วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556

วิเคราะห์การเมือง จากไทยโฟสต์ เมื่อ 10 เม.ย.56



แม้จะเข้าไคลช่วงเทศกาลแห่งความสุขหยุดยาวของคนไทยในช่วงสงกรานต์ก็ตามที แต่อุณหภูมิทั้งทางอากาศและการเมืองยังคงร้อนฉ่าเป็นอย่างสูง เพราะแค่เรื่องกรอบเวลาแปรญัตติชำเรารัฐธรรมนูญที่ “สภาฝักถั่ว” ได้ยกมือรับหลักการไปแล้ว ยังคงไม่สะเด็ดน้ำเสียที ตกลง 15 หรือ 60 วันกันแน่...๐ ในขณะที่ “สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์” ประธานรัฐสภาก็ยักแย่ยักยันโยนกลองไปที่วิป แต่สุดท้ายก็จะใช้อำนาจประธานรัฐสภาเรียกประชุมเพื่อให้เรื่องดังกล่าวเสร็จสิ้น พิโธ่! ถ้าใช้อำนาจที่มีตั้งแต่ต้น เรื่องก็ไม่เป็นเรื่องมานานแล้ว หรือเพราะต้องเรียกราคาตัวเองเหมือนเมื่อคราวมีคลิปแสดงความเจ๋งของตัวเองอีกละเนี่ย...๐ นอกจากเรื่อง “รัฐธรรมนูญ” ที่ต้องติดตามแบบห้ามกะพริบตา โดยเฉพาะในเรื่องการแก้ไขมาตรา 68 แล้ว เรื่อง “ไฟใต้” ก็น่าติดตามอย่างยิ่ง เพราะกรณีลอบวางระเบิดจนทำให้ “รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา” เสียชีวิตนั้น ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา เพราะเป็นข้าราชการระดับสูง โดยเฉพาะ ประเด็นว่า “หนอนบ่อนไส้” นั้น หากมีจริงก็ต้องรีบควานหาตัว ออกมาก่อนโศกนาฏกรรมจะมีอีกพะเรอเกวียน...๐ เช่นเดียวกับการเจรจากลับกลุ่มบีอาร์เอ็นที่รัฐบาล โดยเฉพาะ “พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร” เลขาธิการ สมช.กระเหี้ยนกระหือรือเสียเหลือเกิน ที่นับวันก็เริ่มมีเรื่องน่าฉงนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า คนที่มาเจรจานั้นมีอำนาจและอิทธิพลต่อกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ก่อเหตุจริงหรือไม่ การจะมาอ้างว่าต้องใช้เวลา ใช้ความอดทนในการเจรจาอย่างเดียว คงไม่สามารถสร้างความชอบธรรมได้พอ หรอก จริงมั้ย เพราะหากจะให้แฟร์จริง บรรดาทั่นผู้ทรงเกียรติก็ลงไปอยู่อาศัยในพื้นที่ 3 จังหวัดดูสิ แล้วจะรู้ว่า จะกล้าอ้างเรื่องการอดทนได้มากน้อยเพียงใด...๐ นี่ยังไม่รวมกับการต้องรอผลการเลือกตั้งมาเลเซีย หลังจาก “นาจิบ ราซัก” นายกฯ มาเลเซีย ได้ประกาศยุบสภาไปเมื่อวันที่ 3 เม.ย. และกำหนดจัดวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 5 พ.ค.นี้อีก ทั้งที่เดิมทั้ง “ภราดร” หรือ แม้กระทั่ง “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” รองนายกฯ เสียงแข็งขันว่ายังยืนกำหนดเดิม 29 เม.ย.นี้ แต่ไปๆ มาๆ ก็เริ่มแปร่งปร่าว่าต้องรอผลการเลือกตั้งมาเลย์แล้วเสร็จ ตกลงว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศไทยหรือประเทศมาเลย์กันแน่ แล้วยังมีคำถามค้างคาอีกว่า หากผลการเลือกตั้ง “พรรคอัมโน” ไม่ได้ชัยชนะขึ้นมา แล้วจะเกิดผลอะไรกับการเจรจาจ๊ะ...๐ หันมาเรื่องเหตุการณ์ครบรอบ 3 ปี การระลึกเหตุการณ์สี่แยกคอกวัวบ้าง แหม! คนเสื้อแดงอุตส่าห์จัดงานระลึกทั้งที ก็น่าจะไขข้อข้องใจคนทั้งประเทศว่า “พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม” อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.21 รอ.) เสียชีวิตด้วยน้ำมือใคร เพราะล่าสุดผลการศึกษาของ อนุ กมธ.วุฒิสภาก็บอกชัดแจ้งว่าเป็นผลงานที่เกี่ยวข้องกับ “ชายชุดดำ” ที่คนเสื้อแดงปฏิเสธเสียเหลือเกินว่าไม่มี้ไม่มี ทั้งที่คนทั่งโลกต่างเห็นว่ามี นี่ยังไม่รวมกรณีน่าสนใจถึง ผู้เสียชีวิต 26 รายที่พบในวันดังกล่าวอีก เพราะอนุ กมธ.ชี้ว่ารอยเลือดหรือดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุนั้น ไม่ตรงกัน และขัดกับผลการตรวจสอบ!!!...๐ และที่สำคัญคือ กรณีเรื่อยๆ มาเรียงๆ ของ “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” ในกรณีนี้อีกต่างหาก ซึ่ง “ธาริต เพ็งดิษฐ์” ก็ใช้หลักการพลิ้วตามเคยว่า ไม่ได้ชักช้า มีความคืบหน้าต่อเนื่อง โธ่! ถัง คืบหน้าอะไรพ่อคุณ ไม่เห็นมีการฟ้องร้องอะไรเลย แล้วการอ้างว่า “กองกำลังไม่ทราบฝ่าย” นั้น ขอโทษเถอะ ระวังสีข้างถลอกนะพ่อคุณ แล้วหากจะอ้างอย่างนั้นก็อ้างว่า “มือที่สาม” ไปเลยให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ไม่ดีกว่าเหรอ...๐ แปลกแต่จริง “ค่าเงินบาท” ทำไมมักวนเวียนกับคนตระกูลชินวัตรเสียเหลือเกิน เพราะตอนลดค่าเงินบาท จนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ก็มีชื่อ “คนหน้าเหลี่ยม” เข้ามาวนเวียน ล่าสุดเงินบาทแข็งขึ้นในรอบ 16 ปี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกฯ ก็เรียกประชุมด่วนเพื่อหารือ ไม่อยากคิดเลยว่า หากอยู่ในช่วงกู้ 2 ล้านล้านบาท แล้วมีปัญหาประมาณนี้ ไทยจะเอาอะไรเป็นหลักประกัน เพราะเงินคงคลังก็ถูกล้วงถูกควักไปสนอง “ประชานิยม” ในขณะที่หนี้ก็พอกทั้งประเทศ งานนี้คงได้แต่ภาวนาว่า นับจากนี้ 7 ปี ทั้งโลกอย่าเกิดวิกฤติเศรษฐกิจใดๆ เลยพ่อคุณ...๐ มีคนข้องใจอย่างมากกับนโยบายการเสียภาษีของ “กรมสรรพากร” โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องเสียภาษีเพิ่มเติม ซึ่งผู้เสียภาษีต้องไปจ่ายที่ธนาคารพาณิชย์เอง ทำไมต้องเสียค่าธรรมเนียม 15 บาท ด้วย งานนี้ “กรมสรรพากร” รู้เห็นเป็นใจหารายได้ให้กับภาคเอกชนหรือไม่อย่างไร นี่ยังไม่นับรวมค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เวลาไปจ่ายที่เคาน์เตอร์แบงก์ ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก ทั้งที่การจ่ายผ่านธนาคารนั้นช่วยลดต้นทุนกระดาษ หมึกพิมพ์ รวมทั้งลดเวลาไปพะเรอเกวียน  กลับมีการคิดค่าโน่นค่านี่ อย่างนี้จะเรียกว่า การหลอกแดกชาวบ้านแบบออนไลน์ได้ไหมจ๊ะ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น