วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556

"อดุลย์"สั่งวิเคราะห์ปม"ยาเสพติด" จับพุ่ง-ผลิตเพิ่ม-ดีมานด์ไม่ลด เทียบยอดบำบัดกะเทาะปัญหา วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09:00:48 น.



"อดุลย์"สั่งวิเคราะห์ปม"ยาเสพติด" จับพุ่ง-ผลิตเพิ่ม-ดีมานด์ไม่ลด เทียบยอดบำบัดกะเทาะปัญหา

วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09:00:48 น.
  

รายงาน 


นับจากประเทศจีนประหารชีวิตนายหน่อคำ หัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่แถบลุ่มแม่น้ำโขงบริเวณสามเหลี่ยมทองคำและมาเฟียเก็บค่าคุ้มครอง ในคดีฆ่าลูกเรือชาวจีน ที่น่าจะสร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้กับขบวนการค้ายาเสพติด แหล่งผลิตยาเสพติด บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ กลับพลิกความคาดหมาย!!

หลังจากนั้นไม่นาน วันที่ 10 มีนาคม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีตผบ.ตร.) ที่ปรึกษากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. นำกำลังสกัดกั้นรถบรรทุกสิ่งปฏิกูลลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยมีรถจักรยานยนต์แบบบิ๊กไบค์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับนำ และรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน ฒฒ 5133 กรุงเทพมหานคร ขับประกบตลอดทาง และเกิดการปะทะขึ้นบริเวณบ้านเชียงเคี่ยน หมู่ 1 ต.เชียงเคี่ยน อ.เทิง จ.เชียงราย

เจ้าหน้าที่วิสามัญ นายทวี เตชะเลิศวัฒนา และนายกัปตัน วดีสุขเกษม ชาวเขาเผ่าม้ง ใน อ.พบพระ จ.ตาก เสียชีวิต

และติดตามจับกุมนายยก หาญจิรวัฒนา ชาว จ.เชียงใหม่ นายจักรพงศ์ เจริญไชยเดช ชาว จ.เชียงใหม่ นายเสกสรร แซ่ย้าง ชาว จ.ตาก และนายยงยุทธ เพชรสกุลไพร ชาว จ.ตาก พร้อมยาบ้า 1.5 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 50 กิโลกรัม ซุกซ่อนในรถบรรทุกสิ่งปฏิกูล รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีบีอาร์ 250 ซีซี สีดำ ทะเบียน กลค 459 กรุงเทพมหานคร อาวุธปืนขนาด 7.62 มม. อาวุธปืนขนาด .357 และโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง

ต่อมาวันที่ 12 มีนาคม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. แถลงจับกุม นายสาคร เปียสังข์ อายุ 42 ปี ชาว จ.น่าน นางญาณวัฒนา เปียสังข์ อายุ 40 ปี ชาว จ.น่าน และนายออง บูน เชียง หรือเบิร์ด อายุ 38 ปี สัญชาติมาเลเซีย พร้อมเฮโรอีน 188 ก้อน น้ำหนัก 65.8 กิโลกรัม รถบรรทุกยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 70-0425 น่าน รถยนต์โตโยต้าสีดำทะเบียน DF500 และสว่านไขควงไฟฟ้า ได้บนจุดตรวจค้นถนนเพชรเกษม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

ขยายผลจับกุม ด.ต.ฉริยะ รชตวงศ์ชัย ผบ.หมู่ งานสอบสวน สภ.เมืองน่าน พี่ชายนางญาณวัฒนา ทำหน้าที่ประสานงานและสั่งการ

เป็นการจับกุมยาเสพติดบิ๊กล็อต 2 รายซ้อน!!

ทั้งนี้ ในการประชุมศูนย์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพส.ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้ติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดยาเสพติดอย่างใกล้ชิด ทั้งเรื่องการนำเข้า การลำเลียง การแพร่ระบาด การสกัดกั้น การปราบปราม และผลการดำเนินงานในด้านต่างๆ

พร้อมทั้งมอบหมายให้แต่ละกองบัญชาการ (บช.) ส่งเจ้าหน้าที่อบรมพิเศษเรื่องการขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด ให้งบประมาณในการสกัดกั้น และให้แต่ละ บช.แข่งขันกันว่าหน่วยใดมีผลการจับกุมและขยายผลยึดทรัพย์ได้มากที่สุด

พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส.เผยถึงสถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบัน ว่า ภาพรวมการจับกุมยาเสพติดในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าทำได้อยู่ในขั้นที่ดี สามารถจับกุมยาบ้าได้ถึง 51 ล้านเม็ด โดยเฉพาะ บช.ปส. มีผลการจับกุมถึง 30 ล้านเม็ด จากภาพรวมสถิติการจับกุมในช่วงปี 2555 จับกุมได้เพียง 21 ล้านเม็ด ส่วนปีอื่นๆ ก่อนหน้านี้จับกุมได้กว่า 10 ล้านเม็ดเท่านั้น

"แต่การจับกุมได้มากขึ้น โดยที่ซัพพลายหรือกำลังการผลิตยังไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มขึ้น ส่วนดีมานด์หรือปริมาณความต้องการภายในประเทศยังไม่ลดน้อยลงเช่นกัน พล.ต.อ.อดุลย์จึงได้สั่งการให้ไปวิเคราะห์ดูว่าตัวเลขของการบำบัดรักษาเป็นอย่างไรบ้าง ฝากให้ดูเรื่องมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าสอดคล้องกันหรือไม่ พร้อมทั้งให้พัฒนาระบบการปฏิบัติการ ทั้งเรื่องเทคโนโลยี กำลังคน นักวิเคราะห์ และอื่นๆ ให้ทันต่อเหตุการณ์ ต้องวิเคราะห์ว่าในภาพรวมจะมีวิธีการใดที่จะทำให้การจับกุมได้ผลดีขึ้นกว่าเดิม หรือควรจะใช้มาตรการอะไรเพื่อให้ได้ผลเพิ่มมากขึ้น"

ส่วนเส้นทางการลำเลียงและการนำเข้ายาเสพติด พล.ต.ท.ชัยวัฒน์เผยว่า กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดเริ่มเบนเข็มไปสู่ภาคอีสานมากขึ้นเรื่อยๆ เครือข่ายยาเสพติดถูกตัดตอนมากขึ้น ทั้งขบวนการขนและขบวนการลำเลียง รวมทั้งเครือข่ายเดิมที่เคยมีอยู่ ภาพรวมอาจจะยังไม่ชัดเท่าไหร่ แต่งานด้านการข่าวของทาง บช.ปส.สร้างความลำบากให้กับขบวนการค้ายาเสพติดเป็นอย่างมาก กลุ่มผู้ค้ายาจึงต้องเลี่ยงไปหาช่องทางอื่นในการลำเลียงแทน

"สำหรับวิธีการลำเลียงนั้น สังเกตว่ากรณีที่ตำรวจจับกุมเครือข่ายนายออง บูน เชียง สัญชาติมาเลเซีย และ ด.ต.ฉริยะ รชตวงศ์ชัย ผบ.หมู่ งานสอบสวน สภ.เมืองน่าน พร้อมพวก ได้ของกลางเฮโรอีน 188 ก้อน น้ำหนักรวม 65.8 กิโลกรัมนั้น มีการดัดแปลงรถบรรทุก 6 ล้อ โดยดัดแปลงส่วนบรรทุกด้านหลังรถเป็นตู้เซฟที่ใช้สำหรับขนยาเสพติด

"และอีกคดีที่จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 1.5 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 50 กิโลกรัม มีการดัดแปลงซุกซ่อนยาเสพติดในรถบรรทุกสิ่งปฏิกูล จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 กรณีที่ถูกจับกุมล่าสุดนั้น กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดมีวิธีการลำเลียงยาที่สลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพื่อเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่"

ส่วนกรณีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเกี่ยวโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดด้วยนั้น พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ชี้ว่า เป็นเรื่องของผลประโยชน์ที่เข้าไปติดอยู่ในวังวน เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้ อาศัยความเป็นตำรวจมีความคุ้นเคยในการทำงาน จนคิดว่าตัวเองรอดพ้นการจากจับกุมได้ ซึ่งเป็นเพียงช่วงแรกๆ แต่ครั้งต่อๆ ไปก็ไม่รอด

"สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปพัวพันขบวนการค้ายาเสพติดนั้น พล.ต.อ.อดุลย์เน้นย้ำ ให้ผู้บังคับบัญชาใส่ใจและสนใจในตัวผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเอง โดยจะต้องดูแลไปถึงครอบครัวด้วย ส่วนเรื่องงบประมาณทาง พล.ต.อ.อดุลย์ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องสวัสดิการต่างๆ และมอบเงินรางวัลในการจับกุม เพื่อลดภาระของตำรวจด้านอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจ ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด"

แต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังเข้าไปเกี่ยวข้องหรือพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด พล.ต.ท.ชัยวัฒน์กล่าวว่า ตรงนี้ไม่มีข้อยกเว้นเด็ดขาด จะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด!!

ต่อข้อถามกรณีประเทศจีนตัดสินประหารชีวิตนายหน่อคำ หัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่แถบลุ่มแม่น้ำโขงบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ และฆ่าลูกเรือชาวจีนนั้น พล.ต.ท.ชัยวัฒน์กล่าวว่า นายหน่อคำถือเป็นกลุ่มๆ หนึ่งซึ่งลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศไทยจำนวนมาก ตั้งกลุ่มเป็นลักษณะเก็บค่าผ่านแดน คุ้มครองคาราวานยาเสพติด แต่พอนายหน่อคำเสียชีวิตไป ยังคงมีบุคคลในลักษณะนี้ตั้งตัวเป็นตัวแทนขึ้นมา ส่วนเครือข่ายอื่นๆยังคงอยู่ มีการพัฒนาปรับเปลี่ยนรูปแบบไป เรายังคงต่อสู้กับขบวนการค้ายาเสพติดอย่างนี้ต่อไป

?มาตรการทุกอย่างต้องดำเนินการอย่างเข้มแข็ง ทั้งด้านการประสานงานกับต่างประเทศ การสกัดกั้นตามแนวชายแดน การบำบัดรักษา และการป้องกัน ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่ให้คนหลงเข้าไปสู่วงจรยาเสพติด โดยจะเน้นให้ความรู้ความเข้าใจกับเด็กและเยาวชน สร้างเด็กให้มีภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็ง ถ้าหากเยาวชนไม่ติดยาเสพติดปัญหาก็จะลดน้อยลง ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ส่วนด้านการปราบปราม จะทำอย่างต่อเนื่องและมีผลจับกุมให้ได้มากที่สุด? ผบช.ปส.ระบุ

ส่วนการปราบปรามยาเสพติด ก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 พล.ต.ท.ชัยวัฒน์เผยว่า ต้องเตรียมมาตรการรองรับไว้ สิ่งที่เราต้องทำคือจะต้องเตรียมตัวเองให้พร้อม ทั้งรูปแบบวิธีการทำงาน ระบบฐานข้อมูล เทคโนโลยี การพัฒนาบุคคล และการประสานงานระหว่างประเทศ ที่ผ่านมารัฐบาลให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เพียงแต่เรายังทำงานอยู่บนข้อจำกัดหลายอย่าง ดังนั้น จะต้องกระตุ้นตัวเองให้ทำงานอย่างเต็มความสามารถ ใช้การประสานงานและการทำงานร่วมกัน เพื่อให้งานเดินหน้าได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ และเพื่อให้ยาเสพติดในประเทศไทยหมดสิ้นไป

เป็นข้อมูลที่บ่งชี้ว่าสถานการณ์ยาเสพติดไม่ได้เบาบาง แม้ยอดการจับกุมจะเพิ่มมากขึ้นกว่าเท่าตัว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งทำการบ้าน หาคำตอบถึงสาเหตุ เพื่อขุดรากถอนโคนขบวนการค้ายานรก!!

หน้า 8 มติชนรายวัน ฉบับวันอาทิตย์ที่  17มีนาคม 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น