วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556

เบื่อยิ่งลักษณ์ กลัวทักษิณ เกลียดเสื้อแดง สะท้อนผลเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม วันจันทร์ ที่ 4 มีนาคม 2556.




วันจันทร์ ที่ 4 มีนาคม 2556
Posted by นายยั้งคิด , ผู้อ่าน : 1416 , 12:20:31 น.  
หมวด : การเมือง 

 พิมพ์หน้านี้ 
  โหวต 5 คน เบญจามิน , su และอีก 3 คนโหวตเรื่องนี้ 


สวัสดี ครับ
         ในที่สุดผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครก็เป็นที่สมใจของคนที่ไม่รักไม่ชอบทักษิณ
ไม่ยอมให้ทักษิณครอบครองประเทศไทยได้ทั้งหมด และไม่ชอบคนเสื้อแดงที่ไม่ยอมรับผิดในการเผาเมือง
แต่กลับย้อนรอยโยนความผิดไปให้รัฐบาลชุดที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวหาว่า
รัฐบาลโดยสมช.เป็นคนทำเอง พวกเขาไม่เกี่ยวอะไรเลย แล้วนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อแกนนำคนเสื้อแดงที่มีหลัก
ฐานเห็นโทนโท่ว่าเป็นคนยุแล้วตัวเองจะเป็นคนรับผิดชอบก็สบถสาบานเป็นการใหญ่กลางเมืองเลยทีเดียว

         อย่างไรก็ตาม แม้ว่าม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตรจะได้กลับมาทำหน้าที่ตามเดิมอีกสมัยก็ตาม แต่ถ้าต้องการที่
จะกลับมาอีกในสมัยหน้า หรือจะให้พรรคปชป.ครองแชมป์ต่อไปแล้ว คุณชายก็จะต้องทำงานให้หนักกว่าเดิม
และอย่าปล่อยให้หัวหน้าเขตทั้ง 50 เขตทำงานกันตามสบายเป็นอันขาด เพราะมีตัวอย่างเมื่อน้ำท่วมคราวที่แล้ว
ได้ปรากฏว่าหลายๆเขตไม่มีการขุดลอกคลอง เก็บขยะและสวะให้น้ำระบายได้อย่างคล่องตัว และประตูระบายน้ำ
ตั้งหลายแห่งก็ไม่มีการซ่อมบำรุงให้ใช้การได้อย่างดีเอาไว้ก่อน เป็นต้น ซึ่งข้อบกพร่องเหล่านี้ได้ถูกคู่ต่อสู้หยิบยก
มาโจมตี เสมือนปล่อยหมัดเข้าใบหน้าของคุณชายแทบถูกน็อกไปเลย ยังเคราะห์ดีที่มีคนเกลียดทักษิณถึงล้านกว่า
คนที่ไม่ลงคะแนนให้เสาไฟฟ้าที่ทักษิณส่งมาประกวด แล้วลงคะแนนให้คุณชายแทนนั่นเอง


แนวหน้า

เบื่อยิ่งลักษณ์ กลัวทักษิณ เกลียดเสื้อแดง


ผลการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ที่คุณชายหมู สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับชัยชนะ มันบ่งบอกอะไร
                ทำไมก่อนการเลือกตั้ง โพลล์ทุกสำนักทั้งโพลล์รับจ้างและไม่ได้รับจ้างไปถามใคร ถึงบอกว่า จูดี้ พงศพัศ พงษ์เจริญ จะชนะ คุณชายหมู
                เล่นเอาพรรคประชาธิปัตย์นั่งไม่ติดต้องระดมสรรพกำลังทั้งหมดของพรรคลุยช่วยคุณชายหมูหาเสียงเพราะหากสนามกทม.พรรคประชาธิปัตย์แพ้ โอกาสแพ้ยาวในสนามใหญ่ก็มีความเป็นไปได้สูง
                ครั้งนี้จึงเอาคนกทม.เป็นเดิมพัน
                สุดท้าย คนกทม.ก็แห่มาเลือกพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะไม่ชอบ คุณชายหมู อาจจะไม่ชอบพรรคประชาธิปัตย์ แต่เพราะว่า
                1 เบื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯร่างทรงที่บริหารงานแบบไร้รอยกึ๋น ทำงานฉาบฉวย สวยสาวไปวันๆ ไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องชาวบ้าน ไม่รู้เรื่องความมั่นคงของชาติ ไม่รู้ปัญหา3จีงหวัดชายแดนภาคใต้ บริหารงานแบบไม่บริหาร ทำให้ประเทศตกอยู่ภายใต้ภาวะมืดมิดตีบตันไร้หนทางไร้อนาคต
                2 กลัวทักษิณ เป็นที่ทราบกันว่า พงศพัศ ได้ลงสมัครครั้งนี้เป็นเพราะ ทักษิณ สั่งให้ลงสมัครและสั่งคนในพรรคให้มาสนับสนุนแม้กระทั่ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ก็ถูกทักษิณ สั่งให้มาช่วยพงศพัศ ฉะนั้นภาพของ ทักษิณ ยังติดตราตรึงใจคนกรุงเทพฯอยุ่มิได้ลืมเลือน คือถ้าเลือกพงศพัศ เท่ากับ ทักษิณ กลับมาสั่งผู้ว่ากทม.ได้อีกนอกจากสั่งนายกฯ คนเลยกลัวทักษิณ
                3 เกลียดเสื้อแดง ต้องยอมรับว่าชนชั้นกลางและคนในเมือง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง ยังจดจำเหตุการณ์อัปยศได้เป็นอย่างดี ขืนปล่อยให้ พงศพัศ และพรรคเพื่อไทย ยึดครองกทม.ได้ วันดีคืนดีเสื้อแดงอยากจะปิดถนนตรงไหน มันก็ทำ ซึ่งจะทำให้กทม.ที่เป็นเมืองเศรษฐกิจโดยเฉพาะใจกลางกทม.อันเป็นศูนย์กลางสำคัญของประเทศ ต้องย่อยยับลงไปอีก
                หลังผลการเลือกตั้งที่คนกทม.ล้านกว่าแห่ไปลงคะแนนให้ คุณชายหมู มันสะท้อนได้อย่างเดียวว่า คนกรุงเทพฯไม่ต้องการการเมืองผูกขาด การเมืองแบบกินรวบ การเมืองแบบทักษิณ สั่งซ้ายหันขวาหัน และการเมืองแบบยึดประเทศอย่างที่พรรคเพื่อไทยและทักษิณต้องการ
                ผลการเลือกตั้งวันนี้บอกได้ว่าพรรคเพื่อไทยคงไม่มีโอกาสได้กลับมาบริหารกทม.อีกต่อไป
........................................................
คม ชัด ลึก
**


กระแส'ตู่'นั่งรองผู้ว่าฯฉุดคะแนน'จูดี้'

'นักวิชาการ'ชี้กระแส'จตุพร'นั่งรองผู้ว่าฯ ฉุดคะแนน 'พงศพัศ' ตอบรับวาทะกรรมเผาบ้านเผาเมือง

ทำคนกรุงเทใจเลือก 'สุขุมพันธุ์' ด้าน'ตู่'ปลอบ'จูดี้'กลับสตช.นั่งผบ.ตร.


               4 มี.ค.56 รศ.ยุทธพร อิสระชัย คณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ชนะเลือกตั้ง มาจากปัจจัยเรื่องการเมืองทั้งภายในพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในช่วงต้นของการเลือกตั้งมีการพูดถึงการส่งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ซึ่งมีผลต่อคะแนนในหลายเขตที่มีการปรับเปลี่ยนและสูญเสียให้กับพรรคประชาธิปัตย์ เช่น มีนบุรี บึงกุ่ม ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็มีกระแสว่าจะส่ง นายกรณ์ จาติกวณิช ลง แต่สุุดท้ายมาจากข้าราชการประจำที่พรรคประชาธิปัตย์มีเครือข่ายอยู่ ทั้งนี้ คนที่เลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ น่าจะมาจากพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า เนื่องจากช่วงต้นก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ในแง่โพลล์ผู้สมัครก็ไม่เด่นเท่ากับพรรค เพราะกระแสการเมืองเป็นเรื่องการต่อสู้ของพรรคใหญ่ ขณะที่ผู้สมัครอิสระก็ไม่เด่นไม่สามารถสร้างกระแสได้ จึงทำให้คะแนนเทไปที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งครั้งก่อนที่ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ลงได้ประมาณ 6 แสน คะแนน มาครั้งนี้ขยับเป็น 1 ล้านคะแนน ถือว่าพรรคเพื่อไทยประสบความสำเร็จ แต่ในหลายๆ เขตน่าจะชนะมากกว่านี้ แต่ก็ชนะไม่ขาด และในระดับพื้นที่คะแนนในหลายเขตก็ลดลงไป จึงเป็นยุทธศาสตร์ที่น่าจะทบทวน รวมทั้งดูว่า 3-4 แสนเสียงที่เพิ่มขึ้นมาจากกลุ่มไหน
               " การที่ พล.ต.อ.พงศพัศ แพ้น่าจะมาจากพรรคเพื่อไทยที่พูดถึงการเปิดตัวรองผู้ว่าฯ ที่มีกระแสข่าวว่าจะเอา นายจตุพร พรหมพันธุ์ มาเป็นรองผู้ว่าฯ และพรรคก็ไม่แถลงปฏิเสธ ซึ่งอาจจะเป็นกระแสที่จุดขึ้นมาช่วงสุดท้ายและตอบรับวาทะกรรมที่ประชาธิปัตย์หยิบมา รวมทั้งยังได้คะแนนเสียงจาก สก. สข.ในช่วงสุดท้าย ทั้งนี้ เรื่องของโพลล์ก็มีส่วนทั้งผลบวกและลบ ซึ่งในแง่คนนำ คิดว่าจะชนะอยู่แล้วจึงไม่ไปลงคะแนนให้ ในแง่คนตาม อาจได้คะแนนสงสาร กรณี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ที่ออกมาร้องไห้อาจทำให้ได้คะแนนสงสาร ส่วนกรณีกินรวบก็อาจะเป็นไปได้เป็นวาทะกรรมสอดรับกับวาทะกรรมการเมืองทำให้เกิดการเดินหน้าไปโหวต " รศ.ยุทธพร กล่าว
               รศ.ยุทธพร กล่าวต่อว่า อาจจะไม่ใช่งานหนักของพรรคประชาธิปัตย์ แม้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนแตะล้าน แต่ก็ยังมีเสียงข้างมากครองได้ เดิมเขตดุสิต บางซื่อ ที่เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ ก็เป็นของพรรคเพื่อไทย แต่โดยรวมก็ยังเก็บคะแนนใน กทม.ได้ดี ส่วนที่ว่าจะทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อนั้น ในระยะสั้นเป็นสัญญาประชาคมที่ทั้งสองฝ่ายให้ไว้ แต่ก็ดีใจที่ทั้งสองฝ่ายประกาศไว้ และคงจะมีการตรวจสอบว่าจะไร้รอยต่ออย่างไร แต่ภารกิจใหญ่ต้องมีการปรับโครงสร้างกทม. เพราะอำนาจกทม.ไม่สามารถทำได้ รวมทั้งเรื่องการกระจายอำนาจที่ต้องสมบูรณ์เด็ดขาด และเป็นแม่แบบให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ

"จตุพร" ระบุ "พงศพัศ" พ่าย เหตุแพ้วาทะกรรมการเมือง ปลอบใจกลับสตช. รอนั่ง ผบ.ตร.
                นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทางสปริงนิวส์ ถึงกรณี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ แพ้เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เพราะกระแสข่าว นายจตุพร จะมาเป็นรองผู้ว่าฯกทม. ว่า ตนบอกกับนายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยแล้ว ว่า ให้แถลงปฏิเสธให้ขาดเลยว่าไม่มีการทาบทามและตนไม่มีวันจะไปเป็นรองผู้ว่าฯกทม. ซึ่งเรื่องนี้ถูกกุข่าวขึ้นมาในโลกโซเชียลมีเดีย และช่องบลูสกาย และมีการนำไปถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชัยชนะที่มาด้วยเล่ห์กลไม่เป็นประโยชน์อะไร หลังจากปลุกกระแสเผาบ้านเผาเมือง ผูกขาดประเทศไทย โดยที่ตัวเองผูกขาดมา 9 ปี
                " ที่สำคัญผมไม่มีวันไปรับตำแหน่งรองผู้ว่าฯ และปฏิเสธมาตั้งแต่ต้น เรื่องเผาบ้านเผาเมืองศาลแพ่งก็พิพากษาแล้วว่าไม่ได้เป็นการก่อการร้าย และเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงเซ็นทรัลเวิล์ดก็ยืนยันว่า เสื้อแดงไม่ได้เผา ถือเป็นกลเกม และตลอด 9 ปี กทม.ก็พาคนเที่ยว ขณะที่ด้านลึก สก. สข.ก็ไปจัดการยุทธวิธีด้านกว้างกับลึกอะไรก็ได้มาหยุด พล.ต.อ.พงศพัศ ชัยชนะหรือแพ้ไม่ได้อยู่ที่ผม และนายกฯก็ตอบหลักการ หากบอกว่าไม่มีวันเอานายจตุพรเข้าไปเสื้อแดงก็รู้สึก จึงต้องรักษาหัวใจผู้คน และให้นายพร้อมพงษ์แถลง" นายจตุพร กล่าว
                นายจตุพร กล่าวต่อว่า ความจริงคนกรุงเทพก็เพิ่มความนิยมพรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ แต่เราเพิ่มที่ 6 แสน ประชาธิปัตย์เพิ่มที่ 9 แสน แม้จะเพิ่มมากกว่าแต่เริ่มจากจุดสตาร์ทที่ต่ำกว่า เรื่องนี้อยู่เหมือนเดิมเหมือนทุกวันที่ผ่านมา ซึ่ง พล.ต.อ.พงศพัศ ตั้งใจลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่เมื่อประชาชนให้เกินล้านแต่ไม่มีรางวัลรองชนะเลิศ มีแต่ชนะเลิศ เมื่อไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ ก็กลับเข้าไปที่ สตช. และเป็น ผบ.ตร. ต่อจากพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ส่วน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็เป็นผู้ว่าฯกทม. อัญมินทร์ เรียบเรียง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น