วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

อภิสิทธิ์งงเจริญเชิญคุยถอนร่างกม.ปรองดอง เมื่อ 12 มี.ค.56




อภิสิทธิ์งงเจริญเชิญคุยถอนร่างกม.ปรองดอง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 จะเชิญไปหารือร่วมกับวิปรัฐบาลในการถอนร่างกฎหมายปรองดอง จำนวน 4 ร่างที่ค้างอยู่ในสภา ว่า เมื่อมีการบอกว่าประธานสภาฯไม่มีอำนาจในการถอน 4 ร่างกฎหมายดังกล่าวแล้วจะเชิญตนไปพูดคุยทำไม และการถอนก็ไม่ได้เกี่ยวกับตน เป็นเรื่องที่ประธานสภาต้องไปคุยกับผู้เสนอร่าง ไม่จำเป็นต้องเอาตนไปเกี่ยวข้อง ถ้าท่านมีความจริงใจและเห็นว่า 4 ฉบับที่ค้างอยู่เป็นปมความขัดแย้ง ก็ต้องไปเจรจากับคนที่ก่อปมขัดแย้ง ถ้ามาคุยกับตนแล้วตนจะทำอะไรได้ คงไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับคนเสนอร่างที่มีอำนาจในการถอน การที่จะให้ฝ่ายค้านและรัฐบาลมาคุยกัน อยากบอกว่าตนไม่มีอะไรขัดแย้ง แต่อยากบอกว่ากฎหมาย 4 ฉบับ เป็นปัญหากับบ้านเมือง การที่ทุกฝ่ายยืนยันว่าไม่ได้คิดจะช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถ้าจริงใจตนก็ขอให้ถอนร่างออกไป โดยนายเจริญ ควรไปคุยกับคนที่มีอำนาจในการถอน เพื่อแสดงความจริงจังในแนวคิดการปรองดอง ถ้าทำเสร็จแล้วอยากคุยเรื่องนิรโทษกรรมก็ค่อยมาว่ากัน แต่ไม่ควรเอาตนและพรรคประชาธิปัตย์หรือกลุ่มอื่นที่ไม่เห็นด้วย ไปเป็นเงื่อนไขในการถอนหรือไม่ถอน แต่ถ้านายเจริญยังไม่เข้าใจก็คงคุยกันยาก 

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การที่บอกว่าการเดินหน้าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ในการประชุมพรรคเพี่อไทย เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ก็ยังมีการทวงอยู่ว่าอยากกลับบ้าน ซึ่งแสดงว่ามีเจตนาซ่อนเร้นอยู่ แต่ถ้าจะไม่อยากให้มองว่ามีเจตนาซ่อนเร้น ก็ต้องทำให้พวกตนดูก่อน เช่น การพูดคุยให้มีการถอน 4 ร่างกฎหมายออกไป รัฐบาลจะประกาศเจตนารมณ์ได้หรือไม่ ว่าขอบเขตการนิรโทษกรรมอยู่ตรงไหน ซึ่งการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สไกป์มาก็ยิ่งทำให้มีความขัดแย้งเพิ่มขึ้น ตนคิดว่าถ้าอยากปรองดองจริง ควรลด เลิก ประโยชน์ส่วนตน ส่วนพวก เพราะถ้าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ครอบงำอยู่อย่างนี้ บ้านเมืองก็มีความเสี่ยงไปเรื่อยๆ ถึงเวลาที่จะก้าวพ้นได้แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น