วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556

ผบ.ทบ.เชื่อไฟใต้ยังไม่จบแม้ลงนามร่วมชี้คนเซ็นไม่ใช่โจรบึ้มจริง-หนุนเฉลิมถกมาร์ค เมื่อ 3 มี.ค.56

ผบ.ทบ.เชื่อไฟใต้ยังไม่จบแม้ลงนามร่วมชี้คนเซ็นไม่ใช่โจรบึ้มจริง-หนุนเฉลิมถกมาร์ค 


“ประยุทธ์”ปลื้มคนกรุงฯแห่เลือกตั้งผู้ว่าฯ ชี้ทุกคนต้องส่วนร่วม เพื่อเป็นปชต.โดยสมบูรณ์
เมื่อเวลา 10.00 น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพที่บริเวณเต้นท์ใต้ทางด่วน ซอยประดิพัทธ์ 5 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ซึ่งเป็นหน่วยเลือกตั้งที่12 เขตเลือกตั้งที่ 6 โดยพล.อ.ประยุทธ์มีชื่ออยู่ลำดับที่ 194 จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 574 คน ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังใช้สิทธิ์เลือกตั้งว่า อยากเชิญชวนชาวกรุงเทพทุกคนที่มีสิทธิ์ออกมาเลือกตั้ง ซึ่งการที่มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ตั้งแต่เช้ามืดก่อนเปิดหีบถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี และเป็นเรื่องน่ายินดี ซึ่งวันนี้ตนเดินทางมาทำหน้าที่ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกระบวนการประชาธิปไตย โดยเราต้องเลือกคนที่ดีที่มีความสามารถมาดูแลกรุงเทพ เป็นการใช้ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ทุกคนต้องรู้ทั้งสิทธิและหน้าที่ ถ้าไม่มาเลือกตั้ง เราอาจได้ใครที่เราไม่ถูกใจมาเป็นผู้ว่าฯกทม.ก็ได้ ดังนั้นเราควรมาร่วมกันตัดสินใจ ตนไม่อยากฟังคำว่า ไม่อยากเลือก ไม่ชอบ แต่ถึงเวลาพอมีปัญหาขึ้นมา แล้วบอกว่า ตัวเองไม่ได้เลือกนั้นไม่ได้ ทุกคนต้องมีส่วนร่วมจะชอบหรือไม่ชอบก็ต้องเลือกเพื่อให้เกิดการดำเนินการประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ มิเช่นนั้นจะมีปัญหามาโดยตลอด
“กรุงเทพเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดอันดับ 3 หลายประเทศอยากมาเที่ยว สิ่งสำคัญจะทำอย่างไรให้กรุงเทพเจริญเติบโตเป็นเมืองขยนาดหใญ่ที่มีระเบียบ มีวินัย สะอาด ปลอดภัย แต่ต้องไม่ทิ้งสัญลักษณ์ความเป็นกรุงเทพ ความเป็นคนไทย ทั้งการเป็นคนมีจิตใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ซื่อสัตย์สุจริต เอื้ออาทรต่อกัน สิ่งเหล่านี้ต้องรักษาไว้ให้ได้ ถ้าทำให้เป็นระเบียบเหมือนเมืองอื่น ความเป็นกรุงเทพ ความน่ารัก ความน่าอยู่ และความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ เพราะต้องดูแลนักท่องเที่ยวด้วย เนื่องจากเป็นรายได้หลักของประเทศ ซึ่งต่อไปรายได้ในส่วนนี้จะมากที่สุดกว่าด้านอื่น”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 32 อาคารโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย เขตสายไหม ทั้งนี้บรรยากาศภายในหน่วยเลือกตั้งเป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชน และข้าราชการทหารอากาศออกมาใช้สิทธิ์กันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่บ้านพักของทหารอากาศ ซึ่งหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวยังมีชื่อของ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ อดีตผบ.ทอ. เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งด้วย ส่วนของการรักษาความปลอดภัยนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วย เลือกตั้งคอยดูแลตลอดทั้งวัน และยังไม่พบปัญหาหรือข้อร้องเรียนต่างๆแต่อย่างใด
“ประยุทธ์”เชื่อไฟใต้ยังไม่จบแม้ลงนามร่วม เผยคนเซ็นไม่ใช่โจรบึ้มจริง ชี้เป็นแค่กลุ่มเก่า วอนเลิกพูด”คุยผิดตัว” หนุน”เหลิม”จับมือคุย”มาร์ค”แก้ใต้ ชี้ดับไฟใต้-พระวิหารต้องเป็นวาระชาติ รับทหารลำบากใจการเมืองแบ่งพวก

เมื่อเวลา 10.00 น ที่ซอยประดิพัทธ์ 5 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุคาร์บอมบ์ในจ.ยะลาจนทำให้ทหารเสียชีวิต 2 นายว่า การก่อเหตุในภาคใต้ยังคงต้องมีอยู่แน่นอน ตราบใดยังมีคนเหล่านี้อยู่ ส่วนการลงนาม เพื่อให้เกิดความร่วมมือ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นระหว่างรัฐบาลไทยกับมาเลเซียในการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน การแก้ปัญหามีหลายขั้นตอน วันนี้เราค่อยๆก้าวมาตามลำดับ ทั้งนี้ทุกคนรักห่วงประเทศชาติหมด แต่ต้องห่วงอย่างมีเหตุมีผล และตั้งสติให้ดี ซึ่งไม่ว่าจะลงนามหรือไม่ จะคุยหรือไม่ก็ตาม การต่อสู้ยังไม่จบสิ้น ทหาร ตำรวจ ทุกคนทำงานเต็มที่ แต่จะไม่ให้เกิดเหตุเลยมันยาก อย่าใช้คำว่า ผิดตัวหรือไม่ ในฐานะที่ตนทำงานด้านความมั่นคง จากการข่าวพบว่า มีหลายพวก กลุ่มที่มาลงนามเป็นกลุ่มเก่า มีมานานแล้วหลายสิบปี ซึ่งเป็นระดับผู้ใหญ่ของเขา แต่หลังจากนั้นแตกออกมาเป็นหลายกลุ่ม มีการแย่งชิงความเป็นใหญ่ และเป็นแกนนำ แต่ทั้งหมดร่วมกันทางอุดมการณ์ ซึ่งขณะนี้มีคนกลุ่มใหม่ที่เกิดขึ้นมา โดยเป็นคนไม่หวังดีตั้งตนขึ้นมาใหม่ให้มีอำนาจ เพื่อจะไม่ให้ฟังกลุ่มเก่า โดยทั้งหมดยังกระจัดกระจายอยู่


“วันนี้เป้าหมายแต่ละวัน เราทำงานวันละ 3500 ภารกิจ บางวันมีเหตุเพียง 1-2 ครั้ง ถ้าไม่พูดถึงการสูญเสีย จำนวนครั้งที่เกิดเหตุน้อยมาก แต่ประเด็นคือ มีคนเจ็บและตาย คิดว่า ปัญหาไม่จบภายใน 1-2 วัน อย่าเขียนเลยว่า ผิดตัวอีกแล้ว ขอให้เขียนว่า ความร่วมมือระหว่างกันเพื่อลดความรุนแรง วันนี้ลองดูว่า บางประเทศในอาเซียนรบมา 50 ปี รบโดยใช้กฎหมายพิเศษ ใช้กำลังทหารเต็มรูปแบบ ใช้อาวุธหนักทุกอย่าง เขามีถึง 15 ขั้นตอนจนมาทุกวันนี้ก็ต้องจบด้วยการเจรจา แต่เป็นคนละแบบกับไทย ซึ่งการลงนามเป็นเพียงช่องทางหนึ่งในการแก้ปัญหา ไม่ใช่ตั้งโต๊ะ แล้วจะเอาอะไรก็ได้ ทั้งหมดต้องเข้ากฎหมาย เพราะรัฐธรรมนูญไทยกำหนดแล้วว่า แบ่งแยกไม่ได้ ส่วนเรื่องอื่นๆก็พิจารณากันว่า รับได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐบาล”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คิดว่า เราต้องใจเย็นๆ เมื่อวันนี้เริ่มไปแล้วก็ค่อยๆติดตาม ถ้ายังยังเกิดเหตุก็ให้ทหาร ตำรวจเข้มงวดกันมากขึ้น ขอให้กำลังใจกัน ถ้ามาพูดจากัน หาทางออกกันดีๆก็ไม่ต้องรบกัน เพราะคนไทยด้วยกัน และที่จับมาไม่เคยมีคนต่างชาติ มีแต่คนไทย ทั้งนี้ดูจากท่าทีของคนที่มาลงนามก็จริงใจดีไม่อย่างนั้นจะออกมาทำไม แต่เขาอยากมีบทบาท มีความสำคัญ มีชื่อเสียงทางการเมืองด้วย เพราะถูกทอดทิ้งมานานแล้ว แต่คิดว่า ไม่ใช่เขา ปัญหาอยู่ที่คนที่เขาจะไปพูดด้วย พวกคนรุ่นใหม่ที่โหดๆจะเชื่อเขาหรือไม่ ถ้าไม่เชื่อก็จะเป็นอย่างนี้ต่อไป เราเป็นเจ้าหน้าที่ ไม่ต้องกลัว เราใช้กฎหมายจับกุมเหมือนเดิม ไม่ต้องกลัว ไม่ใช่ว่า เซ็นแล้ว วันนี้เลิกเอาทหารกลับ วันนี้ยังไม่ได้เอาทหารกลับสักคนเดียว ส่วนมาตรา 21 ทุกคนอยากให้ใช้ แต่อย่าลืมว่า พ.ร.บ.ความมั่นคง น้ำหนักน้อยกว่ากฎหมายอาญา หากใครจะเข้ามาม.21 ต้องยื่นชื่อ ผ่านกระบวนการ ผ่านคณะกรรมการ 2 คณะ และเสนอให้นายกฯว่า ควรให้เข้าม.21 หรือไม่ ถ้าไม่เข้าม.21 ก็กลับไปเข้ากฎหมายปกติ เรื่องนี้ต้องเข้าใจ หากใครพูดว่า ออกมารายงานตัวแล้วไม่เห็นพ้นผิดเลย เรื่องนี้ไม่ใช่ เพราะจะกลายเป็นว่า เราไปหลอกมา
เมื่อถามถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะเชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านมาหารือขอข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องดี ต้องคุยกัน เรื่องใต้กับเรื่องเขาพระวิหารเป็นเรื่องที่ควรพูดกัน ทุกคนต้องทำให้เป็นวาระของชาติ คนไทยไม่ว่า จะพรรคใด พวกไหน ต้องช่วยกันแก้ ถ้าเอาเรื่องนี้มาตีกันเอง คิดว่า เจ้าหน้าที่จะแก้ปัญหาได้ลำบาก เจ้าหน้าไปซ้ายก็ผิดใจคนนี้ ทางขวาก็ผิดใจคนนั้น และจะได้ไม่ต้องมาต่อว่า ตนว่า กลับไปกลับมา จุดมุ่งหมายของชาติอยู่ที่ความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ประชาชนเป็นสุข ปลอดภัย การแก้ไขปัญหาภาคใต้จะสำเร็จได้หรือไม่นั้น กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ประชาชนทุกคนในพื้นที่ภาคใต้ต้องร่วมมือกัน
-


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น