วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

ตร.ปัตตานีประชุมด่วนเร่ง แกะรอยคนร้ายวางระเบิดป่วนเมือง-สั่งจับตารถต้องสังสัย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 มีนาคม 2556 17:19 น.



ตร.ปัตตานีประชุมด่วนเร่ง แกะรอยคนร้ายวางระเบิดป่วนเมือง-สั่งจับตารถต้องสังสัย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์7 มีนาคม 2556 17:19 น.
       เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (7 มี.ค.) ที่ห้องประชุมกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ ผกก.สภ.และ สวญ.ทั้ง 12 อำเภอของ จ.ปัตตานี พร้อม ผกก.สืบสวน และชุดสืบสวนสอบสวนในพื้นที่ ทั้งใน และนอกเครื่องแบบ รวม 30 นาย เข้าร่วมประชุม
      
       โดยให้แต่ละพื้นที่ผนวกกับกองสืบสวนสอบสวน ภ.จว.ปัตตานี นำข้อมูลที่สั่งการไว้ทำการสรุปแต่ละพื้นที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะคดีลอบวางระเบิด และวางเพลิงหลายจุดในพื้นที่ จ.ปัตตานี ที่ผ่านมา โดยนำภาพพยานต่างๆ ที่พบในที่เกิดเหตุ รวมทั้งข้อเท็จจริงทั้งหมดมาวิเคราะห์ว่าคืบหน้าไปถึงไหนอย่างไร ซึ่งปรากฏว่า มีการรวบรวมข้อมูล พร้อมพยานหลักฐานที่เกิดเหตุ พยานบุคคล และพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายคืบหน้าไปมาก เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลสารบบคนร้ายในคดีความมั่นคงที่มีอยู่ จะสามารถเชื่อมโยงได้ว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มใด
      
       ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มของนายมะซอเร ดือรามะ ที่มีหมายจับของทางการหลายคดี และเป็นแกนนำกลุ่มมีความเชี่ยวชาญผลิต และประกอบระเบิด โดยมีแนวร่วมในกลุ่มที่ก่อเหตุรวม 6 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถระบุรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายกลุ่มนี้ได้แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์ตัวบุคคล โดยตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ และรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนที่สุด เพื่อนำเสนอเพื่อออกหมายจับในโอกาสต่อไป
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแนวร่วมก่อความไม่สงบได้แล้ว 3 คน โดยเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุเผา และวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ จ.ปัตตานี แต่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อเนื่องจากต้องการขยายผลติดตามคนร้ายคนต่อไป
      
       นอกจากนี้ ที่ประชุมได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุก สภ.ใน 12 อำเภอ ตรวจเข้มรถต้องสงสัย 4 คัน รวมทั้งรถจักรยานยนต์ที่มีการประกอบระเบิดตามที่แหล่งข่าวได้แจ้งเตือนมาแล้ว ว่า คนร้ายต้องการนำมาวางในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี รวมทั้งกำชับให้มีการสนธิกำลังแลกเปลี่ยนข้อมูล และสร้างแหล่งข่าวในภาคประชาชนในพื้นที่เพื่อรับทราบข่าวสารต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น และเพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนกลับคืนมาอีกครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น