วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556

สรุปข่าวการเมือง เมื่อ ๑๘ มี.ค.๕๖



สรุปข่าวเมื่อ ๑๘ มี.ค.๕๖
เมื่อ ๑๖ มี.ค.๕๖  พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ปธ.กกต.กทม. กล่าวถึงข่าวใหญ่สำหรับการประชุม กกต.กทม.ใน ๒๐ มี.ค.๕๖ นี้ ว่า คงไม่ได้เป็นเรื่องที่ตนจะลาออกจากประธาน กกต.กทม. แต่จะเป็นกรณีที่ที่ประชุม กกต.กทม. ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของ กกต.กทม. เร่งสรุปเรื่องร้องคัดค้านทั้งหมด ร่วมถึงคำร้องคัดค้านของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ได้รับการเลือกตั้งทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง มาให้ที่ประชุม กกต.กทม.ได้พิจารณาว่ามีทั้งหมดกี่คำร้อง อีกทั้งจะมีการประชุมว่าจะรับไว้เป็นคำร้องเพื่อวินิจฉัยกี่คำร้อง และจะมีผลให้ ม.ร.ว.   สุขุมพันธุ์ ได้รับการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม กกต.กทม.กันใน ๒๐ มี.ค.๕๖ นี้
ส่วนประเด็นเรื่องการลาออกจาก กกต.กทม. นั้น  พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ยืนยันตนจะลาออกเฉพาะตำแหน่งประธาน กกต.กทม.เท่านั้น ส่วนตำแหน่ง กกต.กทม.ยังอยู่ เพราะเป็นการตกลงร่วมกันระหว่าง กกต.กทม. ด้วยกัน ว่า หากใครได้เป็น ประธาน กกต.กทม. แล้วรับผิดชอบการเลือกตั้งใดเสร็จสิ้นแล้วก็ควรที่จะสลับให้คนที่ยังไม่ได้เป็นขึ้นมาทำหน้าที่บ้าง ซึ่งขณะนี้ตนก็ได้รับผิดชอบในการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็น่าจะให้คนอื่นขึ้นมาทำหน้าที่บ้าง ซึ่งในที่ประชุม กกต.กทม. วันที่ ๒๐ มีนาคมนี้ ก็จะพูดคุยกับ กกต.กทม.คนอื่นๆดูว่า ถ้าตนจะลาออกแล้วจะมีใครขึ้นมาทำหน้าที่หรือไม่ (ที่มา .ทีนิวส์)
             เมื่อ ๑๗ มี.ค.๕๖ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม.พรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีการเตรียมเสนอ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์หน้าว่า อาจทำให้มีความแตกแยกเกิดขึ้นในสังคมได้ เนื่องจาก ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าจะเกิดประโยชน์กับส่วนรวม และไม่สามารถตอบโจทย์ของสังคมได้ว่าผู้ที่จะได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงคือคนกลุ่มใด      
             ทั้งนี้ นายองอาจเห็นว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาลควรแสดงภาวะผู้นำ ด้วยการสั่งการให้ทั้งวิปรัฐบาล และ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ยุติการนำเสนอ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ถ้าหากไม่อยากให้อายุการทำงานของรัฐบาลสั้นลง     
             นอกจากนี้ นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีที่ กกต.กลาง ยังไม่รับรองให้  ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร เป็นผู้ว่าฯ กทม. โดยมั่นใจว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะได้รับการรับรองเป็น ผู้ว่าฯ กทม. เนื่องจากการพิจารณาคำร้องของ กกต.กทม. หากเห็นว่ามีมูล หรือหลักฐาน ที่ชัดเจนว่าจะส่งผลต่อการให้ใบเหลือง - แดงผู้สมัครฯรายใด คงจะต้องมีการเรียกผู้ถูกร้อง หรือผู้ใด ที่กระทำการอันเข้าข่ายต่อการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งตามคำร้องนั้น ไปชี้แจง แต่ กกต.กทม.ก็ไม่ได้เรียกผู้สมัครฯ หรือผู้ใดไปชี้แจง และส่งคำร้องดังกล่าวไปยัง กกต.กลางเลย จึงไม่น่าจะมีปัญหาในการรับรอง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯ กทม. ในท้ายที่สุด ส่วนผู้ที่พยายามสร้างกระแสว่าจะมีการพิจารณาให้ใบเหลือง-แดง แก่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ก็ควรที่จะหยุดและปล่อยให้เป็นไปตามครรลองของการพิจารณาตามกฎหมาย
             นายองอาจ กล่าวอีกว่า จากประสบการณ์การทำงานทั้งในระดับชาติ และท้องถิ่น ตนก็มั่นใจว่าไม่มีการกระทำใดเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง อีกทั้งศูนย์อำนวยการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์เอง ก็ระมัดระวังการกระทำที่เข้าข่ายต่อการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอยู่ตลอดเวลาการหาเสียง ซึ่งก็เชื่อว่า กกต.ทั้ง ๕ คน จะพิจารณา คำร้องอย่างสุจริต และเที่ยงธรรม เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ 
(ที่มา .ไอเอ็นเอ็น)




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น