันทั้งสิ้น เชื่อเถอะว่า...ไอ้แบบที่จะไล่ทุบ ไล่กระทืบ เด็ก สตรี และคนชรา ในแบบ ม็อบเสธ.อ้าย นั้น...คงไม่มีต่อไปอีกแล้ว!!! หรือแม้กระทั่งประเภทคิดจะยิงเอ็ม 79 ผ่ากลางฝูงชน เพื่อให้ต้องยอมรับความเป็นประชาธิปไตย ภายใต้อำนาจอิทธิพลของคนคนเดียว...
                           ------------------------------------------------------
    เมื่อไหร่ก็ตาม ที่คิดจะดันทุรังต่อไปในแนวนี้...เตรียมวาดฉากสถานการณ์ล่วงหน้าไว้ได้เลยว่า โอกาสที่จะฉิบหาย หนักไปยิ่งกว่าความฉิบหายครั้งอื่นใด เท่าที่เคยมีมา หรือฉิบหายยิ่งไปกว่าครั้งที่ตัวเอง เคยสร้างความฉิบหายให้กับผู้อื่น ให้กับรัฐบาลอื่น ย่อมปรากฏให้เห็นได้ในแบบฉับพลัน-ทันที และอาจเป็นความฉิบหายในรอบ 205 ปี ของประวัติศาสตร์อาณาจักรสยาม อย่างที่บรรดาโหราพยากรณ์ ท่านคาดคะเนเอาไว้ล่วงหน้าก็เป็นได้ เพราะคงไม่มีใครยอมใครกันง่ายๆ และย่อมเป็นที่แน่นอนนั่นแหละ...ผู้ซึ่งจะต้องตกเป็นผู้รับผิดชอบภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้เลย ก็คือ รัฐบาล นั่นเอง!!! เพราะฉะนั้น...ถ้าแน่จริง!!! ก็เอาเลย ทุกสิ่ง ทุกอย่าง มันจะได้จบๆ กันไปซะที...
                              ----------------------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก H.G. Wells (อีกครั้ง)...Poverty wants some things, luxury many, avarice all things. - ความจน อยากได้บางสิ่งบางอย่าง ความฟุ่มเฟือย อยากได้หลายอย่าง ความโลภ อยากได้ทุกสิ่งทุกอย่าง...
                           ----------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น