วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556

สรุปข่าวที่น่าสนใจ เมื่อ 4 มี.ค.56




สรุปข่าวที่น่าสนใจ
สุขุมพันธุ์ชนะกวาดคะแนนได้เกินล้านทิ้ง 2 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อเวลา 20.08 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งศาลาว่าการ กทม. ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อย่างไม่เป็นทางการ ครบทั้ง 6,548 หน่วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ได้ 1,256,231 คะแนน พล.ต.อ.พงศพัศ  มาเป็นอันดับ 2 ได้ 1,077,899 คะแนน และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์  มาเป็นอันดับ 3 ได้ 166,582 คะแนน ซึ่งถือว่าทั้ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และ พล.ต.อ.พงศพัศ ทำลายสถิติคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อปี 2543 สมัยนายสมัคร สุนทรเวช ที่ได้ 1,016,096 คะแนน สำหรับยอดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมีผู้มาใช้สิทธิทั้งสิ้น 2,715,640 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 4,244,465 คน หรือคิดเป็นผู้ออกมาใช้สิทธิร้อยละ 63.98
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  วันที่  04/03/2013
นิรโทษก่อนแล้วแก้รธน.
นายวรชัย  เหมะ  ส.ส.สมุทรปราการ  พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.  กล่าวถึงกรณี นปช. เตรียมยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภาฯ หลังเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ว่า ขณะนี้ยกร่าง พ.ร.บ. 2 ฉบับเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผู้มาร่วมชุมนุมข้อหาไม่ร้ายแรง และร่าง พ.ร.บ.บรรเทาความเดือดร้อนผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ในช่วงบ่ายวันที่ 6 มี.ค. ตนพร้อมทนายความของ นปช.จะเปิดแถลงข่าวที่รัฐสภา และจะประสานประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อยื่นร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ขึ้นอยู่ที่ประธานสภาฯจะนัดหมายให้ยื่นได้เมื่อไหร่ เมื่อถามว่า คณะทำงาน ส.ว. เลือกตั้งพิจารณาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา  นายวรชัย  กล่าวว่า  ควรทำเรื่องนิรโทษกรรมก่อน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นปช.ยังยืนยันต้องโหวตลงมติวาระที่ 3 ซึ่งค้างอยู่ในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ต้องดำเนินการตามขั้นตอนนี้ให้จบ ถือเป็นทางเดียวที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่จะแก้ไขรายมาตรา
นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฎ์  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์  และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีกลุ่ม ส.ว.เลือกตั้งจะหารือกับคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 50 ที่มีนายโภคิน  พลกุล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 เป็นรายมาตรา ว่า  เรื่องนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าจะแก้ไขมาตราไหน มีเนื้อหาอย่างไร และประเด็นสำคัญกลุ่ม ส.ว.เลือกตั้งจับมือกับรัฐบาลต้องพิจารณาว่า เรื่องที่จะทำเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมหรือส่วนตัว หรือทำเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือไม่ ในชั้นนี้ยังไม่สามารถตอบล่วงหน้าว่าเห็นด้วยหรือไม่ ต้องขอดูเนื้อหาและรายละเอียดก่อน อย่างไรก็ตาม เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าหลังเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. รัฐบาลจะพยายามผลักดันเดินหน้าต่ออย่างน้อย 2 เรื่อง คือ 1. ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และ 2. ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  วันที่  04/03/2013
จับตายได้อีก 1 ศพ โจรใต้มือระเบิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 2 มี.ค.  ร.ท.ปรีชา  รุ่งเมือง  ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 4804 กรมทหารพรานที่ 48 นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 82 บ้านลูโบ๊ะเยาะ ม.7 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส หลังสืบทราบมีกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเคกลุ่มนายมะซาเอ๊าะ  หะยีดีเย๊าะลีย๊ะ หรือชื่อจัดตั้ง “เปาะเอ๊ะ กูตง” อายุ 32 ปี ชาว อ.ระแงะ จ.นราธิวาส มีหมายจับคดีความมั่นคง ก่อเหตุลอบวางระเบิดและดักยิงเจ้าหน้าที่เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคดีกับพวกมากบดานเตรียมวางแผนก่อเหตุร้าย ขณะแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น คนร้ายในบ้านเปิดฉากใช้ปืนสงครามและปืนพกกระหน่ำยิงใส่เจ้าหน้าที่จนเกิดปะทะกันดุเดือดนานกว่า 10 นาที กระทั่งเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่พบศพนายมะซาเอ๊ะ ถูกกระสุนเจ้าหน้าที่นอนตายอยู่ด้านหลังบ้าน พบปืนพก 11 มม.กระสุนปืน 11 มม.15 นัด และกระสุนปืนอาก้า 50 นัด และบัตรประชาชน 1 ใบ ระบุชื่อนายฮัสมัน สามะแม็ง อายุ 36 ปี คาดเป็นของคนร้ายอีกคนทำตกไว้ขณะหลบหนี นอกจากนี้ ยึดรถ จยย.รวม 4 คัน คาดเป็นรถที่กลุ่มคนร้ายเตรียมนำมาประกอบระเบิด จยย.บอมบ์ก่อเหตุในพื้นที่
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  วันที่  04/03/2013
กกต.ขอเคลียร์ 7 พันชื่อซ้ำโวยแม้วโผล่
นางนินนาท  ชลิตานนท์  ปลัดกทม.  กล่าวถึงกรณีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งของเขตบางพลัด ว่า เป็นไปตามหลักฐานทางทะเบียนราษฎร เมื่อยังไม่มีการแจ้งย้ายออกก็ยังมีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ แม้ข้อเท็จจริงทุกคนจะทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยก็ตาม แต่ยังมีชื่อในรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ ในส่วนเจ้าหน้าที่กทม. เมื่อพบว่ายังไม่แจ้งย้าย จึงไม่มีการลงหมายเหตุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สามารถเลือกตั้งได้
นายประพันธ์  นัยโกวิท  กกต.  กล่าวถึงกรณีเดียวกัน ว่า  หลังจากตรวจสอบกับสำนักงานเขตบางพลัด พบว่า ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ มีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตดังกล่าว อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นจากการถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองครบ 5 ปีแล้ว ดังนั้นจึงมีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ได้ตามกฎหมายทุกประการ
ด้านนายภุชงค์  นุตราวงศ์  เลขาธิการ กกต.  กล่าวว่า  พ.ต.ท.ทักษิณ  พ้นจากการถูกเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 5 ปี จากคดียุบพรรคไทยรักไทย (ทรท.) พร้อมกับกรรมการบริหารทั้งหมด 111 คน จึงทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีชื่อเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส่วนที่ต้องคำพิพากษาจำคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดานั้น เป็นคดีอาญา ที่ไม่มีโทษเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
นายสุพจน์  ไพบูลย์  กกต.กทม. กล่าวว่า  หลังจากเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ทาง กกต.เตรียมหารือกับนางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัด กทม. เกี่ยวกับรายชื่อในทะเบียนราษฎร หลังพบว่ามีปัญหากว่า 7,000 รายชื่อ  ส่วนกรณีมีชื่อนายปรีชา  เอี่ยมสะอาด เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งซ้ำกัน 4 เขต ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่คนเดียวกัน เนื่องจากหมายเลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด ไม่ตรงกัน เมื่อตรวจสอบชื่อดังกล่าวจากสารบบทั่วประเทศพบว่ามีคนที่ชื่อและนามสกุลเดียวกันถึง 33 คน ดังนั้นประเด็นเรื่องรายชื่อผีไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์มติชน  วันที่  04/03/2013
ข้องใจพีซีซีกระเป๋าแฟบมีแค่ 87 ล้าน
นายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  กล่าวถึงความคืบหน้าคดีโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทน จำนวน 396 แห่ง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า  ในสัปดาห์นี้ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ในส่วนของผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีและบัญชี เดินทางไปยังธนาคารออมสิน สาขาช้างเผือก จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดเอกสารทางบัญชีของบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เพื่อนำมาวิเคราะห์กับเส้นทางการเงินที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นดีเอสไอจะเดินทางตรวจสอบคดีฉ้อโกงระหว่างบริษัท พีซีซีฯ กับผู้รับเหมา ขณะนี้ดีเอสไอมีเอกสารค่อนข้างครบ ที่บ่งชี้ว่าทางบริษัท พีซีซีฯ น่าจะกระทำความผิดฐานฉ้อโกง
รายงานข่าว แจ้งว่า  พนักงานสอบสวนดีเอสไอพบสถานะทางการเงินของทางบริษัท พีซีซีฯ อาจจะไม่มีสภาพคล่อง เนื่องจากการตรวจสอบบัญชีของธ.ออมสิน สาขาช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นธนาคารที่บริษัท พีซีซีฯ ใช้บริการแบงก์การันตีและบัญชีต่างๆ ของทางบริษัทเป็นหลัก พบว่าทางธนาคารอนุมัติแบงก์การันตี จำนวน 290 ล้านบาท ให้กับทางบริษัท พีซีซีฯ โดยมีหลักทรัพย์เป็นเงินสด 87 ล้านบาท และเอกสารอนุมัติโครงการก่อสร้างที่มีลายเซ็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ลงนามอนุมัติเพื่อให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ไปทำสัญญากับทางบริษัทพีซีซีฯ
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์มติชน  วันที่  04/03/2013
ชี้ไม่ผิดคน “บิ๊กตู่” ย้ำเจรจาดับไฟใต้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงเหตุคาร์บอมบ์ใน จ.ยะลา จนทำให้ทหารเสียชีวิต 2 นาย ว่า การก่อเหตุในภาคใต้ยังคงต้องมีอยู่แน่นอน ตราบใดยังมีคนเหล่านี้อยู่ ส่วนการลงนามเพื่อให้เกิดความร่วมมือ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นระหว่างรัฐบาลไทยกับมาเลเซียนั้นเราค่อยๆ ก้าวมาตามลำดับ ทั้งนี้ทุกคนรักห่วงประเทศชาติหมด แต่ต้องห่วงอย่างมีเหตุมีผล และตั้งสติให้ดี ไม่ว่าจะลงนามหรือไม่ จะคุยหรือไม่ก็ตาม การต่อสู้ยังไม่จบสิ้น ทหาร ตำรวจ ทุกคนทำงานเต็มที่ แต่จะไม่ให้เกิดเหตุเลยนั้นยาก อย่าใช้คำว่า ผิดตัวหรือไม่ ในฐานะที่ตนทำงานด้านความมั่นคง จากการข่าวพบว่า มีหลายพวก กลุ่มที่มาลงนามเป็นกลุ่มเก่า มีมานานแล้วหลายสิบปี ซึ่งเป็นระดับผู้ใหญ่ของเขา แต่หลังจากนั้นแตกออกมาเป็นหลายกลุ่ม มีการแย่งชิงความเป็นใหญ่ และเป็นแกนนำ แต่ทั้งหมดร่วมกันทางอุดมการณ์ ซึ่งขณะนี้มีคนกลุ่มใหม่ที่เกิดขึ้นมา โดยเป็นคนไม่หวังดีตั้งตนขึ้นมาใหม่ให้มีอำนาจ เพื่อจะไม่ให้ฟังกลุ่มเก่า ทั้งหมดยังกระจัดกระจายอยู่ วันนี้เป้าหมายในแต่ละวันนั้นบางวันมีเหตุเพียง 1-2 ครั้ง ถ้าไม่พูดถึงการสูญเสีย จำนวนครั้งที่เกิดเหตุน้อยมาก แต่ประเด็นคือ มีคนเจ็บและตาย คิดว่า ปัญหาไม่จบภายใน 1-2 วัน อย่าเขียนเลยว่า ผิดตัวอีกแล้ว ขอให้เขียนว่า ความร่วมมือระหว่างกันเพื่อลดความรุนแรง การลงนามเป็นเพียงช่องทางหนึ่งในการแก้ปัญหา ไม่ใช่ตั้งโต๊ะแล้วจะเอาอะไรก็ได้ ทั้งหมดต้องเข้ากฎหมาย เพราะรัฐธรรมนูญไทยกำหนดแล้วว่า แบ่งแยกไม่ได้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็พิจารณากันว่า รับได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐบาล
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ข่าวสด  วันที่  04/03/2013
สลดซิ่งจมคลองพ่อ – ลูก 1 ขวบดับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ร.ต.ท.พิทยา คงเจริญ ร้อยเวร สภ.เมืองชัยนาท รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเสียหลักตกคลองชลประทาน ช่วงถนนสาย 340 ชัยนาท-สุพรรณบุรี บริเวณหมู่ 3 ต.ชัยนาท อ.เมืองชัยนาท มีผู้บาดเจ็บหลายราย จึงรุดตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและแพทย์  ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน ตกลงไปในคลองจนมิดคัน โดยมีผู้บาดเจ็บตะโกนร้องครวญครางขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือและนำขึ้นมาจากน้ำ โดยการช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะคลองลึกถึง 2 เมตร และรถกระบะจมลงไปทั้งคัน ก่อนนำผู้บาดเจ็บ 6 คนส่งร.พ.ชัยนาทนเรนทร นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังทราบว่ามีเด็กติดอยู่ในรถอีก 1 คน จึงรีบลงไปงมช่วยเหลืออีกครั้ง โดยทุบกระจกและงัดซากรถ ก่อนพบศพ ด.ญ.กวินธิดา ประสงค์สุข อายุ 11 เดือน ซึ่งเป็นลูกสาวของนายทรงยศ นอนเสียชีวิตอยู่  จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถกระบะเดินทางมาจากจ.สุพรรณบุรี มุ่งหน้ากลับบ้านในจ.นครสวรรค์ เมื่อถึงที่เกิดเหตุคาดว่าคนขับอาจมีอาการหลับใน ทำให้รถเสียหลักตกลงข้างทางแล้วพุ่งลอยลงไปในคลอง จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์ข่าวสด  วันที่  04/03/2013
รวบแล้วทีมโหดฆ่าโจ๋ป่วนบ่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมือปืนซิ่งเก๋งสาดกระสุนใส่นายณัฐวุฒ์  โพธิศิริ  อายุ 17 ปี นักศึกษาภาคค่ำสถาบันแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา ขณะขี่ จยย. จนได้รับบาดเจ็บ และวนรถกลับมากระหน่ำยิงอย่างบ้าคลั่งซ้ำอีกแม้จะมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์พยายามจะช่วยเหลือเหยื่อจนเสียชีวิตคาที เหตุเกิดริมถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 มี.ค.พ.ต.อ.สง่า กรรภิรมย์ ผกก.สส.บก.น.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ทีมสืบสวนสอบสวน ร่วมกันจับนางอนัญญา  เที่ยงน้อย อายุ 44 ปี  และนายสามาศ  จันสีนาค อายุ 51 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน สำหรับนายสามาศ หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช  แต่เจ้าหน้าที่ใช้เทคนิคทางการสื่อสารในการสืบสวนจนทราบว่าอยู่ใน อ.เมือง จึงนำกำลังไปดักซุ่มกระทั่งพบตัวขณะเดินอยู่บนถนนในตลาดนิคมอุตสาหกรรมสุรนารี อ.หนองระเวียง จึงเข้าควบคุมตัวไว้ได้ จากการสอบสวนนายสามาศ ให้การรับสารภาพอ้างว่า เป็นคนคุมบ่อนหลังตลาดพระยาสุเรนทร์ ซึ่งมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนตาย ก่อนนำเรื่องไปฟ้องนางอนัญญา กระทั่งมีการวางแผนฆ่าโหดดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเร่งขยายผลไปจับกุมนางอรัญญา ขณะกำลังไปใช้สิทธิเลือกตั้งบริเวณหน้าโรงเรียนประชาราษฎร์อุปถัมภ์ ถ.พระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา สอบสวนนางอนัญญา ยังให้การภาคเสธ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล เพื่อติดตามมือปืนผู้ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่  04/03/2013
สืบชะตากำนันเป๊าะ
รายงานจากบุคคลใกล้ชิดครอบครัวกำนันเป๊าะ ว่า  ทางครอบครัวได้นำชายไทยที่เกิดปีระกา 8 คนไปอุปสมบทเพื่อสะเดาะเคราะห์ให้กำนันเป๊าะ พร้อมถวายสังฆทานพระ 8 รูป ด้วย เนื่องจากกำนันเป๊าะเกิดปีขาล อายุ 75 ปี จึงต้องแก้ชงด้วยปีระกา อีกทั้งเลข 8 เป็นเลขมงคลตามความเชื่อของคนจีน การทำพิธีครั้งนี้จะทำให้กำนันคนดังมีดวงชะตาที่ดีขึ้น โดยเฉพาะด้านสุขภาพจะได้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่  04/03/2013
150 ชาติวอนยุติค้างาช้าง
น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรัฐบาลไทย และประธานในพิธีการเปิดการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 16 (The 16th Meeting of the Conference of the Parties to CITES : CITES CoP16) ระหว่างวันที่ 3 – 14 มี.ค.นี้ โดยกล่าวว่า  รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญกับการปกป้องทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยการประกาศพื้นที่อนุรักษ์ รวมทั้งการขึ้นทะเบียนพื้นที่ป่าเขาใหญ่ และทุ่งใหญ่ – ห้วยขาแข้ง เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ  ส่วนด้านสัตว์ป่าเรามีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าที่เข้มงวด ซึ่งยอมรับว่าปัญหาการลักลอบค้างาช้างแอฟริกาที่เกิดขึ้น และกลายเป็นประเด็นที่ไทยถูกจับตาของโลก จนกลายเป็นอันดับสองของโลก โดยไทยถูกใช้เป็นทางผ่านไปประเทศปลายทางอื่นก็ตาม ทั้งนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหา “ขณะนี้รัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางมาตรการ 3 ด้านเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เริ่มตั้งแต่การควบคุมการตรวจสอบการแอบลักลอบนำเข้างาช้างผิดกฎหมายผ่านทางด่านศุลกากรอย่างเข้มข้น นอกจากนี้ยังมีการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ค้างาช้าง เพื่อให้ยุติการค้างาช้างผิดกฎหมายและในขั้นตอนสุดท้ายจะผลักดันให้มีการแก้กฎหมายในประเทศไทยเอง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการปกป้องช้างไทย ซึ่งมีความผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย และประเพณีวัฒนธรรมมาตั้งแต่อดีต”
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  วันที่  04/03/2013
รัฐเดินหน้าจำนำข้าว
นายโอฬาร  ไชยประวัติ  ประธานผู้แทนการค้าไทย  และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า  รัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการส่งออกข้าวคุณภาพสูง  โดยมอบหมายให้กรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ดำเนินงานต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เดือน ต.ค. 2555 ถึง ม.ค.ปีนี้ ปริมาณการส่งออกข้าวขยับตัวสูงขึ้นกว่าในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าการส่งออกข้าวของไทย ในแง่ของปริมาณในปีนี้ จะกลับมาสูสีกับคู่แข่งในการส่งออกข้าวที่สำคัญ คือ อินเดีย กับ เวียดนาม ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปี 2556 ประเทศไทยจะส่งออกข้าวได้ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านตัน โดยแบ่งเป็นข้าวหอมมะลิประมาณ 2 ล้านตัน ส่วนที่เหลืออีก 6 ล้านตันเป็นข้าวขาวซึ่งข้าวขาวของเรามีคุณภาพดีจะจำหน่ายได้ตันละ 600  ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ปีที่ผ่านมาอินเดียกับเวียดนามกดราคาจำหน่ายข้าวขาวไว้ที่ 450 ดอลลาร์ต่อตัน “นโยบายจำนำข้าวยังคงเดินหน้าต่อ และอยากให้เรียกนโยบายนี้ว่าจำนำข้าวพลัส เพราะต้องบวกเรื่องอื่นๆที่รัฐบาลจะทำเพื่อยกระดับราคาสินค้าเกษตร และเพิ่มรายได้เกษตรกร อีกไม่นานจะได้ประโยชน์จากนโยบายนี้”
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  วันที่  04/03/2013
ทุนนอกบุกไทย
นางวรวรรณ  ธาราภูมิ  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)  บัวหลวง  กล่าวว่า  บริษัทได้รับการติดต่อจากกองทุน และนักลงทุนบุคคลจากประเทศในยุโรป ตะวันออกกลาง  และญี่ปุ่นจำนวนมาก ทั้งในรูปแบบของการจัดตั้งกองทุนส่วนบุคคล และซื้อกองทุนรวมของบริษัท หรือบางรายมีการลงทุนในหุ้นเองโดยตรง สำหรับนักลงทุนสหรัฐก็กำลังจะเข้ามาลงทุน สะท้อนให้เห็นถึงพื้นฐานที่น่าสนใจลงทุนและแรงซื้อหุ้นของต่างชาติจะมีผลให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปฏิเสธนักลงทุนต่างชาติที่จะขอลงทุนผ่านกองทุนของ บลจ.บัวหลวง เพราะเกรงว่าจะกระทบผู้ถือหน่วยลงทุนของบริษัท หากเงินส่วนนี้มีการถอนออกไป แม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะลงทุนระยะยาวก็ตาม
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่  04/03/2013
ขอ 4 เดือนลดเวลาเติมเอ็นจีวี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  บริษัท ปตท.  ขอเวลา 3-4 เดือน ดำเนินการตามแผน  เพื่อแก้ไขปัญหาการรอคิวเป็นเวลานาน  เพื่อเติมก๊าซเอ็นจีวีในพื้นที่ กทม. หลังจากนายพงษ์ศักดิ์  รักตพงศ์ไพศาล  รมว.พลังงาน ให้ ปตท.แก้ปัญหานี้ให้ได้ก่อนที่จะพิจารณาการขอขึ้นราคาจำหน่ายก๊าซเอ็นจีวี ที่ ปตท. เสนอไปก่อนหน้านี้
อ่านเพิ่มที่  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์  วันที่  04/03/2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น