วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556

"จิบกาแฟ-ฟังศาล" ก่อนรัฐบาลล่ม? จาก ไทยโฟสต์ เมื่อ 16 เม.ย.56


"จิบกาแฟ-ฟังศาล" ก่อนรัฐบาลล่ม?



 ไม่ใช่ศาลไคฟง แต่เป็น "ศาลโลก" เปิดแล้วเมื่อวาน (๑๕ เม.ย.๕๖) เข้าใจว่าคงได้ดู-ได้ฟังถ่ายสดที่เขมร โดยนายฮอร์ นัมฮง และทีมทนายชาวอังกฤษ-ฝรั่งเศส-อเมริกัน เป็นฝ่ายขึ้นให้การก่อนด้วยวาจา กระทรวงต่างประเทศของไทยกระฉับกระเฉง สลับ "พากย์ไทย" เสียงในฟิล์มให้เข้าใจกันตลอด ๔ ชั่วโมงครึ่ง ผมล่ะติดใจเสียงนักพากย์หญิงจนอยากเห็นหน้า เพราะลีลาพากย์ฝรั่งเศสเป็นไทยของเธอ บอกได้คำเดียว......."ปวดตับ" จริงๆ
    ฟังบ้าง หลับบ้าง ตื่นขึ้นมาจิบกาแฟแกล้มคุกกี้ที่ "คุณกุลเสฏฐ์ หอวงศ์รัตนะ" แห่ง KASEMKIJ ส่งมาสวัสดีวันสงกรานต์บ้าง จน ๖ โมงเย็น ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อ ชาติเชื้อไทย... 
    สรุปว่า...สงกรานต์อิทธิพลแรงกว่าตรุษจีน!
    เพราะสงกรานต์ "ปิดร้าน" กันหมด จนผมอดข้าวมา ๓-๔ วันแล้ว สมัยก่อนที่ว่า ตรุษจีนทีไร ประเทศไทยเหมือนเมืองร้าง เพราะร้านค้า-ร้านขาย ซึ่งเป็นคนจีนส่วนใหญ่พากันปิดร้านพาเงินไปเที่ยว แต่เดี๋ยวนี้กลับกัน ตรุษจีน...คนจีนไม่หยุด
    แต่ตรุษไทย ทั้งไทย-ทั้งจีน ปิดร้าน-ปิดบ้าน ไปฉลองสงกรานต์กันเรียบ!
    ท่านฟังฝ่ายเขมร โดยเฉพาะนายฮอร์ นัมฮง รองนายกฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศเขมร "เปิดคดี" กล่าวหาไทยจบแล้ว มีปฏิกิริยาตอบสนองในใจยังไงบ้างครับ คุยให้ผมฟังบ้างก็ได้ เก็บไว้ให้มันเหม็นคาวใจตัวเองไปทำไม เรื่องที่มีดินแดนเป็นเดิมพันอย่างนี้
    มันต้องสามัคคีแอคชั่นกันหน่อยยยย จริงมั้ย!
    ดูอย่างท่านรัฐมนตรีปึ้ง โป๊งเหน่ง ของเราซิ แสดงความกระตือรือร้นด้วยสายเลือดไทย โจนขึ้นนั่งเป็นหนุ่มแถวหน้าในศาล สวมหูฟังขะมักเขม้น เคียงข้างท่านทูตวีรชัย พลาศรัย "เดี่ยวมือหนึ่ง" ที่คนไทยทั้งประเทศ "เทหน้าตัก" เป็นเดิมพัน อยู่ที่ท่านคนเดียว
    วันที่ ๑๕ เมษา เป็นวัน "เขมรเดย์" วันนี้...ที่ ๑๖ เมษา หลีกทางให้แทง "หวยยิ่งลักษณ์" หนึ่งวัน หมดตูดกันดีแล้ว พรุ่งนี้ ๑๗ เมษา เป็นวัน "ไทยเดย์"
    ท่านทูตวีรชัย พลาศรัย และทีมทนายจะขึ้นแถลงแย้งโต้ด้วยวาจา เขมรใช้เวลา ๔ ชม.ครึ่ง ทั้งกล่าวหา ทั้งปั้นน้ำเป็นตัวให้ศาลโลกฟัง ไทยเราก็จะใช้เวลา ๔ ชั่วโมงครึ่งเหมือนกัน 
    การเป็นฝ่ายถูกฟ้องนี่ก็ดีอย่าง คือมีโอกาสได้ฟัง-ได้รู้ว่า ฝ่ายผู้ฟ้อง เขามาไม้ไหน ฟ้องด้วยเจตนาใด และหยิบประเด็นไหนขึ้นมาโป้ปดมดเท็จเป็นทีเด็ดหวังน็อกเรา
    วันนี้ทั้งวัน ทีมไทยมีโอกาสนำ "โจทก์เขมร" มาขยี้ตีแตก เสริมเติมการบ้านที่ทำมาดีแล้วให้รัดกุมยิ่งขึ้น ปิดช่อง-ปิดมุม ที่เขายกมาใส่ฟืน-ใส่ไฟ เพื่อนำไปส่งครูศาลโลกพรุ่งนี้ที่ ๑๗ เมษา
    ผมคิดว่า นักชกไทย โดยท่านทูตวีรชัยขึ้นเวที แฟนๆ จะแน่นโรงยิ่งกว่ารายการพ่อมากพระโขนง ยิ่งทีมบัวแก้วให้เสียงภาษาไทยด้วยแล้ว แจ๋ว...ครบเครื่อง!
    ทีมไทยมีใครบ้างล่ะ...ก็เป็นชุดที่ตั้งไว้แต่สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ นำทีมโดยท่านทูตวีรชัย พลาศรัย และอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย "คนปัจจุบัน" คือใคร ก็คนนั้น ปัจจุบันที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อกันยา ๕๕ คือ นายวรเดช วีระเวคิน
    ที่ปรึกษากฎหมายต่างชาติอีก ๓ คน คือ ศ.อแลง แปลเลต์ ชาวฝรั่งเศส ศ.โดนัลด์ แมคเรย์ ชาวแคนาดา และ ศ.เจมส์ ครอวส์ฟอร์ด ชาวออสเตรเลีย ล้วนเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายมากประสบการณ์ทั้งสิ้น
    นอกจากนี้แล้ว ใครที่เป็น รมว.ต่างประเทศ รมว.กลาโหม เลขาฯ กฤษฎีกา อัยการสูงลิ่ว ผบ.ทบ. เจ้ากรมแผนที่ทหาร และ ผอ.กองเขตแดน ร่วมเป็นคณะสู้ศึกที่ศาลโลกด้วย
    ท่านปึ้ง-คุณสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เป็น รมว.ต่างประเทศ และท่านโอ๋-พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เป็น รมว.กลาโหม จึงเห็นท่านยกคณะโบยบินจากไทยไปกรุงเฮกวันก่อนนั่นไง
    ในความรู้สึกของผม หลังจากฟังฝ่ายเขมรขึ้นแถลงใส่สีตีไข่จบแล้ว บอกได้คำเดียวว่า บ่มิไก๊ ไม่มีอะไรใหม่ที่ทำให้ฝ่ายไทยต้องตื่นเต้นจนเป็นไข้จับไข่สั่น ถ้าเป็นมวยบนเวที ก็ต้องบอกว่า "ไม่มีลำหัก-ลำโค่น" มีแต่ประเด็นเดิมๆ ที่รู้กัน เพิ่มเติมหน่อย ก็ตรงที่ทนายฝรั่งปั้นน้ำเป็นตัวกล่าวหาไทย อย่างเช่นประเด็นที่เขมรวางแผนส่งคนมาบุกรุกสร้างบ้าน-สร้างวัดแก้วสิขาคีรีสวาระขึ้นในพื้นที่ ๔.๖ ตารางกิโลเมตรของไทย เพื่ออ้างอิงเป็นเงื่อนไขตั้งแต่ปี ๒๕๓๙-๒๕๔๑
    ฝ่ายทหาร ฝ่ายกระทรวงต่างประเทศ ได้ยื่นหนังสือทักท้วงไปแล้วหลายครั้ง-หลายหน จนที่สุดมีการตกลงตั้งคณะกรรมการปักปันเขตแดนร่วมกันให้ชัดเจน MOU ๒๕๔๓ แต่สดๆ ร้อนๆ เฉพาะหน้า ผมค้นหลักฐานประท้วงมาให้ดูไม่ทัน ไม่รู้ซุกไว้ตรงไหน เพราะซุกจนรกไปหมด 
    ทนายฝรั่งมันกลับแถลงต่อศาลหน้าตาเฉยว่า...ไทยไม่เคยทักท้วงอะไรเลย!?
    ที่ว่าไม่ทักท้วงเห็นจะเป็นยุคทักษิณ เมื่อปี ๒๕๔๔ นั่นแหละ ถึงตัวทักษิณไม่ท้วง แต่ฝ่ายทหารเขายื่นหนังสือท้วงการรุกล้ำเข้ามาตั้งบ้านเรือนของเขมรตลอด ที่ว่าตลอด คือไม่ใช่หนเดียว ท้วงไปเป็นระยะหลายหน 
    จึงไม่แปลกที่ทนายฝรั่งชมเปาะว่า ยุครัฐบาลทักษิณดี ไม่มีปัญหา ทำนองว่า เขมรทำอะไร รัฐบาลทักษิณก็เอาหูไปนา-เอาตาไปไร่ ประมาณนั้น 
    ก็จะไม่เอาหูไปนา-เอาตาไปไร่ได้ไง ทักษิณ-ฮุน เซน ตอนนั้น เขามีแผน "รวยร่วมกัน" กับพื้นที่บริเวณนั้น ทั้งลับ-ทั้งแจ้งหลายอย่าง
    ถึงขั้นประชุม ครม.ร่วม "ไทย-เขมร" ตั้งคณะกรรมการพัฒนาเขาพระวิหาร พัฒนาบูรณะปราสาทพระวิหารร่วมกัน แต่ทั้งหมดนั้น ฮุน เซน เกี่ยงนิดๆ ว่า....
     ไทยต้องหนุนให้เขาได้เอาปราสาทพระวิหารขึ้นตีทะเบียนเป็นมรดกโลกก่อน ฝ่ายทักษิณ โดยกระทรวงต่างประเทศก็...เออน่ะ...พัฒนาร่วมกัน ตีก็ตีทะเบียนร่วมกัน มีข้อตกลงร่วมอยู่แล้ว ค่อยๆ ปรึกษาหารือกันไปเรื่อยๆ แล้วกัน!
    แต่เพื่อนเรา-เผาเรือน ตอนปี ๒๕๔๙ ฮุน เซน ดอดไปยื่นยูเนสโก ขอเอาปราสาทพระวิหารขึ้นตีทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว โดยไม่บอก ไม่หารือกับฝ่ายไทยตามที่มี "มติ ครม.ร่วม" กันไว้เลย
    เหล่านี้คือ "ข้อจริง" ที่ฝ่ายเขมรไม่พูด แต่ไปแต่ง "ข้อเท็จ" จาระไนในศาล ยิ่งที่นายฮอร์ นัมฮง บอกว่าไทยสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ใช้กำลังทหารบุกรุกเขมร หวังทำลายปราสาทพระวิหารด้วยแล้ว
    "โกหกโลก" กลางแดดชัดๆ!
    ผมขี้เกียจจาระไนที่เขาร่ายยาวในศาลอีกมากมายหลายประเด็น ท่านก็ฟังเอา-หาอ่านเอาจากข่าวบ้างก็แล้วกัน แต่อยากบอกว่า การเอาคดีเก่ามายื่นให้ศาลตีความโดยไม่มีประเด็นใหม่อะไรเลยนั้น 
    ถ้าศาลโลกยึดหลักกฎหมายเป็นบรรทัดฐานวินิจฉัย โอกาสที่ศาลจะไม่รับคดีมีมาก หรือถ้ารับ ก็น่าจะให้ทั้งสองฝ่ายกลับไปใช้ช่องทางเจรจาปักปันเขตแดนร่วมกัน ตาม MOU ๒๕๔๓!
    แต่ที่น่าระคางใจก็คือ ศาลโลกจะใช้กฎหมายตัดสิน หรือใช้ธงตัดสิน...อย่าลืมว่า โลกวันนี้ ความยุติธรรมอยู่ที่ "ตีนใหญ่" เขาจะมุ่งประโยชน์จากฝ่ายไหนเป็นหลัก!?
    ถ้างั้น ทำความรู้จัก "องค์คณะ" ผู้พิพากษาศาลโลกทั้ง ๑๕ ท่านไว้หน่อยปะไร
    ๑.ปีเตอร์ ทอมกา (สโลวาเกีย) ประธานศาล
    ๒.เบอร์นาร์โด เซพูลเวดา-อะมอร์ (เม็กซิโก) รองประธานศาล 
    ๓.ฮิซาชิ โอวาดะ (ญี่ปุ่น) 
    ๔.รอนนี อับราฮัม (ฝรั่งเศส) 
    ๕.เคนเนธ คีธ (นิวซีแลนด์) 
    ๖.โมฮาเม็ด เบนนูนา (โมร็อกโก) 
    ๗.ลีโอนิด สกอตนิคอฟ (รัสเซีย) 
    ๘.อันโตนิโอ เอ กันฌาโด ตรินดาเด (บราซิล) 
    ๙.อับดุลคาวิ อะห์เม็ด ยูซูฟ (โซมาเลีย)
    ๑๐.คริสโตเฟอร์ กรีนวูด (สหราชอาณาจักร) 
    ๑๑.ชเว๋ ฮั่นฉิน (จีน)
    ๑๒.โจอัน อี ดอนอก์ฮิว (สหรัฐ)
    ๑๓.จีออร์จีโอ กาญา (อิตาลี) 
    ๑๔.จูเลีย เซบูตินเด (ยูกันดา) 
    ๑๕.ผู้พิพากษา ดัลเวียร์ บันดาริ (อินเดีย) 
    - ผู้พิพากษาเฉพาะกิจ ที่ไทยแต่งตั้งในคดีนี้
    นายฌอง-ปิแอร์ ค็อต (ฝรั่งเศส) ผู้พิพากษา 
    - ผู้พิพากษาเฉพาะกิจ ที่เขมรแต่งตั้งในคดีนี้
    นายกิลแบร์ กีโยม (ฝรั่งเศส) ผู้พิพากษา 
    ทั้งหมดนี้ ดูไว้...อย่าเพิ่ง "ตีตนก่อนไข้" ไปเลย อีกตั้ง ๕-๖ เดือนกว่าศาลจะตัดสิน เอาที่จะชี้เป็น-ชี้ตายรัฐบาลวันปะรืน (๑๘ เม.ย.) ก่อนดีกว่า 
    กู้ ๒ ล้านล้าน ก็ใช้พวกมากลากได้แล้ว แก้รัฐธรรม ก็ใช้พวกมากลากได้แล้ว...ก็เหิมเกริม พวกเห็บหมา-เห็บแมว จะใช้พวกมาก "หักด่านประเทศไทย" ด้วยการดัน "พ.ร.บ.ล้างโทษทักษิณ" เข้าสภาฯ นี่คือการ เฮละโล-สาระพา
    "หามทักษิณกลับมารดน้ำเมืองไทย!?".

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น