วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

รวบแล้วอีก 1 มือระเบิด “บอสตัน มาราธอน” เมื่อ 21 เม.ย.56



รวบแล้วอีก 1 มือระเบิด “บอสตัน มาราธอน”
 
เจ้าหน้าที่เอฟบีไอและตำรวจรัฐแมสซาชูเซตส์ สามารถจับกุม นายโชการ์ ซาร์นาเยฟ 1 ใน 2 มือระเบิด "บอสตัน มาราธอน" ได้แล้ว

หลังใช้เวลาไล่ล่าตัวนาน 1 วัน 
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองวอเทอร์ทาวน์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ว่า 1 ใน 2 คนร้ายก่อเหตุวินาศกรรมวางระเบิดที่จุดเข้าเส้นชัยของการแข่งขันกรีฑาประจำปี “บอสตัน มาราธอน” ถูกจับกุมแล้ว

สำนักงานตำรวจเมืองบอสตันประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายโชการ์ ซาร์นาเยฟ วัย 19 ปี หนึ่งในผู้ต้องสงสัยเป็นมือระเบิดได้แล้ว ขณะที่ผู้ต้องสงสัยอีกราย คือนายทาเมอร์ลัน ซาร์นาเยฟ วัย 26 ปี พี่ชายร่วมสายเลือดของโชการ์ เสียชีวิตแล้วเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 18 เม.ย. ในปฏิบัติการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐ ( เอฟบีไอ ) พร้อมกำลังตำรวจรัฐแมสซาชูเซตส์ รุดไปยังบ้านหลังหนึ่ง ที่ตั้งอยู่บนถนนแฟรงคลิน เมืองวอเทอร์ทาวน์ หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่า พบคราบเลือด และชายซึ่งคาดว่าเป็นคนร้าย กำลังหลบซ่อนอยู่ภายในเรือของตน

รายงานของสื่อสหรัฐแทบทุกแห่งที่ส่งผู้สื่อข่าวติดตามเจ้าหน้าที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าว ระบุว่า 
ทันทีที่เจ้าหน้าที่นับร้อยคนเดินทางถึงที่เกิดเหตุ มีเสียงปืนและเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าเป็นการยิงต่อสู้กันระหว่างทั้งสองฝ่าย เจ้าหน้าที่กันสื่อมวลชนและประชาชนที่พยายามมามุงดู ให้ออกนอกพื้นที่ให้หมด ก่อนที่จะมีเสียงเจ้าหน้าที่ตะโกนออกมาว่า “จับได้แล้ว!” พร้อมกับเร่งส่งตัวโชการ์ไปยังโรงพยาบาล เนื่องจากเด็กหนุ่มอยู่ในสภาพอิดโรยอย่างหนัก และตามร่างกายเปียกโชกไปด้วยเลือด


เหตุการณ์ระทึกขวัญดังกล่าว จบลงหลังผ่านไปกว่า 22 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เอฟบีไอได้รับแจ้งเหตุมีเสียงปืนดังขึ้นภายในสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ( เอ็มไอที ) จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ ที่ตามด้วยการต่อสู้กับกลุ่มคนร้าย 2 คน ซึ่งในขณะนั้นยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ทั้งนี้ การดวลปืนที่เอ็มไอทีเป็นเหตุให้ตำรวจรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยเสียชีวิต 1 ศพ

หลังจากนั้น มือปืนทั้งคู่ก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์คันหนึ่งเพื่อใช้เป็นพาหนะหลบหนี ขณะที่เจ้าหน้าที่ไล่กวดอย่างไม่ลดละ

แม้กลุ่มคนร้ายจะทั้งยิงต่อสู้และขว้างระเบิดใส่ แต่เจ้าหน้าที่สามารถยิงสวนกลับถูก 1 ใน 2 คนร้าย และสกัดการหลบหนีได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม คนร้ายรายหนึ่งอาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีไปได้ ส่วนผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตในภายหลังที่โรงพยาบาล กลับสร้างความตกตะลึงให้แก่เจ้าหน้าที่ เมื่อมีรูปพรรณสัณฐานตรงกับ “ผู้ต้องสงสัยหมายเลข 1” ในคดีวางระเบิด “บอสตัน มาราธอน”เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไป 3 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 180 ราย สร้างความมั่นใจให้แก่เจ้าหน้าที่ว่า ผู้ที่หลบหนีต้องเป็น “ผู้ต้องสงสัยหมายเลข 2” อย่างแน่นอน”


ต่อมาปฏิบัติการ “ปิดตาย”เมืองวอเทอร์ทาวน์ ที่เป็นจุดสกัดรถคนร้าย ตลอดจนเมืองบอสตัน และพื้นที่ใกล้เคียงจึงเริ่มขึ้น 
เจ้าหน้าที่หลายพันนายกระจายกำลังตรวจค้นบ้านทีละหลัง เพื่อค้นหาตัวคนร้ายที่ยังคงหลับหนี ซึ่งเอฟบีไอเผยว่า เป็นน้องชายของคนร้ายที่เสียชีวิตไปแล้ว และเป็นชาวสาธารณรัฐเชชเนีย ดินแดนปกครองตนเองของรัสเซีย ขณะที่นายรัสลัน ทซาร์นีย์ ลุงของโชการ์ ซึ่งอาศัยอยู่ในรัฐแมริแลนด์ ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรทัศน์ทุกช่อง ขอให้หลานชายมอบตัว เวลาล่วงเลยไป จนเจ้าหน้าที่เริ่มหมดหวัง แต่ในที่สุดก็ได้รับแจ้งเหตุจากเจ้าของบ้านบนถนนแฟรงคลิน ที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดได้สำเร็จ
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น