วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

ข่าวที่น่าสนใจ จาก นสพ.เมื่อ 7 มี.ค.56




รุปข่าวที่น่าสนใจ
ป่าไม้ – ทหารพรานจับรถทหารขน “ไม้พะยูง” ค่า 2 ล้าน
นายถวัลย์  สิงห์แก้ว  หน้าฐานป่าไม้ที่ ฉช.8 (นาอิสาน)  กล่าวว่า  ผู้ต้องหา 5-6 คนที่หลบหนีไปได้ทราบว่าเป็นกำลังพลของกองพันทหารช่างที่ 2 รักษาพระองค์ (ช.พัน 2 รอ.) ค่ายศรีโสธร  จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งได้รับภารกิจจาก ผวจ.ฉะเชิงเทรา ที่ขอรับการสนับสนุนกำลังพลพร้อมเครื่องจักรกลไปดำเนินการขุดคูกั้นช้างตามแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนในส่วนของพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ตามโครงการแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าออกหากินนอกพื้นที่ของ จ.ฉะเชิงเทรา มีระยะทางประมาณ 200 กม.และดำเนินการขุดไปเกือบครบระยะทางแล้ว “ขณะนี้ได้ดำเนินการนำของกลางและหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน สภ.สนามชัยเขต เพื่อดำเนินคดีในข้อหามีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 0.02 ลบ.ม. และมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2527 ข้อหาทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และมีความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 ซึ่งไม้พะยูงที่จับกุมได้ครั้งนี้ ราคาประมาณ 2.27 ล้านบาท หากนำไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้านจะมีราคาสูงกว่าอีกหลายเท่าตัว”
พ.ท.สุรินทร์  เจริญชีพ  ผบ.ร้อย ทพ.1306 (บ้านหนองคอก) กรมทหารพรานที่ 13 กกล.บูรพา  กล่าวว่า  การลักลอบตัดไม้พะยูง มีการทำเป็นขบวนการและน่าจะเป็นเครือข่ายของนายธนกร ทิวิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ซึ่งมีพฤติกรรมในการทำไม้มานานแล้ว โดยสั่งการให้ชาวบ้านในพื้นที่ลักลอบตัดไม้พะยูงไปขายให้ จากนั้นนายธนกรจะขนส่งไม้ไปขายยังประเทศกัมพูชา
ด้าน พ.ท.วีรพจน์  สุภธีระ  ผบ.กองพันทหารช่างที่ 2 รักษาพระองค์ (ช.พัน.2 รอ.) ค่ายศรีโสธร อ.เมืองฉะเชิงเทรา  กล่าวว่า  หลังทราบเรื่องที่มีการนำรถยนต์ของ ช.พัน.2 รอ. ไปใช้ในการขนไม้เถื่อน ซึ่งลักลอบตัดออกมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน แล้วถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจจับไว้นั้น ตนได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนให้เร่งติดตามข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่า รถทหารที่ถูกจับเป็นรถยนต์ของทางค่ายศรีโสธรจริง ซึ่งอยู่ในระหว่างปฏิบัติงานในโครงการขุดคูกั้นช้างป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ในพื้นที่ของ จ.ฉะเชิงเทรา ระหว่างนั้นมีทหารเกณฑ์นายหนึ่งที่ใกล้ปลดประจำการแล้ว และมีหน้าที่เป็นพลขับขโมยรถยนต์คันดังกล่าวออกไปใช้ส่วนตัว ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานของทหารในค่าย
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  วันที่  07/03/2013
มะเร็งคร่า “ชาเวซ”
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อช่วงสายวันที่ 6 มี.ค. ว่า  นายฮูโก  ชาเวซ  ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา  อดีตผู้นำการต่อสู้เพื่อปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองของเวเนซุเอลา ที่ดำรงตำแหน่งมานานกว่า 14 ปี ถึงแก่อสัญกรรมแล้วที่โรงพยาบาลทหาร ในกรุงการากัส เมืองหลวงของเวเนซุเอลา  เมื่อเวลา 16.25 น. วันที่ 5 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลาประมาณ 04.55 น. วันที่ 6 มี.ค. ตามเวลาไทย ขณะมีอายุได้ 58 ปี หลังจากล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งมานานตั้งแต่ปี 2553 ขณะที่ศพของนายซาเวซถูกเคลื่อนย้ายไปยังโรงเรียนเตรียมทหาร ในกรุงการากัส ในวันเดียวกัน และจะเปิดให้ผู้นำจากประเทศต่างๆ เดินทางมาเคารพศพอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 มี.ค.นี้
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  วันที่  07/03/2013
กกต.ยื้อ 15 วันรับรองผลเลือกกทม.
นายภุชงค์  นุตราวงศ์  เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า  ที่ประชุม  กกต.  มีมติ  3  ต่อ 1  เห็นควรยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้รับเลือกตั้ง ตามที่ กกต.กทม.เสนอ โดยเป็นไปตามมาตรา 95 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นประกอบประกาศ คปค.ฉบับที่ 32 ที่ให้ กกต.สามารถสืบสวนสอบสวนกรณีผู้ได้รับเลือกตั้งมีเรื่องร้องคัดค้านให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากไม่แล้วเสร็จให้ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อน โดยกำหนดระยะเวลา 30 วันจะครบในวันที่ 2 เม.ย.  ม.ร.ว.สุขุพันธุ์ ถูกร้องเรียน 3 เรื่อง แยกเป็นเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของ กกต.กทม. 2 เรื่อง และฝ่ายสืบสวนสอบสวนของ กกต.กลาง 1 เรื่อง ทั้งหมดเป็นคำร้องที่กล่าวหาว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กระทำผิดฐานปราศรัยใส่ร้ายหลอกลวงจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ตามมาตรา 57 (5) ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ เบื้องต้น กกต.กทม.ขอเวลาสืบสวน 15 วันก่อนจะเสนอ กกต.กลางพิจารณา ทั้งนี้ หากการสอบสวนแล้วเสร็จก่อนระยะเวลา 30 วัน กกต.อาจพิจารณาประกาศรับรองผลก่อนระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดก็ได้     (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)
แหล่งข่าวจาก กกต.  กล่าวว่า  นายสมชัย  จึงประเสริฐ กกต.ด้านการสืบสวนสอบสวน ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยเมื่อเข้าสู่วาระการพิจารณาเรื่องดังกล่าว ที่ประชุมไม่ได้หารือว่าต้องรอนายอภิชาต กลับมาจากการดูงานต่างประเทศ ซึ่งด้านบริหารงานเลือกตั้ง ได้รายงานผลคะแนนเลือกตั้ง และแจ้งว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีเรื่องถูกร้องเรียนการทำความผิดตามกฎหมายการเลือกตั้งมาตรา 57 (5) รวม 3 เรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นการโพสต์ข้อความโจมตีผู้สมัครรายอื่นว่าเผาบ้านเผาเมือง ทาง กกต.กทม.จึงเสนอว่ายังไม่ควรประกาศรับรองผล จากนั้นที่ประชุมมีการพิจารณาก่อนที่กรรมการแต่ละคนจะนำใบลงคะแนนไปลงคะแนนที่ห้องทำงานของตนเอง ก่อนส่งให้ฝ่ายการประชุมนำไปรวมคะแนน ซึ่งทั้งหมดใช้เวลากว่า 2 ชม. ก่อนมีการแถลงข่าว    (หนังสือพิมพ์ข่าวสด)
แฉโกง “ครูผู้ช่วย” 3 รูปแบบชง “โละสอบ”
นายธานินทร์   เปรมปรีดิ์  รอง ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 2 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริต  กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  กล่าวว่า  ดีเอสไอจะนำเอกสารต่างๆที่ได้ไปตรวจสอบว่ามีกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเอกสารมีจำนวนมากทำให้พนักงานสอบสวนต้องขอกลับไปรวบรวมก่อน โดยมีประเด็นที่ต้องพิจารณามากขึ้น ทั้งนี้ จากข้อมูลของ สพฐ.ที่แจ้งว่าพบผู้ผ่านการสอบบางคนมีคะแนนสูงผิดปกติ ทำให้ชี้จุดได้ว่าลักษณะของการทุจริตเป็นอย่างไรและกลุ่มที่เข้าข่ายทุจริตเป็นกลุ่มไหนบ้าง เบื้องต้นจากการตรวจสอบเชื่อว่ามีทุจริตครูผู้ช่วยเกิดขึ้นจริง โดยมี 3 รูปแบบ คือ 1. การให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทน 2.การนำข้อสอบออกมาและเฉลยข้อสอบเพื่อให้นำไปท่องจำก่อนเข้าสอบ 3. การนำเครื่องมือสื่อสารเข้าไปในห้องสอบ นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานโพยข้อสอบซึ่งจะนำไปตรวจสอบว่าตรงกับกระดาษคำตอบของ สพฐ.หรือไม่ และยังพบโทรศัพท์มือถือในห้องสอบด้วย อย่างไรก็ตาม ภายในสัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่ภาคอีสานเพื่อสอบปากคำพยาน จากนั้นจะสรุปผลการสืบสวนส่งให้ ศธ. ในวันที่ 18 มี.ค. เพื่อดำเนินการต่อไป
ขณะที่ นายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีดีเอสไอ  กล่าวในการแถลงผลการตรวจสอบการทุจริตสอบครูผู้ช่วย ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบหลักฐานชี้ว่ามีทุจริตสอบครูผู้ช่วยจริง โดยจะสรุปผลการสืบสวนเบื้องต้นส่งให้ ศธ.นำไปประกอบการพิจารณายกเลิกการสอบหรือไม่ ภายในวันที่ 18 มี.ค.นี้ สำหรับประเด็นที่ต้องสืบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงต่อไปคือทุจริตเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) หรือเกิดการทุจริตทั่วประเทศ เพื่อให้ ศธ.พิจารณาว่าจะยกเลิกการสอบทั้งหมด หรือยกเลิกการสอบเพียงบางพื้นที่ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการจัดสอบแต่ละครั้งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์มติชน  วันที่  07/03/2013
ธาริตฟันพีซีซีคดีตัวอย่างอายัด 400 ล.
รายงานข่าวแจ้งว่า  ในวันที่ 7 มี.ค. พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ  จะเสนอให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)สั่งอายัดเงิน 400 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยในบัญชีธนาคารออมสิน สาขาประตูช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นจำนวนเงินครึ่งหนึ่งที่ทางธนาคารออมสินหักจากเงินล่วงหน้า 15 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 800 ล้านบาท เพื่อเป็นหลักค้ำประกันของแบงก์การันตีในการทำสัญญากับทางตร.
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์มติชน  วันที่  07/03/2013
จ่ออีกข้อหา “มาร์ค –  เทือก” คดีอีซา
พ.ต.ท.วรรณพงษ์  คชรักษ์  ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการกลางคดี 99 ศพ  กล่าวถึงผลการประชุมหารือพนักงานสอบสวน ว่า การประชุมดังกล่าวเป็นเพียงการหารือเฉพาะพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีการเสียชีวิตของนายพัน คำกอง ด.ช.คุณากร  ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา และคดีพยายามฆ่านายสมร  ไหมทอง  คนขับรถตู้ที่ถูกยิงถล่มบริเวณ ถ.ราชปรารภ โดยสั่งให้นำสำนวนทั้ง 3 คดีมารวมกัน  จากการตรวจสอบสำนวนทั้งหมดพบยังต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้องเกี่ยวกับพยานแวดล้อม ซึ่งมอบหมายให้พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบแต่ละคดีเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 2 สัปดาห์ รวมทั้งเก็บรายละเอียดในส่วนของผู้บาดเจ็บที่เข้าแจ้งความกับดีเอสไอด้วย  ทั้งนี้เมื่อครบกำหนด 2 สัปดาห์จะสรุปคดีและรายงานต่อนายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีดีเอสไอ เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการแจ้งข้อกล่าวหาคดีฆ่าและพยายามฆ่ากับนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ  อดีตรองนายกฯต่อไป
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ข่าวสด  วันที่  07/03/2013
“พิ้งกี้” ช็อกวงการจ่อวิวาห์เศรษฐีหมื่นล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 6 มีกระแสข่าวว่านางเอกสาวชื่อดัง ”พิงค์กี้”   สาวิกา  ไชยเดช เตรียมเข้าพิธีวิวาห์สายฟ้าแลบกับหนุ่มตี๋รูปงามวัย 30 ปี ทายาทมหาเศรษฐีหมื่นล้านชาวจีนเชื้อสายฮ่องกง เจ้าของธุรกิจโรงแรมทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่ และเกาะฮ่องกง โดยข่าวเซอร์ไพร้ส์ของทั้งคู่เริ่มจากฝ่ายชายเป็นแฟนคลับที่แอบปลื้มนางเอกสาวมานานโดยมีผู้จัดการส่วนตัวของพิ้งกี้ และคนดูแลฝ่ายชายเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ ตามกำหนดเดิมแม่ของฝ่ายชายหมายมั่นให้บุตรชายได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝากับพิ้งกี้ตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะไปถ่ายทำภาพยนตร์ที่ประเทศอินเดีย แต่แม่ของพิ้งกี้อยากให้ทั้งคู่ศึกษาดูใจกันให้มากกว่านี้ รวมทั้งให้เวลาทั้งคู่ได้ไปร่ำเรียนภาษาจีนและภาษาอังกฤษ เพื่อจะได้สื่อสารให้เข้าใจกันมากขึ้น กำหนดการงานแต่งจึงต้องเลื่อนออกไปก่อน
ด้าน นายสมาน  ไชยเดช พ่อของพิ้งกี้ กล่าวว่า  ตอนนี้แม่กับพิ้งกี้เดินทางไปอินเดียเพื่อถ่ายหนัง คุณพ่อเลยมารับโทรศัพท์แทน ก็ยอมรับว่าเขาสองคนรู้จัดกันจริง แต่เรื่องแต่งงานเอาไว้ก่อน ยังไม่มีการพูดถึง พ่อก็รู้แค่ว่าเขามาจีบและส่งดอกไม้ไปให้น้องที่กองถ่ายละคร แต่พ่อก็ไม่เคยเจอ ไม่เคยคุยกันด้วย เขาอาจจะรู้จักกันมานานแล้วก็ได้ แต่พ่อเพิ่งรู้ก็ตอนเขาส่งดอกไม้มาให้ เลยไม่รู้จะพูดอะไร เรื่องแต่งงานคงอีกนาน ถ้าเขาคิดจะแต่งงานกันจริงๆ พ่อก็แล้วแต่น้อง ตอนนี้ยังไม่รู้กำหนดกลับของแม่กับน้องเพราะเห็นว่าจะมีไปถ่ายหนังที่นิวยอร์กต่อด้วยยังไม่รู้ว่าตารางการทำงานเป็นอย่างไร
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่  07/03/2013
21 ส.ส.ชง “นิรโทษ” เข้าสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  กลุ่ม ส.ส. เสื้อแดง ในพรรคเพื่อไทย อาทิ นายวรชัย  เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ นพ.เชิดชัย  ตันติศิรินทร์ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสมคิด  เชื้อคง  ส.ส.อุบลราชธานี พร้อมด้วยนายคารม  พลทะกลาง และนายวิญญัติ  ชาติมนตรี  ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ร่วมกันแถลงข่าวการเตรียมยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทยรวม 21 คน เข้าชื่อเสนอชื่อต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร  ในช่วงบ่ายวันที่ (7 มี.ค.) ที่รัฐสภา  ด้านนายปานเทพ  พัวพงษ์พันธ์  โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้เข้าพบนายเจริญ  จรรย์โกมล  รองประธานสภาคนที่ 2 ในฐานะผู้ประสานเพื่อการออกกฎหมายนิรโทษกรรมนำไปสู่ความปรองดอง พร้อมยื่นหนังสือซึ่งเป็นเงื่อนไขให้ปฏิบัติก่อนเข้าร่วมหารือถึงแนวทางการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ตามที่ได้นัดหมายวันที่ 11 มี.ค.
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  วันที่  07/03/2013
เคาะราคาประมูลทีวีดิจิทัล
ผศ.ดร.ธวัชชัย  จิตรภาษ์นันท์   กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกสทช.  และ กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท.  กล่าวว่า  บอร์ด กสท. ที่มีพันเอกนที  ศุกลรัตน์ เป็นประธานจะประชุมในวันจันทร์ ที่  11 มี.ค. นี้ เพื่อพิจารณาราคาตั้งต้นประมูลใบอนุญาตโทรทัศน์ระบบดิจิทัล หรือ ทีวีดิจิทัล ช่องธุรกิจ 24 ช่อง ตามที่คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการศึกษา
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  วันที่  07/03/2013
ขายข้าวขาดทุน
นายนิวัฒน์ธำรง  บุญทรงไพศาล  รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ซึ่งเพิ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้เข้ามาดูแลโครงการรับจำนำข้าว  กล่าวยอมรับว่า  รัฐบาลจำเป็นจะต้องขายข้าวในโครงการรับจำนำตามราคาตลาด โดยรัฐบาลต้องยอมรับผลขาดทุนที่เกิดขึ้น “ส่วนการขายข้าวขาดทุนนั้นต้องดูว่าจะทำอย่างไรที่หาเงินมาเติมทุนหมุนเวียนในโครงการเป็ฯ 5 แสนล้านบาท”
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่  07/03/2013
ปล่อยกู้ได้แค่รายละ 15 ล้าน
นายอารีพงศ์  ภู่ชอุ่ม  ปลัดกระทรวงการคลัง  กล่าวว่า  กระทรวงการคลังได้เห็นชอบแผนฟื้นฟูธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ในเบื้องต้นแล้ว โดยแผนฟื้นฟูจะมีระยะเวลา 3 ปี เพื่อแก้ไขหนี้เสียของธนาคารที่มีอยู่ 3.2 หมื่นล้านบาท โดยจะต้องทำให้ลดลงภายในปีนี้ให้ได้ 1 หมื่นล้านบาท จากสินเชื่อทั้งหมด 9.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 1% ปรับขึ้นมาอยู่ในระดับ 5%  ในระหว่างที่ธนาคารมีเงินกองทุนต่ำกว่ามาตรฐาน 8.5% จะถูกควบคุมให้ปล่อยสินเชื่อได้เฉพาะรายย่อยรายละไม่เกิน 15 ล้านบาทเท่านั้น ไม่ให้ปล่อยกู้รายใหญ่เหมือนในอดีตอีกต่อไป
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่  07/03/2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น