วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

"เมดอินไชน่า" จรวดเขมรยิงเครื่องบินร่วงแน่ .. คลิปจากซีเรียยืนยัน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มีนาคม 2556 02:16 น.



"เมดอินไชน่า" จรวดเขมรยิงเครื่องบินร่วงแน่ .. คลิปจากซีเรียยืนยัน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์8 มีนาคม 2556 02:16 น.
       

       

       .
       
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- คลิปที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียนำออกเผยแพร่ปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำถามว่า อาวุธที่พวกเขาใช้ยิงเฮลิคอปเตอร์ของฝ่ายรัฐบาลตกไป 1 ลำ นั้นไปจากแหล่งใด มีการถกเถียงเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวางในเว็บบล็อกข่าวกลาโหมหลายแห่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และในที่สุดก็มีการยืนยันว่า มิใช่ขีปนาวุธที่ยึดได้จากคลังแสงฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นเขี้ยวเล็บที่ผลิตในอดีตสหภาพโซเวียต รวมทั้งที่ซื้อจากรัสเซียในยุคปัจจุบันด้วย 
      
       สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานก่อนหน้านี้ว่า จรวดแบบพื้นสู่อากาศ (Surface-to-Air Missile) ชนิดประทับไหล่ยิง หรือ MANPADS (Man-Portable Air-Defence Missile System) ที่นักรบฝ่ายต่อต้านยิงเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 "ฮิป" ตกที่สนามบินแห่งหนึ่งในซีเรียนั้น เบิกออกไปจากคลังแสงในประเทศตุรกี เป็นจรวดแบบ FeiNu-6 หรือ FN-6 "ธนูบิน" จากจีน
      
       ใกล้ตัวเข้ามาก็คือเป็นอาวุธต่อสู้อากาศยานชนิดเดียวกันกับที่มีใช้ในกองทัพกัมพูชา ซึ่งไม่ทราบจำนวน
      
       ต่างกันก็คือ ของกัมพูชาเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า "ซื้อกึ่งแจก" จากจีน แต่ของฝ่ายต่อต้านในซีเรียนั้นยังไม่ทราบที่มาที่ไป เพราะว่าเกือบ 2 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การสู้รบรุนแรงปะทุขึ้นในซีเรีย ก็แทบจะไม่ปรากฏว่ามีอาวุธของจีนเข้าไปเกี่ยวข้อง
      
       หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนเคยรายงานเมื่อต้นปีและนำเสนอภาพเหตุการณ์หนึ่งที่ฝ่ายกบฏซีเรียยิงเครื่องบินมิก-19 ของฝ่ายรัฐบาลตกไป 1 ลำ ซึ่งปรากฏว่าเป็นจรวดต่อสู้อากาศยานแบบ SA-16 คือใช้จรวดต่อสู้อากาศยานของรัสเซีย ยิงเครื่องบินที่ผลิตในรัสเซียเช่นกัน
      
       ช่วงปีที่ผ่านมายังมีอีกหลายคลิปที่แสดงให้เห็นว่า จรวดแบบประทับไหล่ยิงจากรัสเซียหลายนัดยิงพลาดเป้าหมายเช่นกัน
      
       กองทัพกัมพูชานำ จรวด FN-6 ออกอวดเป็นครั้งแรกในเดือน ต.ค.2552 ระหว่างการเดินขบวนสวนสนามฉลองครบรอบปีการก่อตั้งกองพลน้อยที่ 70 ภายในที่ตั้งซึ่งอยู่ชานกรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยทหารพิทักษ์นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ก่อนที่หน่วยกำลังนี้จะถูกแยกตัวออกไปในเวลาต่อมา
      
       ฮุนเซนเคยสั่งให้ทหารยิงคนไทยทุกคน ทหารไทยทุกนายที่ลำแดน และยิงเครื่องบินกับเฮลิคอปเตอร์ของไทยทุกลำที่บินล้ำแดนกัมพูชา .. นั่นคือในช่วงปีแห่งความตึงเครียดระหว่างกลางปี 2551 จนถึง 2554
      
       ระหว่างการถอนทหารออกจาก "เขตปลอดทหารชั่วคราว" ที่ชายแดนด้านเขาพระวิหารของฝ่ายกัมพูชา เมื่อปีที่แล้ว ยังปรากฏภาพทหารกัมพูชาหลายคนในขบวนแถว สะพายจรวดต่อสู้อากาศยาน FN-6 ให้เห็น เช่นเดียวกับอาวุธต่อสู้รถถังที่ผลิตจากจีนอีกรุ่นหนึ่ง ภาพเหล่านี้เผยแพร่ไปทั่วโลก
      
       
จากจีนสู่กัมพูชา-สู่ซีเรีย
SinoDefence.Com

       
1

       
2

       
3

       
4

       
5

       กัมพูชายังคงมีจรวดแบบ SAM-3 ที่ผลิตในสหภาพโซเวียตประจำการอยู่นับร้อยลูก ถึงแม้ว่าหลายปีมานี้จะถูกกำจัดไปหลายร้อยลูกแล้วก็ตาม ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐและองค์การสหประชาชาติ ที่วิตกว่าอาวุธร้ายแรงเหล่านี้อาจตกถึงมือกลุ่มก่อการร้ายและอาจนำไปใช้ยิงเครื่องบินโดยสารได้
      
       เป็นที่ทราบกันดีว่า กองทัพยังมี MANPADS อีกหลายรุ่น รวมทั้ง SAM-3 ที่ผลิตในสหภาพโซเวียต ซึ่งสามารถใช้ยิงอากาศยานที่บินในระยะต่ำอย่างไดผลดีอีกด้วย
      
       สำหรับจรวด FN-6 ผลิตโดย China National Precision Machinery Import and Export Corp ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงกลาโหม เป็น MANPADS เวอร์ชั่นส่งออก รุ่นที่ใช้ในกองทัพประชาชนจีนเป็นอีกชื่อหนึ่ง
      
       ยาวตลอดลำประมาณ 1.5 เมตร น้ำหนัก 16 กก. นำพาไปใช้งานในสนามได้สะดวก นำวิถีด้วยอินฟราเรด ยิงได้สูงสุด 3,500 กม. มีระยะทำการราว 6,000 เมตร อัตราหวังผลราว 70% แต่ก็ถือว่าเป็นระบบจรวดต่อสู้อากาศยานทันสมัยที่สุดอีกรุ่นหนึ่งที่จีนขายให้กับหลายประเทศ รวมทั้งกัมพูชา มาเลเซีย และซูดานด้วย
      
       ยังไม่มีผู้ใดทราบว่าอาวุธรุ่นนี้ไปผ่านช่องทางใดไปบ้าง ก่อนจะตกถึงมือนักรบฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย แต่คลิปล่าสุดนี้ช่วยยืนยันว่า มันใช้ได้ผลจริง.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น