วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556

จับตา เก้าอี้แม่ทัพภาค 3 และ 4 “โผทหารกลางปี” มีชื่อ “บิ๊กติ๊ก” พล.ท. ปรีชา น้องชาย “บิ๊กตู่” โผล่ ! วันที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18:58:00 น




จับตา เก้าอี้แม่ทัพภาค 3 และ 4 “โผทหารกลางปี” มีชื่อ “บิ๊กติ๊ก” พล.ท. ปรีชา น้องชาย “บิ๊กตู่” โผล่ !

วันที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18:58:00 น.


พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา



พล.ท.วลิต โรจนภักดี


โผโยกย้ายนายทหารระดับชั้น “บิ๊ก” นายพล ในช่วงเมษาฯนี้ 

“บิ๊กโอ๋” พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ได้เร่งให้ ผบ.ทุกเหล่าทัพจัดทำรายชื่อโดยเร็ว 
จากเดิมที่กำหนดให้ส่งภายในวันที่ 15 ก.พ. แต่ก็ต้องเลื่อนออกไปอีก 1 สัปดาห์ เนื่องจาก ผบ.เหล่าทัพ ติดเดินทางไปต่างประเทศ แต่ทั้งนี้ ทุกเหล่าทัพได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาการโยกย้ายกันไป 1-2 ครั้งแล้ว 

โดยเฉพาะฟากของกองบัญชาการกองทัพไทย นำโดย “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ต้องใช้เวลาในการพิจารณา เนื่องจากต้องให้นายทหารที่จะขยับขึ้นมาเป็นนายพลแสดงวิสัยทัศน์ก่อน 

วันนี้ (5 มี.ค.) “บิ๊กโอ๋” ได้เรียกประชุมคณะกรรมการพิจารณาจัดทำแผนโยกย้ายตำแหน่งนายทหารชั้นนายพลครั้งแรกที่กระทรวงกลาโหม 

ซึ่งประกอบด้วยพล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และ พล.อ.ชาญ โกมลหิรัญ เจ้ากรมเสมียนตรา เป็นผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการปรับย้ายฯ เพื่อหารือถึงการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารกลางปี ในเดือนช่วงเม.ษ.นี้ โดย พล.อ.อ.สุกำพล มีนโยบายให้คณะกรรมการฯ ส่งบัญชีรายชื่อทั้งหมดมาที่กระทรวงกลาโหมภายในวันที่ 15 มี.ค.นี้ 

ทั้งนี้ตำแหน่งสำคัญที่น่าจับตามองคือ “แม่ทัพภาค 3” ที่ พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ โดยมีชื่อของ “บิ๊กติ๊ก” พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพน้อยที่ 3 น้องชายแท้ๆ ในไส้ ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เป็นเต็งหนึ่ง ขึ้นแทน 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่า มีความลำบากใจเรื่องการแต่งตั้ง“น้องชาย” ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 หรือไม่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า 

"ลำบากใจเรื่องอะไร และเขาเป็นใคร เขาสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 15 ตามผมมา ผมไม่ได้เป็นคนให้เขาเข้าโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เขาก็สอบของเขาเอง และโตมาเอง หรือจะต้องให้เขาเปลี่ยนนามสกุล

พร้อมกล่าวต่ออีกว่า 

"อย่ากลัวว่าผมจะตั้งคนตามที่ผมต้องการ เพราะผมตั้งแบบนั้นไม่ได้ ผมยึดหลักการว่าการตั้งคนขึ้นมาต้องตั้งด้วยความรู้ความสามารถและด้วยคุณสมบัติของเขาเป็นหลัก ต้องมีความอาวุโสและได้รับการยอมรับ 
คนเหล่านี้ก็จะรับการกลั่นกรองไปตามลำดับ ตั้งแต่เป็นนายทหารชั้นผู้น้อยจนขึ้นเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ การจะเป็นนายทหารชั้นนายพลไม่ได้เป็นง่ายๆ"
 
นอกจาก ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 3 แล้ว ยังมี “ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4” ที่ต้องจับตาอีกด้วย

เพราะขณะที่สถานการณ์ชายแดนใต้ยังคงรุนแรง และอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แต่จะต้องมาเปลี่ยนแม่ทัพกลางศึก เพราะ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ จะเกษียณ จึงต้องขยับขึ้นชั้นยศเป็นพลเอก 

ซึ่งแหล่งข่าวสายทหารรายงานว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังชั่งใจระหว่างพล.ต.กัมนาท รุดดิษฐ์ รองแม่ทัพภาค 1 นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 16 (ตท.16) ซึ่งโตมาในสายกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1รอ.) และเคยเป็นอดีตผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส (ผบ.ฉก.นราธิวาส) และ พล.ท.วลิต โรจนภักดี ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายส่งกำลังบำรุง อดีต ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ และเคยลงไปทำงานภาคใต้ ตั้งแต่ครั้งเป็น รองผู้บัญชาการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ทหารเสือพระราชินี) 

โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 โดยกล่าวยอมรับว่าควรเป็นคนที่คุ้นเคยการทำงานในพื้นที่จะได้รู้ปัญหา พร้อมแย้มว่า พล.ท.อุดมชัย แม่ทัพภาค 4 จะเป็นผู้เสนอชื่อขึ้นมาเอง 

อีกทั้ง แหล่งข่าวสายทหารรายงาน อีกว่า พล.ท.วลิต นั้นเป็นน้องรักในสายบูรพาพยัคฆ์ และทหารเสือพระราชินีของ พล.อ.ประยุทธ์ และเป็นนายทหารสายเหยี่ยวที่มีความเด็ดขาด แต่ด้วยเพราะเคยถูกระเบิดจนบาดเจ็บสาหัส ในเหตุการณ์กองกำลังชุดดำถล่ม ที่สี่แยกคอกวัว เมื่อ 10 เมษายน 2553 ที่ถึงแม้จะหายดีแล้ว แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่า สภาพร่างกายจะเต็มร้อยพร้อมที่จะทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ได้หรือไม่ 

แต่อย่างไรก็ตาม“เก้าอี้แม่ทัพภาค4” นี้จะเป็น “ทางลัด” อีกทางที่จะทำให้ พล.ท.วลิต ก้าวไปสู่ เก้าอี้ห้าเสือ ทบ. และได้อยู่ในเส้นทางตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกได้ในอนาคต เพราะในเมื่อพล.ท.วลิตไม่อาจขึ้นเป็น แม่ทัพภาค 1 ได้ เนื่องจาก พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เพิ่งรับตำแหน่งไปได้แค่ปีเดียว 

น่าจับตาว่า โผทหารชั้นนายพลที่จะออกมาในช่วงเดือนเมษายนนี้ นายทหารท่านใดจะได้ขึ้นไปรับหน้าที่ในตำแหน่งที่สำคัญ โดยเฉพาะตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 3 และ 4 

ซึ่งเชื่อกันว่า การโยกย้ายช่วงเดือนเมษายนนี้ ไม่น่ามีอะไรผิดคาด หรือสร้างความประหลาดใจให้มากนัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น