‘ฮอร์ นัมฮง’ขู่ศาลโลก ให้เขมรแพ้ไม่มีสันติภาพทนายลิ้นพันผวาสันปันน้ำ
ทีมทนายเขมรแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลกรอบสุดท้าย แก้ตัวลิ้นพัน รับสั่ง "สีหนุ" ใช้อ้างอิงไม่ได้ ซัดไทยเกเร ผวา "สันปันน้ำ" พ่นพิษ ยืนกรานไม่จำเป็นต้องถ่ายทอดแผนที่ภาคผนวก 1 ลงในภูมิศาสตร์จริง "เฒ่านัมฮง" ขู่ศาลพิพากษาเข้าทางเขมร ไม่เช่นนั้นอยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่ได้ เพราะศาลรู้ดีอยู่แล้วไทยทำอะไร ขณะที่ทูต "วีรชัย" ชม "อลินา" หลังวางแผนสู้คดีด้วยกันมา 3 ปี "ยิ่งลักษณ์" ดำน้ำคล่องขึ้น พิลึก! เป็นผู้นำประเทศ แต่ยังไม่โทร.คุยทีมทนายสักคำ ธาตุแท้ "ปึ้งศักดิ์" ทำตัวเป็นลูกไล่ ใจดี "เฒ่านัมฮง" ชมทีมทนายไทยเก่ง
มีความเห็นต่อเนื่องภายหลังทีมทนายฝ่ายไทยแถลงปิดคดีด้วยวาจาต่อศาลโลกเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะตัวแทนประเทศไทย ระบุว่าทางกัมพูชาปลอมแปลงเอกสารเสนอต่อศาลโลก
ในวันเดียวกัน นายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์โจมตีไทยเช่นกัน โดยระบุว่าข้อมูลที่ไทยนำเสนอผิดไปจากข้อเท็จจริง ฝ่ายไทยได้นำเสนอแผนที่หลายชิ้น แต่แผนที่ที่ศาลโลกใช้ในคำตัดสินเมื่อปี 2505 คือแผนที่ซึ่งฝ่ายกัมพูชานำเสนอ ดังนั้น การที่ไทยนำแผนที่หลายชุดมาแสดงวันนี้เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อคดีเลย
เมื่อถามว่า ไทยบอกว่าศาลไม่อยู่ในสถานะที่จะตีความเรื่องเส้นเขตแดน เพราะศาลโลกในอดีตเคยปฏิเสธมาแล้ว นายนัมฮงตอบว่า เราไม่ได้เสนอให้ศาลตีความเรื่องเส้นเขตแดน และในความเป็นจริงเรื่องเส้นเขตแดนที่เราเคยเสนอเมื่อ 50 ปีก่อน ศาลไม่ปฏิเสธเสียทีเดียว เป็นแต่เพียงว่าเราได้ส่งเรื่องเข้าไปล่าช้า และศาลไม่มีเวลาจะพิจารณาให้ แต่มาคราวนี้เราก็ไม่ได้ขอให้ศาลกลับไปพิจารณาเรื่องเส้นเขตแดน ส่วนเรื่องพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ที่ไทยอ้างในศาลโลกนั้น เป็นการตีความของฝ่ายไทยเอง โดยกัมพูชาเสนอว่าพื้นที่ 4.6 ตร.กม.นั้น ในความเป็นจริงก็รวมอยู่ในแผนที่ภาคผนวก 1 ในเขตแดนด้านของกัมพูชาอยู่แล้ว
ขณะที่นายวีรชัยให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เราได้ปล่อยอาวุธมาไปตามแผนทุกอย่างที่วางไว้ มีการจุดเริ่มต้นและตอนจบ รวมถึงมีจุดที่สุดยอด แต่นี่ไม่ใช่การต่อสู้ เพราะยังอยู่ท่ามกลางมิตรภาพ หลังจากออกจากศาลแล้วก็มีการกอดกันตามปกติ
ซักกรณีผู้พิพากษาอับดุลคาวิ อะห์เม็ด ยูซูฟ ชาวโซมาเลีย ได้ขอให้คู่ความชี้พิกัดพื้นที่โดยรอบ เขาตอบว่า เป็นแนวโน้มใหม่ เพราะการที่ผู้พิพากษาตั้งคำถามมานั้น ก็ถือเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เราได้ชี้แจงเพิ่มเติม ไม่น่าเป็นเรื่องตื่นตระหนก แต่เป็นเรื่องธรรมดา และถือว่าท่านให้โอกาสเราเขียน อีกทั้งถือเป็นคำถามของท่านผู้พิพากษาท่านนั้นท่านเดียว ไม่ใช่คำถามของศาล
ถามถึงความพอใจการหักล้างเรื่องของแผนที่ นายวีรชัยเผยว่า รู้สึกพอใจ เพราะเราวางแผนการเรื่องของแผนที่ มานาน 3 ปีแล้ว ได้ดูและศึกษาทุกอย่าง และ น.ส.อลินา มิรอง ผู้เชี่ยวชาญแผนที่ เป็นคนที่ตนไว้วางใจ แม้เขาไม่มีประสบการณ์การพูดในศาลโลก แต่ตนก็วางใจว่าเขาทำได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน กับแผนที่ 85D นั้น เราเชื่อว่าศาลใช้ทั้ง 2 ฉบับนี้ ซึ่งมีการใช้แผนที่ 85D เพื่อชี้ว่ามีพื้นที่พิพาทหรือไม่ ซึ่งเราชี้ให้ศาลโลกเห็น
ด้านนายไกรรวี ศิริกุล รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้หยิบยกเหตุการณ์หลักฐาน ข้อเท็จจริงต่างๆ มาหักล้างข้อกล่าวอ้างคำให้การของฝ่ายกัมพูชา ได้แก่ มติคณะรัฐมนตรีของไทยเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2505 ที่ออกมาหลังจากศาลมีคำตัดสินเมื่อเดือน มิ.ย. 2505 นั้น แสดงว่าไทยยอมปฏิบัติตามคำพิพากษาทันที แม้จะขมขื่นก็ตาม โดยล้อมรั้วลวดหนามซึ่งทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันว่าบริเวณดังกล่าวคือพื้นที่โดยรอบ ต่อมาไทยก็นำเสาธงชาติออกมาจากบริเวณนั้น และถอนกำลังทหารออกมา จากนั้นยังมีเหตุการณ์ที่สมเด็จพระนโรดม สีหนุ กษัตริย์กัมพูชาเสด็จฯ ขึ้นไปเฉลิมฉลองแล้วรับสั่งว่า “พื้นที่ที่ไทยขีดให้นั้นล้ำขึ้นมาเพียงไม่กี่เมตร” อีกทั้งในปลายปีเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชาได้แถลงในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติว่า ไทยได้ปฏิบัติครบถ้วนตามคำพิพากษาแล้ว
ชม "อลินา มิรอง"
นายไกรรวีกล่าวว่า ทีมทนายต่างประเทศของไทยได้นำเสนออย่างชัดเจนว่า แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสนนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งในเหตุผล และเป็นตัวที่ชี้ว่าปราสาทพระวิหารอยู่ในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชา ไม่ได้บอกเขตแดน ซึ่งคำตัดสินปี 2505 นั้น ศาลปฏิเสธที่จะวินิจฉัยเรื่องเขตแดน
นอกจากนี้ รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ยังชี้ให้เห็นว่า กัมพูชาพยายามโน้มน้าว ปรับเปลี่ยน จากคำให้การของทนายฝ่ายกัมพูชาที่เริ่มแรกใช้คำว่า พื้นที่โดยรอบ (Vicinity) มาเป็นคำว่าเขตแดน (territory) ดังนั้นเรื่องที่กัมพูชาเสนอจึงเป็นเรื่องใหม่
ส่วนประเด็นเรื่องแผนที่นั้น นายไกรรวีกล่าวว่า น.ส. อลินา มิรอง ได้นำเสนออย่างแยบยลให้เห็นถึงว่าสถานะทางกฎหมายที่ควรจะเป็นของแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนนั้น มีมากน้อยเพียงใด และเป็นเรื่องยากที่กัมพูชาจะหาหลักฐานมาหักล้าง ข้อมูลที่ฝ่ายไทยยกขึ้นมา โดยผู้เชี่ยวชาญด้านแผนที่จาก International Boundary Research Unit ซึ่งเป็นสถาบันที่รวบรวมแผนที่จากทั่วโลกได้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงเฮกว่า หลังเสร็จสิ้นการกล่าวชี้แจงด้วยวาจาของฝ่ายไทยรอบแรกเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา นายปีเตอร์ ทอมกา ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงรับรองให้กับคณะผู้แทนจากไทยและกัมพูชา โดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า บรรยากาศในงานเลี้ยงรับรองที่ศาลจัดขึ้นเป็นไปด้วยดี และนายฮอร์ นัมฮง ยังบอกกับตนว่าทีมทนายไทยทำได้ดี
เขาบอกว่า ได้สอบถามผู้พิพากษาอับดุลคาวิ ว่าคำถามที่ท่านยกขึ้นมาถามให้ไทยและกัมพูชาอธิบายเรื่อง "บริเวณใกล้เคียง" หรือ vicinity เป็นคำถามส่วนตัวหรือคำถามขององค์คณะผู้พิพากษาศาลทั้งหมด ได้คำตอบว่าเป็นคำถามส่วนตัว เพราะท่านอยากทราบเหตุผลให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น หลังจากที่ไทยและกัมพูชาได้เขียนคำอธิบายไปยังศาลแล้ว ก็จะมีการแจกให้ผู้พิพากษาทุกท่านได้ทราบไปพร้อมๆ กัน
นายสุรพงษ์กล่าวด้วยว่า ไทยจ้างทีมผู้เชี่ยวชาญศึกษาและทำเรื่องแผนที่โดยเฉพาะมา 3 ปีเต็ม จึงเห็นได้ว่ารายละเอียดของเรามีมาก ไม้เด็ดของเราคือแผนที่ แต่ก่อนหน้านี้เราพูดไม่ได้ จากการขึ้นชี้แจงของไทยเมื่อวันที่ 17 เมษายน ชี้ให้เห็นชัดว่าเราทำงานมาหมด ทุกประเด็นที่คนในประเทศหยิบยกขึ้นมาวิจารณ์ เรามีหมดแล้ว แต่ไม่ได้พูด
"ที่ผ่านมาผมฟังแล้วอัดอั้นตันใจ แต่ใครจะว่าผมไม่รู้เรื่องก็ช่างมัน ไม่เช่นนั้นเขาก็จะรู้หมด เพราะถึงวันนี้มันก็พิสูจน์แล้ว" นายสุรพงษ์กล่าว
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เท่าที่ดูเราหักล้างได้ดีทั้งในเหตุผลทางกฎหมายและข้อเท็จจริง แต่ต้องรอดูว่าฝ่ายกัมพูชาจะหักล้างสิ่งที่ไทยชี้แจงอย่างไร อย่างไรก็ดี ในการชี้แจงรอบสองของกัมพูชา การอ้างอิงเอกสารต่างๆ ต้องอยู่ในสิ่งที่กัมพูชาได้นำเสนอต่อศาลไปแล้วเท่านั้น เว้นแต่สิ่งที่เรียกว่าเป็นเอกสารสาธารณะ อาทิ ข่าว นิตยสาร หรือบทความทางวิชาการเท่านั้น
ยิ่งลักษณ์ดำน้ำ
ส่วนท่าที น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พอใจการให้การของทีมทนายความ เพราะได้ให้การต่อสู้ในทุกประเด็น และทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เราได้คาดหมายไว้ ส่วนการประเมินภาพรวมการแถลง รวมถึงแนวทางตัดสินนั้น คงไม่สามารถบอกคำตอบได้ แต่เรามีความเชื่อมั่น เนื่องจากข้อมูลต่างๆ และการให้ถ้อยคำด้วยวาจา ที่ทีมทนายได้ทำอย่างเต็มที่ สามารถตอบโต้ในทุกประเด็น และเชื่อว่าทางศาลโลกคงมีแนวทางตัดสินที่ทำให้เกิดความสงบสุข
อย่างไรก็ตามนายกฯ บอกว่า ตั้งแต่คืนที่ 17 เม.ย. ไม่ได้มีการพูดคุยกับทีมทนาย แต่ก็เชื่อมั่นในแง่ของการต่อสู้ที่ยังเป็นไปตามที่ทีมทนายคาดหวังไว้ และในเรื่องของข้อมูลและแนวพิกัดต่างๆ เราก็มีพร้อมที่จะชี้แจง
ส่วนจะได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไรกับการที่ศาลให้ส่งพิกัดแผนที่ไปนั้น
ถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าการที่ศาลโลกให้ส่งพิกัดแผนที่ดังกล่าว อาจจะมีแนวโน้มว่าจะรับพิจารณาคดี นายกฯ ตอบว่า ไม่หรอกค่ะ ในแง่ของศาลคงต้องการเอาข้อเท็จจริงไปศึกษา เพราะอันนี้เป็นการให้ถ้อยคำโดยวาจา คงต้องส่งข้อมูลหลักฐานพยานต่างๆ และยืนยันว่าเรามีหลักฐานทั้งหมดพร้อมที่จะส่งอยู่แล้ว
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เราพึงระวังอยู่แล้ว และเราก็มองว่าการต่อสู้คดีก็ต้องทำอย่างเต็มที่ ในทางด้านของการรักษาความสัมพันธ์ ก็ต้องรักษาความสัมพันธ์ เพื่อไม่ให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งต่างๆ ต่างคนก็ต้องทำหน้าที่ของตนไป เราก็ต้องทำหน้าที่ในศาลอย่างเต็มที่ และหวังว่าศาลจะพิจารณาให้มีทางออกที่สันติและทำให้ทุกอย่างเดินหน้าได้
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงได้เตรียมพร้อมมาระยะหนึ่งแล้ว โดยระมัดระวังในหลายเรื่อง ตนคิดว่าคงไม่เหมาะสมที่จะมีการเปิดเผยในทุกเรื่อง แต่ควรดำเนินการเป็นการภายใน ทั้งการเตรียมการป้องกันอุบัติเหตุ อุบัติภัย หรือการเข้าไปก่อเหตุในพื้นที่ โดยการเตรียมพร้อมทำไว้ 3 ระดับ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เชื่อว่าน่าจะสามารถดูแลสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ดี ขอให้รอฟังคำวินิจฉัยของศาลก่อนที่จะมีการดำเนินการในเรื่องใด
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า รัฐบาลนายสมัครได้ปกป้องดินแดนพื้นที่ทับซ้อนไว้ และนี่คือแนวทางของคำแถลงการณ์ร่วม ซึ่งทีมกฎหมายไทยชุดปัจจุบันก็เห็นว่าเป็นประโยชน์ในการต่อสู้คดี แปลกใจที่ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ถึงไม่เอาเรื่องนี้มาพูดบ้าง แต่พอทนายกัมพูชาใส่ร้ายรัฐบาลไทยในอดีตที่เป็นฝ่ายตรงข้าม กลับนำเรื่องนี้มาดิสเครดิตกัน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความชื่นชมท่านทูตวีรชัย พลาศรัย และคณะ
จุดแข็งก็คือการตอกย้ำว่ากัมพูชาพยายามที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เมื่อคราวที่แล้ว แล้วก็เลยพยายามจะมาอ้างว่ามาขอความชัดเจน ทั้งๆ ที่ความจริงเป็นการขอให้ศาลตัดสินใหม่ในสิ่งที่เขาตัดสินไปแล้ว ก็คือว่าศาลไม่มาตัดสินเรื่องเขตแดน ศาลไม่มารับรองแผนที่ของทางกัมพูชา เพราะฉะนั้นการต่อสู้ก็อยู่ตรงนี้
"มาร์ค" ย้ำ MOU 43
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า MOU 43 เป็นเอกสารที่ยืนยันว่าทางกัมพูชาเอง ซึ่งมาเซ็นกับเรายอมรับว่ากระบวนการการจัดทำหลักเขตแดนมันจำเป็น และการยึดเอาแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน โดยที่จะให้กัมพูชาไปคิดเอาเองตามใจชอบเหมือนกับที่พยายามบอกศาลอยู่ในขณะนี้นั้นไม่ได้ เพราะมันต้องไปยึดตัวสนธิสัญญา เรื่องสันปันน้ำ แล้วมันก็จะต้องมาเกี่ยวข้องกับการจัดทำแผนที่ใหม่ ในทางเทคนิค
แต่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ระบุว่า ที่รบกวนจิตใจมาก แต่ไม่ค่อยอยากพูดในยามหน้าศึกก็คือ วันนี้เราเห็นแล้วว่าเราฉีก annex 1 map เป็นชิ้นๆ ได้อย่างนี้ ไม่ใช่ด้วยข้อต่อสู้ที่เพิ่งค้นพบนะ แต่เป็นหลักฐานเก่าตั้งแต่ปี 2505 แล้วทำไมเมื่อปี 2543 เราไปทำเอ็มโอยูกับกัมพูชายอมรับมันไว้ในข้อ 1 (c) และวันนี้เราก็ยังเอา MOU 43 มาใช้ประโยชน์ในการต่อสู้คดีแบบแปลกๆ ตรรกะนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ ในที่สุด annex 1 map ก็จะเป็น "ตัวหาร" ให้เราเสียดินแดนในอนาคตอยู่ดี แม้จะไม่มากเท่าที่ annex 1 map ขีดไว้ก็ตาม
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แถลงหลังประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพว่า ได้ติดตามและทราบว่าทั้งฝั่งโน้นและฝั่งนี้ระบุว่า ไม่ว่าคำตัดสินออกมาอย่างไร ก็ยังเป็นเพื่อนกัน สนิทกันได้ ทุกคนรู้อยู่แล้ว ไม่อยากพูดเยอะ เพราะพูดเยอะจะไม่ดี เรามีเอ็มโอยู 43 อยู่ ดังนั้นต้องรอผลสรุปที่จะออกมา
ที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) การแถลงทางวาจารอบที่สองโดยฝ่ายกัมพูชาเริ่มต้นขึ้นในเวลา 20.00 น. คืนวันพฤหัสบดี ตามเวลาประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น