|
|
“ถาวร” ปูดเบื้องหลังรัฐบาลไทยคุยโจรใต้ตามแผนการ “นช.แม้ว” ดันตั้งนครรัฐปัตตานี ฮุบทรัพยากรในพื้นที่ ทั้งแก๊สและน้ำมันที่มีมาก เอื้อประโยชน์ “นาจิบ” ผู้นำมาเลเซีย เหมือนผู้นำเขมร ห่วงชูตั้งเขตปกครองพิเศษ ผิดพลาดซ้ำเหมือนในอดีต จับตานัดถกโจรใต้รอบ 2 วันที่ 28 มี.ค.ที่ปีนัง
นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปลงนามกับนายฮัสซัน ตอยิบ ที่อ้างว่าเป็นแกนนำบีอาร์เอ็น โดยมีเลขาธิการ สมช.มาเลเชียร่วมเป็นสักขีพยานว่า ตนทราบมาว่าเบื้องหลังความเป็นมาเกิดจากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้มอบหมายให้ พล.ท.ภราดร, พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม และพล.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ไปประสานล่วงหน้ากับทางการมาเลเซีย จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณจึงได้ประสานงานมายัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้เป็นน้องสาวให้เปิดไฟเขียวในเรื่องนี้ ซึ่งนายกฯ ก็ตอบตกลงทำตามคำสั่งพี่ชาย โดยการเดินทางไปมาเลเซียเพื่อพบปะผู้นำ ขณะที่หน่วยงานราชการไทยอย่างน้อย 2 หน่วยงานได้คัดค้านอย่างเต็มที่ ที่ตนทราบคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้คัดค้านอย่างแข็งขันแต่ไม่สำเร็จ โดยระบุเหตุผลชัดเจนว่าเป็นการยกระดับ และเป็นการเปิดช่องให้มีการแทรกแซงรัฐไทย
นายถาวรกล่าวต่อว่า ทั้งนี้เป็นสิ่งที่ชัดเจนยิ่งขึ้นที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (12 มี.ค.) พล.ท.ภารดรได้ตอบคำถามสื่อชัดแล้วว่าที่สุดแล้วต้องมาคุยถึงเขตปกครองพิเศษ และในการพูดคุยในครั้งหน้าจะมีการพูดคุยเรื่องทรัพยากรในพื้นที่ คือแก๊สและน้ำมันที่มีมาก ซึ่งมีอีกหลายหลุมที่อยู่ในพื้นที่ทับซ้อนไทย-มาเลเซีย ดังนั้นการที่ พ.ต.ท.ทักษิณไปเจรจาในครั้งนี้ล้วนทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว และทางการเมืองของสองฝ่าย ในลักษณะทำนองเดียวกับที่เคยเอื้อประโยชน์ให้กับกัมพูชาในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลฝั่งอ่าวไทยกับผู้นำกัมพูชา ครั้งนี้ก็เอื้อประโยชน์ให้นายนาจิบ ราซัค ผู้นำมาเลเซียที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะพื้นที่ภาคเหนือของมาเลเซียนั้นพรรคอัมโนของนายราจิบไม่ได้รับความนิยม แต่หากมีการเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ก็จะได้รับความนิยม ที่สำคัญก็จะเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนธุรกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณเช่นเดียวกัน
“ผมเป็นห่วงว่า พ.ต.ท.ทักษิณเคยตัดสินใจผิดพลาดโดยใช้นโยบายกำปั้นเหล็ก จัดการกับโจรกระจอก ตอนนี้เกือบ 10 ปียังไม่จบ ครั้งนี้ก็จะผิดพลาดซ้ำในการตั้งเขตปกครองพิเศษตามที่พรรคเพื่อไทยเคยเสนอในนโยบายหาเสียงเมื่อปี 54 ผ่านนักการเมืองในพื้นที่ว่าจะสนับสนุนการตั้งนครรัฐปัตตานีให้ปกครองตัวเอง โดยที่ไม่ได้สอบถามประชาชนในพื้นที่ สังคมไทยและสื่อต้องจับตาการพบปะกันของตัวแทนรัฐไทยทั้ง 3 คนในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ซึ่งทราบแล้วว่ามีการนัดพบกับอดีตผู้นำมาเลเซียที่มีชื่อเสียง ที่เกาะปีนังว่าจะเกิดอะไรขึ้น และขอเรียกร้องให้รัฐบาลโดยเฉพาะนายกฯ และหน่วยงานด้านความมั่นคงออกมาพูดความจริงถึงข้อตกลงที่ไปหารือ และโรดแมปต่างๆ ที่พูดคุยกัน เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเป็นรัฐชาติของประเทศไทยทั้งหมด และกระทบต่อชีวิตของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น