วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

ตร.ทลายอู่ชำแหละรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม-พบพัวพันคดีความมั่นคง3จว.ชายแดนใต้ เมื่อ 7 มี.ค.56


ตร.ทลายอู่ชำแหละรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม-พบพัวพันคดีความมั่นคง3จว.ชายแดนใต้

เมื่อ 7 มี.ค. พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้รับการประสานงานจาก พ.ต.อ.คำรณ ยอดรักษ์ รอง ผกก.สส.ภาค 9 เพื่อขอกำลังเข้าตรวจสอบอู่ “สิทธิยนตการ” เลขที่ 61 ม.14 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นแหล่งชำแหละรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม จากภาคใต้รายใหญ่ โดยมีการสนธิกำลังกว่า 50 นายเข้าทำการจู่โจมอู่ซ่อมรถดังกล่าว

ซึ่งพบว่าภายในอยู่ดังกล่าวพบว่ามีรถยนต์และซากรถยนต์ ตัวถัง คัสซี ชิ้นส่วนต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยมีรถยนต์ที่รอการชำแหละนับ 10 คัน รวมทั้งซากที่ทำการชำแหละแล้วนับ 100 รายการ นอกจากนั้นยังพบป้ายทะเบียนรถยนต์จากจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะจากภาคใต้ตอนล่างมากกว่า 30 ป้าย เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนจะควบคุมตัวนายอุเทน หรือบังเหด ดำฤทธิ์ อายุ 38 ปี เจ้าของอู่ไว้

ทั้งนี้ พ.ต.อ.คำรณ ยอดรักษ์ รอง ผบก.สส.ภ.9 ได้ระบุว่าได้รับการมอบหมายจาก พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ.9 ได้นำกำลังมาประสานกับตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเข้าทำการตรวจจับผู้ต้องหาดังกล่าว หลังจากได้จับกุมนายอนันต์ มิลยะฟา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 ม.4 ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ซึ่งเป็นหัวหน้าขบวนการโจรกรรมรถยนต์รายใหญ่ในภาคใต้ ได้ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ซึ่งนายอนันต์ นั้นได้ก่อเหตุโจรกรรมรถในหลายจังหวัดของภาคใต้ และอยู่ในระหว่างการประกันตัวหลังจากจับกุมดำเนินคดีอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง และยังไปก่อเหตุที่หาดใหญ่ จ.สงขลา จนถูกจับกุมอีกครั้ง และรับสารภาพว่ารถยนต์ที่โจรกรรมมาได้ส่งมาที่อู่ของนายอุเทนฯ ซึ่งเป็นแหล่งรับซื้อชำแหละรายใหญ่เจ้าหน้าที่จึงเข้าตำรวจจับกุมได้พร้อมของกลางจำนวนมาก

สำหรับรถยนต์ที่โจรกรรมมาส่วนใหญ่เป็นยี่ห้ออีซูซุ เนื่องจากเป็นรถยอดนิยมที่ตลาดต้องการ และคนร้ายก่อเหตุง่ายที่สุด โดยผู้ต้องหาได้ระบุว่าใช้เวลาเพียง 18 วินาทีก็สามารถขึ้นสตาร์ทเครื่องขับหลบหนีไปได้เลย ส่วนรถยี่ห้ออื่นๆ มีบ้างแต่ไม่มาก โดยรถยนต์ที่คนร้ายโจรกรรมส่วนใหญ่จะไม่ติดสัญญาณกันขโมย และเป็นรถที่ค่อนข้างเก่า เพราะขโมยได้ง่าย

ส่วนการสอบปากคำนายอุเทน ผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้รับซื้อรถยนต์จากนายอนันต์ฯ จริงในราคาคันละ 6-8 หมื่นบาทเท่านั้น หลังจากนั้นจะนำมาชำแหละแยกชิ้นส่วนสามารถข่ายอะไหล่ได้คันละกว่า 1 แสนบาท โดยเครื่องยนต์นั้นส่งขายไปยัง จ.ระนอง เพื่อส่งต่อไปยังประเทศพม่า ส่วนตัวถังและคัสซีนั้นจะตัดเอาเลขตัวถังและเลขคัสซีทิ้ง ก่อนเชื่อมต่อใหม่ขายโดยทั่วไป

สำหรับแก๊งโจรกรรมรถยนต์รายใหญ่ของภาคใต้กลุ่มนี้พบว่า เป็นขบวนการค้ารถยนต์โจรกรรมที่มีเครือข่ายที่ใหญ่มาก และยังเชื่อมโยงกับคดีความมั่นคงใน 3 จังหวัดภาคใต้ โดยหลังจากได้ทำการโจรกรรมมาแล้วก็จะนำไปขายในจังหวัดภาคใต้ตอนบนเพื่อแยกชิ้นส่วนหรือตัดต่อเลขคัสซีและตัวถังใหม่แล้วส่งขายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าขายให้กับขบวนการก่อความไม่สงบนำไปก่อเหตุใน จ.นราธิวาส, ปัตตานี เป็นต้น

ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนขยายผลว่ามีความเกี่ยวโยงกับขบวนการใน 3 จังหัดชายแดนภาคใต้อย่างไร และหากพบว่าพัวพันก็จะดำเนินคดีด้านความมั่นคงอีกด้วย ส่วนหลักฐานเช่นแผ่นป้ายทะเบียน และตัวเลขคัสซี และตัวถังต่างๆ นั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดเพื่อแกะรอยหาตัวผู้ร่วมขบวนการ และแจ้งให้เจ้าของรถทราบว่า ก่อนจะควบคุมตัวนายอุเทนไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น