จับ2โจ๋พัทยาใช้ไม้ตีเหยื่อก่อนชิงทรัพย์ริมหาดดงตาล
พัทยา กลางดึกคืนวันที่ 10 มี.ค. พ.ต.ท.เอนก สระทองอยู่ สวป. สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งมีคนร้าย ก่อเหตุใช้อาวุธไม้ฟาดผู้เสียหาย แล้วชิงทรัพย์สินหลบหนีไป ที่บริเวณริมชายหาดดงตาล ด้านหลังโรมแรมพัทยาปาร์ค ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจสายตรวจ ชุดสืบสวน ตำรวจอาสาสมัคร แบ่งกำลังกันรุดไปตรวจสอบจำนวนหนึ่ง ส่วนอีกชุดคุลมโซนพื้นที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุ ริมชายหาดดงตาล (จอมเทียน) พบนายจิรพงศ์ จำเนียร อายุ 19 ปี ผู้เสียหาย ถูกไม้ ตีเข้ากกหู ได้รับบาดเจ็บ มีอาการมึนๆ โดยมี Mr.Andrey Shuravin อายุ 30 ปี สัญชาติรัสเซีย ซึ่งเป็นคู่ขากัน และ Mr.Alexauder Tsvetuov อายุ 27 ปี เพื่อนชาย พยาน ยืนรอให้ปากคำกับตำรวจ ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่พาคู่ขา และเพื่อนชายต่างชาติ มาเล่นน้ำทะเลกันกลางดึก โดยที่ตนนั้นนอนเล่นไอแพดมินิ อยู่บนฝั่ง จู่ๆมีคนร้ายวัยรุ่น 2 คน เข้ามาจากด้านหลังก่อนจะใช้ไม้หน้าสามีตีเข้ากกหู 3 ครั้ง แล้วดึงไอแพดมินิจากมือไป พร้อมกับกระเป๋าภายในมีเงินสด 13,000 บาท โทรศัพท์มือถือซัมซุง 2 เครื่อง ก่อนหลบหนีวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่มียานพาหนะให้การหลบหนี
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สุวรรณ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก. สั่งระดมกำลังเฝ้าตามจุด ร้านโทรศัพท์มือถือ ในเมืองพัทยา ซึ่งเชื่อว่าหลังจากคนร้ายก่อเหตุน่าจะเอามาขายต่อเลย พร้อมทั้งสกัดตามถนนเส้นทางที่คาดว่าหลบหนี จนกระทั่งตำรวจอาสาสมัครเมืองพัทยา 2 นาย แจ้งเข้าศูนย์วิทยุ ว่าพบ 2 ชายไทยวัยรุ่น ต้องสงสัยยืนถือกระเป๋าคล้ายกับผู้เสียหาย อยู่หน้าร้านเสื้อผ้า ภายในซอยฮอลลีวูดเก่า พัทยาใต้ จึงเฝ้าไว้กระทั่งรอตำรวจมาตรวจค้น พบทรัพย์สินผู้เสียหายทั้งหมด ถูกหมกซ่อนไว้ตามเสื้อผ้า ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ ต่อมาคือนายปรีชา คล้ายสุวรรณ อายุ 21 ปี และนายสหรัฐ ศักดิ์ดาณุวัฒน์ อายุ 18 ปี ก่อนนำตัวผู้เสียหายมาตรวจสอบ ยืนว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ
สำหรับ ผู้ก่อเหตุ คู่นี้ ได้ร่วมกันลงมือก่อเหตุ โดยที่นายปรีชา เป็นคนใช้ไม้ฟาด ส่วนนายสหรัฐ มีหน้าที่เอาทรัพย์สินผู้เสียหาย หลังจากก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปหาวินจยย. ขึ้นหลบหนีมาลงตรงใกล้กับร้านเสื้อผ้าดังกล่าว ก่อนจะนำเงินมาแบ่งคนละครึ่ง จากนั้นนายปรีชา ก็ได้เดินเข้าไปซื้อเสื้อผ้ากางเกงหลายชุด แล้วนำของกลางซ่อนไว้ ก่อนจะเดินออกมายืนรอรถหน้าร้าน เพื่อเอาทรัพย์สินไปขายต่อ กระทั่งมีตำรวจมาตามจับได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.สุวรรณ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก. ได้มอบเงินส่วนตัว จำนวน 4,000 บาท ให้กับตำรวจอาสาสมัครทั้ง 2 นาย สำหรับในการทำงานอย่างรวดเร็ว และสามารถจับกุมผู้รายได้อย่างทันช่วงที เป็นหูตาให้เจ้าที่หน้าที่ตามนโยบายส่วนตัว ของ สภ.เมืองพัทยา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการมุ่งมั่นทำงานอย่างเข้มแข็งต่อไป
ในที่เกิดเหตุ ริมชายหาดดงตาล (จอมเทียน) พบนายจิรพงศ์ จำเนียร อายุ 19 ปี ผู้เสียหาย ถูกไม้ ตีเข้ากกหู ได้รับบาดเจ็บ มีอาการมึนๆ โดยมี Mr.Andrey Shuravin อายุ 30 ปี สัญชาติรัสเซีย ซึ่งเป็นคู่ขากัน และ Mr.Alexauder Tsvetuov อายุ 27 ปี เพื่อนชาย พยาน ยืนรอให้ปากคำกับตำรวจ ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่พาคู่ขา และเพื่อนชายต่างชาติ มาเล่นน้ำทะเลกันกลางดึก โดยที่ตนนั้นนอนเล่นไอแพดมินิ อยู่บนฝั่ง จู่ๆมีคนร้ายวัยรุ่น 2 คน เข้ามาจากด้านหลังก่อนจะใช้ไม้หน้าสามีตีเข้ากกหู 3 ครั้ง แล้วดึงไอแพดมินิจากมือไป พร้อมกับกระเป๋าภายในมีเงินสด 13,000 บาท โทรศัพท์มือถือซัมซุง 2 เครื่อง ก่อนหลบหนีวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่มียานพาหนะให้การหลบหนี
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สุวรรณ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก. สั่งระดมกำลังเฝ้าตามจุด ร้านโทรศัพท์มือถือ ในเมืองพัทยา ซึ่งเชื่อว่าหลังจากคนร้ายก่อเหตุน่าจะเอามาขายต่อเลย พร้อมทั้งสกัดตามถนนเส้นทางที่คาดว่าหลบหนี จนกระทั่งตำรวจอาสาสมัครเมืองพัทยา 2 นาย แจ้งเข้าศูนย์วิทยุ ว่าพบ 2 ชายไทยวัยรุ่น ต้องสงสัยยืนถือกระเป๋าคล้ายกับผู้เสียหาย อยู่หน้าร้านเสื้อผ้า ภายในซอยฮอลลีวูดเก่า พัทยาใต้ จึงเฝ้าไว้กระทั่งรอตำรวจมาตรวจค้น พบทรัพย์สินผู้เสียหายทั้งหมด ถูกหมกซ่อนไว้ตามเสื้อผ้า ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ ต่อมาคือนายปรีชา คล้ายสุวรรณ อายุ 21 ปี และนายสหรัฐ ศักดิ์ดาณุวัฒน์ อายุ 18 ปี ก่อนนำตัวผู้เสียหายมาตรวจสอบ ยืนว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ
สำหรับ ผู้ก่อเหตุ คู่นี้ ได้ร่วมกันลงมือก่อเหตุ โดยที่นายปรีชา เป็นคนใช้ไม้ฟาด ส่วนนายสหรัฐ มีหน้าที่เอาทรัพย์สินผู้เสียหาย หลังจากก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปหาวินจยย. ขึ้นหลบหนีมาลงตรงใกล้กับร้านเสื้อผ้าดังกล่าว ก่อนจะนำเงินมาแบ่งคนละครึ่ง จากนั้นนายปรีชา ก็ได้เดินเข้าไปซื้อเสื้อผ้ากางเกงหลายชุด แล้วนำของกลางซ่อนไว้ ก่อนจะเดินออกมายืนรอรถหน้าร้าน เพื่อเอาทรัพย์สินไปขายต่อ กระทั่งมีตำรวจมาตามจับได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.สุวรรณ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก. ได้มอบเงินส่วนตัว จำนวน 4,000 บาท ให้กับตำรวจอาสาสมัครทั้ง 2 นาย สำหรับในการทำงานอย่างรวดเร็ว และสามารถจับกุมผู้รายได้อย่างทันช่วงที เป็นหูตาให้เจ้าที่หน้าที่ตามนโยบายส่วนตัว ของ สภ.เมืองพัทยา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการมุ่งมั่นทำงานอย่างเข้มแข็งต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น